ปตท. แจงคลิปเด็กปั๊มเล่นมือถือ-อ.เจษฎา วอนอย่าด่วนสรุปโทษเด็กปั๊ม

          ปตท. แจงคลิป เด็กปั๊มเล่นมือถือ ไฟลุกพรึ่บไหม้หัวจ่าย-มอเตอร์ไซค์ลูกค้า ด้าน อ.เจษฎา วอนอย่าเพิ่งโทษเด็กปั๊ม ควรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียด

          เป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการในปั๊มน้ำมันได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะถึงแม้จะมีข้อห้ามมีป้ายห้าม ติดไว้ว่า ห้ามติดเครื่องยนต์, ห้ามใช้โทรศัพท์, ห้ามสูบบุหรี่ แบบย้ำแล้วย้ำอีกสักเท่าไร แต่ก็ยังมีคนที่ละเลยไม่ปฏิบัติตาม ส่วนคลิปเหตุการณ์ที่จะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ที่ จ.สุรินทร์  ซึ่งเด็กปั๊มเล่นโทรศัพท์และจังหวะนั้นมีรถจักรยานยนต์มาเติมน้ำมัน (แก๊สโซฮอล์ 91) พอดี เด็กปั๊มเลยวางโทรศัพท์ไว้หลังที่เติมน้ำมัน จนกระทั่งเกิดประกายไฟและไฟลุกพรึ่บไหม้รถวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง
             อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับประเด็นนี้ อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักวิชาการและอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตั้งข้อสังเกตผ่านเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ว่า คลื่นโทรศัพท์มือถือทำให้เกิดไฟลุกไหมนั้นไม่เป็นความจริง เพราะไม่สามารถจุดน้ำมันหรือแม้แต่ไอน้ำมันให้ติดไฟได้ เพียงแต่เป็นความเชื่อที่พูดต่อ ๆ กันมา และไม่อยากให้ไปโทษเด็กปั๊มว่าผิด เนื่องจากดูตามคลิปเด็กปั๊มได้หยุดเล่นโทรศัพท์ก่อนที่จะเติมน้ำมันและได้ วางโทรศัพท์ไว้บนตู้จ่าย ไม่ได้เอาเข้าไปใกล้หัวจ่าย ดังนั้นความเชื่อที่บอกว่าใช้โทรศัพท์ขณะเติมน้ำมัน เป็นเพียงการให้ระมัดระวังเท่านั้น สิ่งที่จะจุดไฟได้ต้องมีประกายไฟ เช่น จากการสูบบุหรี่ตอนเติมน้ำมัน หรือมือผู้ที่เติมน้ำมันนั้นมีไฟฟ้าสถิตเกิดขึ้น  ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว ควรให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบให้ละเอียดก่อน อย่าเพิ่งโทษเด็กปั๊ม 


             ขณะเดียวกัน ทาง ปตท. ก็ได้ชี้แจงถึงเหตุดังกล่าว โดยเบื้องต้นสันนิษฐานว่า เกิดจากไฟฟ้าสถิตจากเด็กปั๊มที่เพิ่งใช้โทรศัพท์มือถือก่อนเติมน้ำมัน แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

            สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 16.40 น. จากคลิปจะเห็นได้ว่า..

- เด็กปั๊มกำลังเล่นโทรศัพท์


- เมื่อมีรถเข้ามาก็เดินไปให้บริการ หยิบมือถือวางไว้หลังตู้


 - จากนั้นไฟก็ลุกพรึ่บ


- ด้านเด็กปั๊มคนอื่น ๆ มาช่วยกันดับไฟ ท่ามกลางความแตกตื่นของทุกคน

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant, PTT Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์