หญิงท้อง 7 เดือน ฟิวส์ขาดสาดน้ำกรดใส่เด็ก 3 คน ฉุนนั่งดูโทรทัศน์บนที่นอน สามีห้ามเจ็บด้วย เด็ก 6 ขวบ สาหัสสุด
วานนี้ (12 ตุลาคม 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุสาดน้ำกรดใส่กันที่บ้านเลขที่ 118/3 ถ.ห้วยยอด ซ.8 ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 4 คน เป็นเด็กชาย 3 คน และสามีผู้ก่อเหตุ 1 คน ทราบชื่อต่อมา คือ
ด.ช กมล เก้าพี่น้อง อายุ 10 ขวบ บุตรชายของนายชัยโย
ด.ช อนันต์สิทธิ์ หวานพูล อายุ 11 ขวบ
ด.ช.เจนณรงค์ หวานพูล อายุ 6 ขวบ
ทั้งนี้เมื่อตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บทั้ง 4 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรังแล้ว
จากการสอบถาม นายชัยยุทธ เก้าพี่น้อง อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นปู่และพ่อของผู้บาดเจ็บทั้ง 4 คน เล่าว่า สาเหตุน่าจะเป็นเรื่องขัดแย้งภายในครอบครัวที่สะสมมานาน ผู้ก่อเหตุคือ นางอรวรรณ จีนมุก อายุ 27 ปี เป็นลูกสะใภ้และกำลังตั้งท้องอยู่ 7 เดือนกว่า ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป โดยในที่เกิดเหตุพบแก้วน้ำที่ใช้ในการก่อเหตุตกอยู่บนถนน ผ้าปูที่นอน และม้านั่งซึ่งมีรอยไหม้เกรียม ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่ต่อมาประมาณ 1 ชั่วโมง นางอรวรรณ ได้เดินทางกลับมาบ้านที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นห่วงลูกสาววัย 3 ขวบเศษ อีก 1 คน ที่อยู่ในบ้านและได้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง ให้พาส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง เนื่องจากถูกน้ำกรดกระเด็นใส่เบ้าตาขวา ศีรษะ และแผ่นหลังได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเด็ก ๆ ทั้ง 3 คนกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนที่นอนของนางอรวรรณ ทำให้เกิดความไม่พอใจและต่อว่าเด็กทั้ง 3 คน แต่ ด.ช.กมล ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงโต้เถียง จึงเกิดความโมโหวิ่งไปคว้าแก้วใส่น้ำกรดมาเตรียมจะสาดใส่หน้าเด็ก แต่นายชัยโย ผู้เป็นพ่อ ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจึงเข้ามาห้าม ซึ่งในจังหวะนั้นผู้ต้องหาได้สาดน้ำกรดใส่ทั้งสี่คนและถูกสามีเตะเข้าที่ชายโครงด้านซ้ายทำให้น้ำกรดส่วนหนึ่งกระเด็นใส่ตัวเองได้รับบาดเจ็บไปอีก 1 คน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินการใด ๆ กับนางอรวรรณ เนื่องจากเป็นเรื่องความขัดแย้งภายในครอบครัว ซึ่งมักจะมีปากเสียงกันเป็นประจำทั้งกับสามีและลูกเลี้ยง จนกระทั่งก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งจะมีการสอบปากคำเพิ่มเติมในวันนี้ (13 ตุลาคม 2559) ซึ่งทั้ง 5 คนต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ตรังประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดย ด.ช.เจนณรงค์ ถูกน้ำกรดเข้าที่เบ้าตาทั้งสองข้างอาการหนักมากที่สุด
ภาพจาก brighttv
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
