ในขณะที่ใครหลายคนสูญเสียกำลังใจ รู้สึกสิ้นหวังอาลัยในชีวิตเมื่อได้ทราบว่าตัวเองกำลังถูกโรคร้ายบั่นทอนร่างกายทีละน้อย แต่สำหรับ เบ็ธแอนน์ เทลฟอร์ด หญิงชาวอเมริกันวัย 47 ปี ซึ่งกำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งสมองอยู่นั้น เธอกลับขอลุกขึ้นมอบความหวังแก่ตัวเองและคนอื่น ๆ แทนที่จะปล่อยให้เวลาผ่านไป
เบ็ธแอนน์ เผยว่า เธอรู้ตัวว่าเป็นโรคมะเร็งสมองตั้งแต่ปี 2548 แม้ว่าเธอจะเคยทำเคมีบำบัดและผ่าตัดสมองมาหลายครั้ง แต่เซลล์มะเร็งในร่างกายของเธอก็ยังคงอยู่ และส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เธอไม่สามารถขับรถได้เพราะตาซ้ายมองไม่เห็น อีกทั้งโรคร้ายยังส่งผลกระทบต่อกระเพาะปัสสาวะของเธอ ทำให้เธอต้องผ่าตัดและมีถุงปัสสาวะเล็ก ๆ ซึ่งต้องคอยดูแลเป็นพิเศษและรักษาความสะอาดระหว่างการแข่งขันครั้งนี้
ทั้งนี้เบ็ธแอนน์ได้เริ่มวิ่งมาราธอนมาตั้งแต่ 15 ปีก่อน และภายหลังจากที่ป่วยเธอก็ยังคงวิ่งมาราธอนเพื่อระดมเงินทุนมาสนับสนุนงานวิจัยโรคมะเร็งในเด็ก และบริจาคเงินแก่องค์กรไม่แสวงหากำไรที่วิจัยเรื่องโรคมะเร็งสมองในสหรัฐฯ การลงทุนแก่เด็ก ๆ นับเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเธอ เพราะนับตั้งแต่ที่เธอรู้ตัวว่าไม่สามารถมีลูกได้ เธอก็ได้ช่วยรับเลี้ยงเด็ก ๆ จำนวนมาก รวมทั้งพยายามดูแลและมอบความหวังแก่ครอบครัวของเด็กผู้ป่วยมะเร็งอีกหลายร้อยคน
ระหว่างที่วิ่ง เธอมักจะนำภาพของเด็ก ๆ ติดไว้ที่เข็มขัด และสวมรองเท้าที่เด็ก ๆ เป็นผู้ตกแต่งให้ เพราะยามใดก็ตามที่มองลงไป เธอจะรู้ได้ว่าเด็ก ๆ อยู่กับเธอ และช่วยให้สามารถผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี 2548 เธอระดมเงินมาสนับสนุนงานวิจัยได้แล้วไม่ต่ำกว่า 835,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29 ล้านบาท) แต่หวังว่าการวิ่งมาราธอนในครั้งนี้ จะทำให้ยอดเงินดังกล่าวทะลุหลักล้านได้
สำหรับการแข่งขันมาราธอนในระยะเวลา 7 วัน กับเส้นทางใน 7 ทวีปของเบ็ธแอนน์ จะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 มกราคมนี้ โดยเริ่มจาก Union Glacier ในทวีปแอนตาร์กติกา และจะวิ่งผ่านประเทศต่าง ๆ เช่น ชิลี สหรัฐฯ สเปน โมร็อกโก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และออสเตรเลีย
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @TeamBT2010, เฟซบุ๊ก BethAnn Telford