ตำรวจ สน.บางรัก เร่งติดตามล่าตัวคนร้าย ใช้ก้อนหินทุบหัว-ชิงทรัพย์ ลูกสาวอดีตรัฐมนตรีช่วยฯ กลางวันแสก ๆ ฝากแชร์ผ่านเฟซบุ๊ก-ตั้งค่าหัว ด้าน พงศพัศ เล็งเสนอขอรางวัลนำจับเพิ่ม
วันที่ 4 ตุลาคม 2558 มีรายงานว่า ตำรวจ สน.บางรัก ได้ฝากประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อตามล่าคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธที่มีลักษณะเป็นของแข็งทุบหัวและชิงทรัพย์ น.ส.สฤตาพร สันติเมทนีดล อายุ 30 ปี นักวิเคราะห์การเงิน ธนาคารซูมิโตโม ลูกสาวของ นายสฤต สันติเมทนีดล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ทำให้ผู้เสียหายสลบและได้รับบาดเจ็บ
โดยคนร้ายก่อเหตุใกล้ตึกชาญอิสสระ ทาวเวอร์ 1 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ ก่อนที่ศาลอาญากรุงเทพใต้จะออกหมายจับในข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พ.ต.อ. นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางรัก เผยว่า หลังเกิดเหตุสั่งการให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนหาข้อมูลเบาะแสของคนร้าย กระทั่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พบคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวลายทางฟ้า กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน หมวกแก๊ปสีน้ำเงิน รองเท้าแตะสีแดง หลังก่อเหตุได้วิ่งไปเรียกรถแท็กซี่ ทะเบียน ทย 1363 กรุงเทพมหานคร ของสหกรณ์แท็กซี่ปทุมวัน บริเวณหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หลบหนีไป
จากการตรวจสอบพบว่า รถแท็กซี่คันดังกล่าวมี นายเฉลิม จีนเมือง อายุประมาณ 45 ปี เป็นโชเฟอร์ เมื่อตามตัวโชเฟอร์มาสอบสวน ทราบว่าหลังก่อเหตุ คนร้ายเป็นชายไทย อายุประมาณ 25-30 ปี ผิวขาว สูงประมาณ 170-175 ซม. เรียกรถที่หน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อไปลงย่านประตูน้ำ จากนั้นคนร้ายขอลงที่หน้าห้างฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ด้านถนนราชดำริ เนื่องจากรถติด ก่อนจะเดินหายไปกับฝูงชน
ทั้งนี้หากผู้ใดพบเห็นคนร้าย สามารถแจ้งได้ที่เบอร์ 0-2266-7000 ตลอด 24 ชม. และหากเบาะแสนำไปสู่การจับกุม จะมีรางวัลเป็นเงินสด 5,000 บาท
ด้าน พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจนครบาลบางรักเป็นที่แรก หลัง พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบนโยบายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้ก้อนหินทุบศีรษะ น.ส.สฤตาพร สันติเมทนีดล โดยรับฟังการสรุปรายละเอียดคดีนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถสอบสวนจากพยาน 2 คน โดยพยานให้การที่เป็นประโยชน์กับรูปคดี จนสามารถออกหมายจับได้ พร้อมตั้งรางวัลนำจับ 5 พันบาท ก่อนได้เบาะแสล่าสุดว่าคนร้ายหลบหนีไปย่านประตูน้ำ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ได้ภาพที่ชัดที่สุดจากวงจรปิดมาติดตามตัว และจัดชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
โดย พล.ต.อ. พงศพัศ ระบุว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ และติดตามมาค่อนข้างนาน เบื้องต้นจะขอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพิ่มรางวัลนำจับให้ พร้อมขอประสานข้อมูลจากประชาชนที่พบเห็น หรือมีคนร้ายให้แจ้งมายังตำรวจท้องที่ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลคนร้ายลงในเฟซบุ๊กชื่อ Robo cops Shinnawatra
ภาพจาก รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, สำนักข่าว INN 
