ตำรวจตามจับตัวคนร้ายชิงรถกระบะที่สระบุรี ทำร้ายร่างกายแม่ แล้วโยนลูก 2 คนลงจากรถได้แล้ว เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้โยนเด็กลงจากรถ อ้างเด็กตื่นขึ้นมาแล้วถีบน้องลงจากรถเอง
สืบเนื่องวันที่ 24 สิงหาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค จ.สระบุรี รับแจ้งจากนายบุญเหลือ แจ่วกระโทก อายุ 32 ปี ชาว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ขณะที่ตนแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ตรงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 82 อ.หนองแค หลังเติมน้ำมันเสร็จ ก็ได้เดินไปเข้าห้องน้ำ โดยจอดรถไว้แต่ไม่ดับเครื่องเพราะมีภรรยาและลูก ๆ อยู่ในรถ ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นเปิดประตูรถกระบะเข้ามา และขับรถออกไป ต่อมา ภรรยาของตนพยายามแย่งพวงมาลัยกับคนร้าย แต่กลับถูกชกเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง และถูกคนร้ายถีบลงข้างทาง ขณะที่ลูกสาวอีก 2 คน ก็ถูกจับโยนลงกลางถนน ก่อนคนร้ายขับรถหนี [อ่านข่าว : อุกอาจ ! 2 โจรบุกชิงปิกอัพกลางปั๊มน้ำมัน รุมต่อยภรรยา-โยนลูกเจ้าของรถลงถนน]
ล่าสุด วันที่ 29 สิงหาคม 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกชิงรถกระบะที่สระบุรีว่า เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ 2 ราย คือ นายฉัตรชัย และนายนุ้ย หลังสืบทราบว่าคนร้ายได้นำรถกระบะคันดังกล่าวไปขายในอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในราคา 100,000 บาท ส่วนผู้ต้องหาอีกรายนั้นยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว
ขณะที่ นายบุญเหลือ และนางพัชรินทร์ ได้เดินทางมารับรถที่สถานีตำรวจ โดยนางพัชรินทร์ กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยกันติดตามจนได้รถกระบะคืนมา พร้อมบอกว่า ก่อนหน้านี้พวกตนคิดว่าอาจจะไม่ได้รถคืนมาแล้ว
ต่อมา มีรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ได้นำกำลังเข้าจับกุม นายวัชรพงษ์ หรือ เอก ชมเหิม ผู้ต้องหาในคดีอีกราย ที่หลบหนีมาอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น นายวัชรพงษ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อหา แต่ให้การภาคเสธว่า ไม่ได้โยนเด็กทั้ง 2 คนลงจากรถตามที่ปรากฏในข่าว แต่เด็กตื่นขึ้นมาแล้วถีบน้องลงจากรถ และกระโดดลงจากรถไปเอง แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ
ภาพและข้อมูลจาก
, 
