จิตแพทย์ดัง - ทนายเกิดผล แสดงความคิดเห็น แนวทางออกเรื่องหยก ใช้วิธีปล่อยให้คนรอบข้างตัดสิน เรียนรู้ด้วยตัวเอง บวกกับเจรจากันดี ๆ ห้ามต่อต้าน เพราะทุกคนเคยผ่านการเป็นวัยรุ่น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทะลุแก๊ซ - Thalugaz
ประเด็นหยก นักกิจกรรมนักเรียนเป็นเรื่องราวร้อน ๆ ในวงการการศึกษา หลายฝ่ายค่อนข้างเสียงแตกทั้งสนับสนุนเรื่องการแต่งกายไพรเวต ย้อมสีผมเข้าโรงเรียน อีกฝั่งหนึ่งก็ต่อต้านไม่เห็นด้วย มองว่าเป็นการแหกกฎ
ล่าสุด วันที่ 18 มิถุนายน 2566 เฟซบุ๊ก นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หรือ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ปัญหาการเรียนต่อของหยกได้ขยายบานปลาย จนเข้าไปอยู่ในวังวนความรู้สึกที่รุนแรง หวาดกลัวในการแสดงออกของคนหนุ่มสาวในยุคปัจจุบันที่มีความเห็นต่างทางการเมือง สังคม และการศึกษา สามารถแบ่งปัญหาพื้นฐานเรื่องนี้ออกเป็น 2 ด้าน ได้แก่
2. เรื่องของวัย ผู้ใหญ่ทุกคนล้วนผ่านการเป็นวัยรุ่น จึงไม่ยากที่จะเข้าใจว่าเป็นวัยที่แสวงหาอัตลักษณ์และความเป็นตัวของตัวเองจนแสดงออกไม่ถูกใจเราก็ได้ แต่เราต้องฟังและให้ความสำคัญกับความมีอยู่ ความเป็นตัวตนของเขา ถึงจะมองข้ามการแสดงออกบางอย่างที่เหมือนรุนแรงไปได้ และเขาจะกลับไปมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ ถ้าหากผู้ใหญ่ไม่ยอมรับและกดดัน เขาอาจจะรุนแรงมากขึ้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทะลุแก๊ซ - Thalugaz
เสนอแนวทางแก้ไข
สื่อสังคมต้องช่วยกัน 2 ไม่ คือ ไม่ผลิตและไม่ส่งต่อความเกลียดชัง ความรุนแรง
2. เตือน การเตือนด้วยเหตุผล เพื่อให้สังคมไทยกลับมาอยู่บนพื้นฐานของการเปิดรับความเห็นต่างโดยไม่เกลียดชัง เพื่อทำให้เดินหน้าต่อไปได้
ส่วนการแก้ไขปัญหาการเห็นต่างกับเยาวชน สถานศึกษาควรใช้มาตรการเชิงป้องกันด้วยการสื่อสารให้เข้าใจทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ โรงเรียน ผู้ปกครอง นักเรียน ผ่านกลไกต่าง ๆ แต่ถ้ามันบานปลายไปแล้วอย่างที่เป็นข่าว ก็ควรให้สายวิชาชีพที่ทำงานโดยไม่มีอคติทางการเมืองเข้ามาเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยโดยเฉพาะนักสังคมสงเคราะห์ของกระทรวง พม. และนักวิชาชีพสุขภาพจิตของกระทรวงสาธารณสุข
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด
ทนายเกิดผล แนะวิธีแก้ปัญหาหยก
นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ โพสต์เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด ว่า คนจะอยู่ร่วมกันในสังคมต้องเคารพกติกาที่อยู่ร่วมกัน ถ้าหยกอยากไปโรงเรียน ก็ปล่อยเขาให้เข้าไปได้เลย แต่เมื่อเข้าไปแล้ว สังคมของเขาจะเป็นคนคัดกรองเอง
ถ้าเข้ากับสังคมไม่ได้ เช่น เพื่อนไม่เล่นด้วย ไม่คุยด้วย ครูไม่สอน ไม่ให้ความสำคัญ เขาจะอยู่ยังไง เรื่องนี้เขาก็ต้องเรียนรู้และรับบทเรียนด้วยตัวเอง การกระทำสำคัญกว่าคำพูด