ปอ ประตูน้ำ โดนจำคุก 12 ปี ปรับกว่า 69 ล้าน ฐานรุกทะเลตราด

         ศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อม พิพากษาสั่งจำคุก ปอ ประตูน้ำ 12 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมปรับ 69,255,000 บาท ฐานรุกทะเลตราด เมื่อปี 2550

         วันที่ 29 มิถุนายน 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอข่าวว่า จากคดีที่ นายไพรจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือ ปอ ประตูน้ำ วัย 75 ปี ซึ่งตกเป็นจำเลยความผิดฐานร่วมกันบุกรุกเข้าแผ้วถาง ทำลายป่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันสร้างสิ่งอื่นใดล่วงล้ำเข้าไปในทะเลในเขตน่านน้ำไทย ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด รวมเนื้อที่กว่า 40 ไร่ เมื่อปี 2550 และถูกดำเนินคดีตามความผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย
         ทั้งนี้ ในศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยมีความผิดจริง จึงทำการพิพากษาลงโทษจำเลยทุกกรรม โดยสั่งลงโทษจำคุก 12 ปี และปรับ 69,255,000 บาท โดยนายไพรจิตร ได้ทำการยื่นอุทธรณ์ พร้อมใช้หลักทรัพย์ขอประกันตัวชั่วคราว ต่อมา ศาลอุทธรณ์ภาค 2 แก้คำพิพากษาให้ลงโทษนายไพรจิตร เพียงกรรมเดียว คือ ให้จำคุก 5 ปี นอกนั้นให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์และจำเลยยื่นฎีกาต่อ และระหว่างการพิจารณานายไพรจิตร จำเลยในคดี ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่ให้การปฏิเสธเป็นรับสารภาพในชั้นศาลฎีกา และขอให้ลงโทษสถานเบา

         กระทั่งล่าสุด (28 มิถุนายน 2559) ศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อม ได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยถมดินลงไปในทะเล เป็นการทำลายสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก จนยากที่จะเยียวยาแก้ไขให้มีสภาพกลับมาดีดังเดิมได้อีก ส่วนกรณีที่จำเลยขอถอนคำให้การเดิมที่ให้การปฏิเสธเป็นรับสารภาพในชั้นศาลฎีกา และขอให้ลงโทษสถานเบานั้น ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากต้องกระทำในศาลชั้นต้นเท่านั้น

         สุดท้ายแล้ว ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 12 ปี ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยไม่อาจรอการลงโทษจำคุกได้ โดยขณะนี้นายไพรจิตร ถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดตราด อยู่ที่เรือนจำจังหวัดตราด

ภาพจาก springnews

ข้อมูลจาก