x close

สตม. ชี้เด็กหญิงซิมบับเว ติดในสุวรรณภูมิ 3 เดือน เหตุสายการบินปฏิเสธ-ทำเรื่องลี้ภัย



    รองโฆษก สตม. เผยเด็กหญิงซิมบับเว พร้อมครอบครัวติดในสุวรรณภูมิ เข้าเมืองไทยไม่ได้เพราะอยู่เกินเวลา ไม่กล้ากลับประเทศบ้านเกิดเพราะเหตุไม่สงบ

    จากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการแชร์เรื่องราวของเด็กหญิงมาเชีย (Mashia) ชาวซิมบับเว และครอบครัวของเธอ ที่มีอันต้องติดอยู่ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมานานร่วม 3 เดือน โดยไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ  (อ่านข่าว : หนูน้อยซิมบับเว ติดอยู่ในสุวรรณภูมิ 3 เดือน เพราะสถานการณ์ไม่สงบในประเทศ)
        เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 27 ธันวาคม 2560 พ.ต.อ. เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะรองโฆษก สตม. และโฆษก บก.ตม.2 กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้ทำการตรวจสอบเรื่องนี้แล้วพบว่า Mr.Muvadi Rodrick พร้อมครอบครัวชาวซิมบับเว เป็นผู้ใหญ่ 4 คน และเด็กอีก 4 คน วัยตั้งแต่ 2, 6, 7 และ 11 ขวบ เป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในการดูแลของสายการบินในเขตอาคารผู้โดยสารชั้นใน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยทราบว่าชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้าประเทศไทยเดือนพฤษภาคม 2560 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว และต่อมาเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2560 ครอบครัวนี้จะเดินทางต่อโดยสายการบินยูเครน เพื่อไปเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ซึ่งต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองเคียฟ ประเทศยูเครน แต่สายการบินพบว่า ผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวไม่มีวีซ่าเข้าประเทศสเปน 

        พ.ต.อ. เชิงรณ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จึงปฏิเสธการขึ้นเครื่อง และสายการบินได้พามาพบเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเพื่อยกเลิกการเดินทาง แต่พบว่าผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวมีสถานะอยู่เกินกำหนดในไทย 5 เดือน เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับแล้วไม่สามารถให้กลับเข้าประเทศได้ จึงได้ดำเนินการตามกฎหมายคนเข้าเมืองให้สายการบินยูเครนรับตัวกลับประเทศซิมบับเว ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิด แต่ผู้โดยสารไม่ยินยอมเดินทางกลับ เนื่องจากเกรงอันตรายจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ ต่อมาในวันที่ 7 พฤศจิกายน ผู้โดยสารได้ซื้อตั๋วเดินทางไปยังมอนนิโทเรีย โดยผ่านประเทศยูเครน-สเปน-มอนนิโทเรีย และเมื่อผู้โดยสารขึ้นเครื่องจากสุวรรณภูมิไปถึงประเทศยูเครนแล้ว แต่ไม่สามารถเดินทางต่อจากประเทศยูเครนไปยังสเปนได้ ในวันที่ 13 พฤศจิกายน จึงถูกส่งตัวจากยูเครนกลับมายังสุวรรณภูมิ




        พ.ต.อ. เชิงรณ กล่าวอีกว่า จากนั้นทางผู้โดยสารได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัยไปยัง UN และทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับสำเนาหนังสือของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถึงอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ มีใจความสำคัญสรุปว่า กลุ่มชาวต่างชาติดังกล่าว เป็นผู้ที่ได้รับการลงทะเบียนผู้แสวงหาที่ลี้ภัย และมีความเสี่ยงประสบภัยในประเทศมาตุภูมิ ซึ่งทาง UN กำลังดำเนินการในขั้นตอนผู้ลี้ภัยอยู่ โดยยังคงอยู่ในการดูแลของสายการบินเยี่ยงผู้โดยสารปกติ และไม่ได้ควบคุมในห้อง Detention room ของสายการบินเช่นเดียวกับชาวต่างชาติที่ถูกปฏิเสธผลักดันกลับประเทศแต่อย่างใด จากการติดตามความคืบหน้า ทราบว่า ทาง UN ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล สัมภาษณ์ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการผู้ลี้ภัยและจะมีการหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมต่อไป
 
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kanaruj Artt Pornsopit
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สตม. ชี้เด็กหญิงซิมบับเว ติดในสุวรรณภูมิ 3 เดือน เหตุสายการบินปฏิเสธ-ทำเรื่องลี้ภัย อัปเดตล่าสุด 28 ธันวาคม 2560 เวลา 14:18:35 39,045 อ่าน
TOP