วันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 เว็บไซต์ Philly Voice เปิดเผยเหตุชวนสลด ระบุว่า บ๊อบบี้ บาร์นส ชายไร้บ้านวัย 51 ปี ถูกกลุ่มคนรุมทำร้ายด้วยการใช้เท้าและของแข็งทุบตี ขณะยืนอยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งของเมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา
บ๊อบบี้บาดเจ็บสาหัสจากการรุมทำร้ายครั้งนั้น เขาถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ก่อนจะตกอยู่ในภาวะโคม่า มีสภาพผักเรื้อรัง (Vegetative State) เป็นเวลานานกว่า 7 เดือน จนกระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน
กล้องวงจรปิดที่หน้าร้านสะดวกซื้อสามารถจับภาพเหตุการณ์ระทึกไว้ได้ทั้งหมด โดยในคลิปวิดีโอปรากฏภาพรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดที่หน้าร้าน กลุ่มคนราว 5-6 ราย ก้าวลงมาจากรถและพุ่งเข้าใส่บ๊อบบี้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะรุมกระทืบและทุบตีเขาด้วยของแข็งจนกระทั่งบ๊อบบี้ล้มลงนอนกับพื้นปูน กลุ่มคนร้ายจึงล่าถอยไปในที่สุด
เจ้าหน้าที่ตำรวจตามสืบสวนจนสามารถจับตัวคนร้ายได้ทั้งหมด 6 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กหญิงวัย 12 ปี และเด็กชายวัย 13-14 ปี อยู่ด้วย
ส่วนหัวโจกที่เป็นผู้นำกลุ่มคือ เอลีเธีย กิลลาร์ด วัย 34 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนสาเหตุและแรงจูงใจของการก่อเหตุ ทางผู้ต้องหาอ้างว่า ลูกชายวัย 10 ขวบของเธอได้มาฟ้องว่า บ๊อบบี้ บาร์นส ทำร้ายร่างกายเขาด้วยการชกต่อย หลังจากที่ทั้งคู่มีปากเสียงกันเรื่องแย่งเติมน้ำมันให้ลูกค้าในปั๊ม
แต่จากการสืบสวนโดยละเอียดพบว่า เด็กชายโกหกและแต่งเรื่องดังกล่าวขึ้นทั้งหมด โดยบาดแผลนั้นเด็กชายได้มาหลังทำรถจักรยานล้มขณะปั่นมาตามทางกลับบ้าน จึงกุเรื่องขึ้นเพื่อที่จะได้ไม่โดนผู้เป็นแม่ดุด่า
ทั้งนี้ ครอบครัวของบ๊อบบี้ บาร์นส ได้สร้างหน้าเว็บสำหรับระดมทุนเงินบริจาคเพื่อใช้เป็นค่าจัดงานศพให้กับเขา บนเว็บไซต์ Gofundme ซึ่งมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินกว่า 900 เหรียญดอลลาร์สหรัฐแล้วในขณะนี้
ด้านน้องสาวของบ๊อบบี้กล่าวด้วยความเศร้าโศกว่า คนส่วนใหญ่อาจคิดว่าการตายน่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่าสำหรับคนไร้บ้าน แต่ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่าไม่มีมนุษย์คนไหนอยากตาย และพี่ชายของเธอก็รักชีวิตเช่นกัน