ช่วงต้อนรับปีใหม่ องค์กรและหน่วยงานต่างๆ ส่งความสุขผ่านบัตรอวยพรและของขวัญ แด่กลุ่มเกย์การเมืองไทยและองค์กรเครือข่าย อัตลักษณ์ทางเพศ มาแปลกแหวกแนว ส่งแถลงการณ์เตือนคุณผู้หญิงที่กำลังคิดจะแต่งงานหรือร่วมหัวจมท้ายกับผู้ชายสักคนหนึ่ง ว่า ขอให้ใช้สติ และองค์ความรู้ทั้งของตัวเอง ตลอดจนสังคมรอบข้าง ในการพิจารณาดูผู้ชายให้ถ่องแท้ เพราะการตัดสินใจแต่งงานกับเกย์ ท้ายที่สุดจะต้องพบจุดจบของความเจ็บช้ำแสนสาหัส
นอกจากนี้แล้วทางเครือข่ายยังเตือนผู้ชายชาวเกย์ทั้งหลายที่ยังคิดหลอกผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นไปด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ได้โปรดยุติความคิดดังกล่าว เพราะการกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการกระทำความผิดรุนแรงที่ทำร้ายชีวิตผู้หญิงและครอบครัวให้ตกอยู่ในสภาพที่เจ็บปวดอย่างที่สุด นับเป็นการทำลายอนาคตและฆ่าคนทั้งเป็นอีกด้วย
เมื่อสอบถามถึงแถลงการณ์ดังกล่าว นที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ ให้คำตอบว่า ในฐานะผู้ให้คำปรึกษาได้หารือกับพรรคพวกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ไม่มีใครสนใจ ทุกคนรู้แต่ไม่กล้าพูดอะไรกลัวถูกฟ้อง ปล่อยให้คนเหล่านั้นพบกับอะไรต่อมิอะไรมากมาย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา องค์การเกย์การเมืองไทยรับภาระมากจากสายด่วน "กุลเกย์" ที่เปิดมากว่า 5 ปีแล้ว ที่มีผู้หญิงโทร.เข้ามาปรึกษามากและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่เบอร์โทร.085-031-7202 เพราะปัจจุบันผู้หญิงพบสามีที่เป็น เกย์ ตุ๊ด พวกเขาเหล่านั้นมีทุกข์มาก จนคิดฆ่าตัวตาย ทางองค์กรเกย์การเมืองไทยต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการบรรเทาและแก้ปัญหา
กลุ่มเกย์การเมืองไทยและเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ ขอย้ำให้สังคมไทยตระหนักถึงพิษภัยการขาดองค์ความรู้ในความหลากหลายทางเพศ
ตัวอย่างหนึ่งที่สายด่วนได้รับ ผู้หญิงท้องลูกคนที่ 2 พบว่าสามีของเธอเป็นเกย์ เมื่อตื่นมากลางดึกเห็นสามีดูวีซีดีชายมีเพศสัมพันธ์กัน และสามียังช่วยเหลือตัวเอง ซึ่งเขาปิดบังเพราะพยายามจะเป็นสามีที่ดี แต่ขณะเดียวกันเขาไปติดพันกับชายหนุ่มและพาไปเยี่ยมแม่ที่บ้าน เมื่อฝ่ายหญิงทราบก็โทร.ไปบอกแม่สามี ด้วยความเป็นลูกชายสุดที่รักของแม่ แม่สามีบอกว่าคิดมากวิตกจริตและเป็นไปไม่ได้ เพราะเลี้ยงลูกมากับมือ
"เพราะสังคมไทยสนับสนุนให้ชายเป็นชาย หากใครตุ้งติ้งขอคอนเฟิร์มและการันตีแน่นอน อย่าให้โอกาสว่าเป็นชายเรียบร้อย มันไม่ใช่เพราะเป็นคนละแบบกัน"
ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย แบ่งกลุ่มผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบ 3 กลุ่ม เริ่มจาก
1. กลุ่มที่ไม่มีความรู้ในเรื่องเพศสภาพ ดูเขาเหล่านั้นไม่ออก
2. เป็นพวกที่รู้ทั้งรู้ว่าเขาเหล่านั้นเป็นเกย์ กะเทย แต่มั่นใจในความสวย ความเก่ง ว่าจะเป็นที่นิยมและน่าดึงดูดสภาพอารมณ์ และคิดว่าจะเปลี่ยนให้เขาเป็นชายได้โดยศิโรราบ แต่ที่สุดแล้วก็ล้มเหลวหมดทุกอย่าง พออยู่ได้ 3-4 ปี เตียงหัก โดยมากจะเป็นกลุ่มไฮโซ และ
3. กลุ่มผู้หญิงที่เป็นพวก "FAGHAG" ที่ชอบเกย์และกะเทย บางคนถึงกับบอกว่า รักเกย์และมีความสุขมากเมื่อได้ยินเสียงนุ่มๆ แบบเกย์
"FAGHAG" เป็นอุปสรรคกับเกย์ ผู้หญิงคิดว่าพวกเราคือชายในฝัน บางกรณีผู้หญิงมีอะไรด้วยครั้งเดียวแล้วท้อง ส่วนเกย์ใจอ่อนก็ต้องรับผิดชอบ ปัญหาก็ตามมามากมาย หลายคนมักพบปัญหาเหล่านี้
จึงฝากเตือนชาวเกย์ทั้งหลายว่า 1.พึงสังเกตผู้หญิงที่คบด้วยว่าเป็น "FAGHAG" หรือไม่ 2.เลี่ยงสถานที่เธค ผับหรือหอพัก อย่าคิดว่าเป็นเพื่อนสาวแล้วใกล้ชิด 3.หากเสียทีพลาดท่าต้องปรึกษากันให้ดี เพราะเมื่อท้องแล้วปัญหาตกถึงลูก ผู้เป็นพ่อ "แต๋วแตก" เมื่อใดก็ยุ่ง ลูกของชาวเกย์หลายคนสุขภาพจิตไม่ดี อายพ่อตัวเองที่เป็นตุ๊ดเป็นแต๋วและไม่ภูมิใจ
ภาพของหญิงผู้เป็นภรรยาเอามีดจ่อคอหอยแล้วขู่ว่า "ถ้าแกไม่เลิกเป็นเกย์ ฉันจะฆ่าแก" ขณะที่ชายเองไม่ได้ตอบโต้หรือกล่าวอะไรไป แต่หลังจากเธอได้สติวางมีดลงก็กอดแข้งกอดขาเขาร้องไห้ เพื่อขอให้เลิก เป็นอีกเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่โทร.เข้ามาปรึกษาสายด่วน "กุลเกย์" บอกเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากสารภาพความจริงว่าเขาเป็นเกย์ จนทำให้ผู้หญิงหนีออกจากบ้านไปหลายวันและเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น
ชายคนนี้อยู่กับภรรยา มีลูกด้วยกันถึง 6 คน และคิดว่าตัวเองจะเลิกได้ ครั้งหนึ่งมีเพื่อนมาจากต่างจังหวัดและชักชวนกันไปเที่ยว เกิดติดใจต้องเที่ยวเดือนละ 2 หน เมียจับได้จึงถือโอกาสนั้นพูดความจริง คิดว่าเรื่องน่าจะเบาลง แต่กลับยุ่งเหยิง เพราะวันหนึ่งเขากลับบ้านช้า ขณะกำลังจะเดินเข้าบ้านได้กลิ่นน้ำหอมฟุ้ง เขาอารมณ์ดีเพราะชอบน้ำหอม แต่เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านมา ขวดน้ำหอมถูกขว้างทิ้งแตกกระจายเต็มพื้น เห็นภรรยาร้องไห้เหมือนคนโรคจิต
ทุกวันนี้เขาอยากหนีจากบ้านเพราะทุกข์มาก ถูกภรรยาทำร้าย ทุบตี แต่ด้วยคำพูดที่ว่า "ถ้าหนีไป กูก็ตาย ลูกมึงก็ตาย" ยังทำให้เขาไม่ไปไหน
ต่างกันกับผู้หญิงคนหนึ่ง สามีเป็นทหารอากาศ วันหนึ่งเธอเดินทางไปต่างจังหวัด ไม่ได้บอกสามีว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ แต่เมื่อเดินเข้าบ้านพบสามีกำลังมีสัมพันธ์กับทหารหนุ่ม เธอทำใจไม่ได้กับภาพติดตาที่เห็น ชีวิตตั้งแต่นั้นมาเธอขยะแขยงสามีและอยู่ด้วยความทุกข์ทรมาน แม้ว่าจะมีผู้ชายคนใหม่สนใจ แต่เธอก็ไม่ชอบ และทำร้ายตัวเองเสมอ ด้วยการตีหรือกรีดหน้าตัวเองให้มีรอยแผลฟกช้ำ ทำลายใบหน้าที่สวยงามของเธอเอง เพื่อจะได้ไม่มีใครมาชอบ กลัวความเหงาที่จะทำให้เธอมีโอกาสทำตัวไม่ดี
ทั้งยังมีหญิงวัยเกือบ 40 โทร.เข้ามาปรึกษาว่าชอบผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นพ่อค้าและหน้าตาดี หล่อเหลา ดูสะอาดสะอ้าน พูดดีไม่วอกแวก เดินผ่านหญิงก็ไม่มอง เขาจึงเป็นชายในฝัน แต่เมื่อคบกันนานขึ้น เขาก็ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวหรือแทะโลมเธอให้เสียหาย แม้เธอพยายามทำให้เขาสนใจแต่เขาก็ไม่มีอารมณ์ ทั้งๆ ที่เธอไม่ใช่คนขี้เหร่ จึงโทร.มาปรึกษาและเริ่มสังเกต พบว่าเวลาเขาเดินสวนผู้ชาย ใช่เลย แต่เมื่อพูดคุยกับเขาก็ปฏิเสธ ไม่ยอมรับ ท้ายที่สุดเงินที่ให้ยืมไป 8-9 หมื่นบาทก็ไม่ได้คืน จึงอยากฝากเตือนถึงผู้หญิงทั้งหลายอย่าให้ใครยืมเงิน
นที กล่าวต่อด้วยความเป็นห่วงว่า สาวๆ ที่ตัดสินใจเข้าประตูวิวาห์ขอความกรุณาตรวจสอบให้ดีว่าผู้ชายคนนั้นมีลักษณะเข้าข่ายหรือไม่ ขณะเดียวกันเกย์ทั้งหลายอย่าได้หลอกผู้หญิง อย่าทำให้แค่พ่อแม่ของตัวเองสบายใจ พ่อแม่ทางฝ่ายหญิงเองก็เป็นทุกข์เช่นกัน กับผู้หญิงก็เหมือนตายทั้งเป็น
"สุดท้ายแล้วเวลาเลือกใครสักคนในชีวิต ให้ใช้สติเป็นตัวเลือก ให้ได้ประโยชน์ที่สุด หรือถ้าเกิดปัญหาแล้วไม่ไหวก็ให้เลิกต่อกันด้วยดี ถ้ามีลูกก็ให้เข้าใจเพราะเป็นเรื่องที่จำเป็นในการดำรงอยู่ในสังคม นอกจากนี้อยากให้ภาครัฐจัดงบสายด่วนและแบ่งเบาภาระนี้ด้วย แม้เราจะทำด้วยใจรักเห็นแก่ผู้หญิงตาดำๆ แต่ก็เป็นปัญหาในสังคม อยากให้กระทรวงศึกษาธิการนำเรื่องเพศทางเลือกศึกษาเข้าไปบรรจุในโรงเรียน ให้เยาวชนรู้ถึงเพศทางเลือกไม่เช่นนั้นจะเกิดความสับสนวุ่นวาย"
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
นอกจากนี้แล้วทางเครือข่ายยังเตือนผู้ชายชาวเกย์ทั้งหลายที่ยังคิดหลอกผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นไปด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ได้โปรดยุติความคิดดังกล่าว เพราะการกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการกระทำความผิดรุนแรงที่ทำร้ายชีวิตผู้หญิงและครอบครัวให้ตกอยู่ในสภาพที่เจ็บปวดอย่างที่สุด นับเป็นการทำลายอนาคตและฆ่าคนทั้งเป็นอีกด้วย
เมื่อสอบถามถึงแถลงการณ์ดังกล่าว นที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ ให้คำตอบว่า ในฐานะผู้ให้คำปรึกษาได้หารือกับพรรคพวกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ไม่มีใครสนใจ ทุกคนรู้แต่ไม่กล้าพูดอะไรกลัวถูกฟ้อง ปล่อยให้คนเหล่านั้นพบกับอะไรต่อมิอะไรมากมาย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา องค์การเกย์การเมืองไทยรับภาระมากจากสายด่วน "กุลเกย์" ที่เปิดมากว่า 5 ปีแล้ว ที่มีผู้หญิงโทร.เข้ามาปรึกษามากและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่เบอร์โทร.085-031-7202 เพราะปัจจุบันผู้หญิงพบสามีที่เป็น เกย์ ตุ๊ด พวกเขาเหล่านั้นมีทุกข์มาก จนคิดฆ่าตัวตาย ทางองค์กรเกย์การเมืองไทยต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการบรรเทาและแก้ปัญหา
กลุ่มเกย์การเมืองไทยและเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ ขอย้ำให้สังคมไทยตระหนักถึงพิษภัยการขาดองค์ความรู้ในความหลากหลายทางเพศ
ตัวอย่างหนึ่งที่สายด่วนได้รับ ผู้หญิงท้องลูกคนที่ 2 พบว่าสามีของเธอเป็นเกย์ เมื่อตื่นมากลางดึกเห็นสามีดูวีซีดีชายมีเพศสัมพันธ์กัน และสามียังช่วยเหลือตัวเอง ซึ่งเขาปิดบังเพราะพยายามจะเป็นสามีที่ดี แต่ขณะเดียวกันเขาไปติดพันกับชายหนุ่มและพาไปเยี่ยมแม่ที่บ้าน เมื่อฝ่ายหญิงทราบก็โทร.ไปบอกแม่สามี ด้วยความเป็นลูกชายสุดที่รักของแม่ แม่สามีบอกว่าคิดมากวิตกจริตและเป็นไปไม่ได้ เพราะเลี้ยงลูกมากับมือ
"เพราะสังคมไทยสนับสนุนให้ชายเป็นชาย หากใครตุ้งติ้งขอคอนเฟิร์มและการันตีแน่นอน อย่าให้โอกาสว่าเป็นชายเรียบร้อย มันไม่ใช่เพราะเป็นคนละแบบกัน"
ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย แบ่งกลุ่มผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบ 3 กลุ่ม เริ่มจาก
1. กลุ่มที่ไม่มีความรู้ในเรื่องเพศสภาพ ดูเขาเหล่านั้นไม่ออก 2. เป็นพวกที่รู้ทั้งรู้ว่าเขาเหล่านั้นเป็นเกย์ กะเทย แต่มั่นใจในความสวย ความเก่ง ว่าจะเป็นที่นิยมและน่าดึงดูดสภาพอารมณ์ และคิดว่าจะเปลี่ยนให้เขาเป็นชายได้โดยศิโรราบ แต่ที่สุดแล้วก็ล้มเหลวหมดทุกอย่าง พออยู่ได้ 3-4 ปี เตียงหัก โดยมากจะเป็นกลุ่มไฮโซ และ 3. กลุ่มผู้หญิงที่เป็นพวก "FAGHAG" ที่ชอบเกย์และกะเทย บางคนถึงกับบอกว่า รักเกย์และมีความสุขมากเมื่อได้ยินเสียงนุ่มๆ แบบเกย์"FAGHAG" เป็นอุปสรรคกับเกย์ ผู้หญิงคิดว่าพวกเราคือชายในฝัน บางกรณีผู้หญิงมีอะไรด้วยครั้งเดียวแล้วท้อง ส่วนเกย์ใจอ่อนก็ต้องรับผิดชอบ ปัญหาก็ตามมามากมาย หลายคนมักพบปัญหาเหล่านี้
จึงฝากเตือนชาวเกย์ทั้งหลายว่า 1.พึงสังเกตผู้หญิงที่คบด้วยว่าเป็น "FAGHAG" หรือไม่ 2.เลี่ยงสถานที่เธค ผับหรือหอพัก อย่าคิดว่าเป็นเพื่อนสาวแล้วใกล้ชิด 3.หากเสียทีพลาดท่าต้องปรึกษากันให้ดี เพราะเมื่อท้องแล้วปัญหาตกถึงลูก ผู้เป็นพ่อ "แต๋วแตก" เมื่อใดก็ยุ่ง ลูกของชาวเกย์หลายคนสุขภาพจิตไม่ดี อายพ่อตัวเองที่เป็นตุ๊ดเป็นแต๋วและไม่ภูมิใจ
ภาพของหญิงผู้เป็นภรรยาเอามีดจ่อคอหอยแล้วขู่ว่า "ถ้าแกไม่เลิกเป็นเกย์ ฉันจะฆ่าแก" ขณะที่ชายเองไม่ได้ตอบโต้หรือกล่าวอะไรไป แต่หลังจากเธอได้สติวางมีดลงก็กอดแข้งกอดขาเขาร้องไห้ เพื่อขอให้เลิก เป็นอีกเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่โทร.เข้ามาปรึกษาสายด่วน "กุลเกย์" บอกเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากสารภาพความจริงว่าเขาเป็นเกย์ จนทำให้ผู้หญิงหนีออกจากบ้านไปหลายวันและเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น
ชายคนนี้อยู่กับภรรยา มีลูกด้วยกันถึง 6 คน และคิดว่าตัวเองจะเลิกได้ ครั้งหนึ่งมีเพื่อนมาจากต่างจังหวัดและชักชวนกันไปเที่ยว เกิดติดใจต้องเที่ยวเดือนละ 2 หน เมียจับได้จึงถือโอกาสนั้นพูดความจริง คิดว่าเรื่องน่าจะเบาลง แต่กลับยุ่งเหยิง เพราะวันหนึ่งเขากลับบ้านช้า ขณะกำลังจะเดินเข้าบ้านได้กลิ่นน้ำหอมฟุ้ง เขาอารมณ์ดีเพราะชอบน้ำหอม แต่เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านมา ขวดน้ำหอมถูกขว้างทิ้งแตกกระจายเต็มพื้น เห็นภรรยาร้องไห้เหมือนคนโรคจิต
ทุกวันนี้เขาอยากหนีจากบ้านเพราะทุกข์มาก ถูกภรรยาทำร้าย ทุบตี แต่ด้วยคำพูดที่ว่า "ถ้าหนีไป กูก็ตาย ลูกมึงก็ตาย" ยังทำให้เขาไม่ไปไหน
ต่างกันกับผู้หญิงคนหนึ่ง สามีเป็นทหารอากาศ วันหนึ่งเธอเดินทางไปต่างจังหวัด ไม่ได้บอกสามีว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ แต่เมื่อเดินเข้าบ้านพบสามีกำลังมีสัมพันธ์กับทหารหนุ่ม เธอทำใจไม่ได้กับภาพติดตาที่เห็น ชีวิตตั้งแต่นั้นมาเธอขยะแขยงสามีและอยู่ด้วยความทุกข์ทรมาน แม้ว่าจะมีผู้ชายคนใหม่สนใจ แต่เธอก็ไม่ชอบ และทำร้ายตัวเองเสมอ ด้วยการตีหรือกรีดหน้าตัวเองให้มีรอยแผลฟกช้ำ ทำลายใบหน้าที่สวยงามของเธอเอง เพื่อจะได้ไม่มีใครมาชอบ กลัวความเหงาที่จะทำให้เธอมีโอกาสทำตัวไม่ดี
ทั้งยังมีหญิงวัยเกือบ 40 โทร.เข้ามาปรึกษาว่าชอบผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นพ่อค้าและหน้าตาดี หล่อเหลา ดูสะอาดสะอ้าน พูดดีไม่วอกแวก เดินผ่านหญิงก็ไม่มอง เขาจึงเป็นชายในฝัน แต่เมื่อคบกันนานขึ้น เขาก็ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวหรือแทะโลมเธอให้เสียหาย แม้เธอพยายามทำให้เขาสนใจแต่เขาก็ไม่มีอารมณ์ ทั้งๆ ที่เธอไม่ใช่คนขี้เหร่ จึงโทร.มาปรึกษาและเริ่มสังเกต พบว่าเวลาเขาเดินสวนผู้ชาย ใช่เลย แต่เมื่อพูดคุยกับเขาก็ปฏิเสธ ไม่ยอมรับ ท้ายที่สุดเงินที่ให้ยืมไป 8-9 หมื่นบาทก็ไม่ได้คืน จึงอยากฝากเตือนถึงผู้หญิงทั้งหลายอย่าให้ใครยืมเงิน
นที กล่าวต่อด้วยความเป็นห่วงว่า สาวๆ ที่ตัดสินใจเข้าประตูวิวาห์ขอความกรุณาตรวจสอบให้ดีว่าผู้ชายคนนั้นมีลักษณะเข้าข่ายหรือไม่ ขณะเดียวกันเกย์ทั้งหลายอย่าได้หลอกผู้หญิง อย่าทำให้แค่พ่อแม่ของตัวเองสบายใจ พ่อแม่ทางฝ่ายหญิงเองก็เป็นทุกข์เช่นกัน กับผู้หญิงก็เหมือนตายทั้งเป็น
"สุดท้ายแล้วเวลาเลือกใครสักคนในชีวิต ให้ใช้สติเป็นตัวเลือก ให้ได้ประโยชน์ที่สุด หรือถ้าเกิดปัญหาแล้วไม่ไหวก็ให้เลิกต่อกันด้วยดี ถ้ามีลูกก็ให้เข้าใจเพราะเป็นเรื่องที่จำเป็นในการดำรงอยู่ในสังคม นอกจากนี้อยากให้ภาครัฐจัดงบสายด่วนและแบ่งเบาภาระนี้ด้วย แม้เราจะทำด้วยใจรักเห็นแก่ผู้หญิงตาดำๆ แต่ก็เป็นปัญหาในสังคม อยากให้กระทรวงศึกษาธิการนำเรื่องเพศทางเลือกศึกษาเข้าไปบรรจุในโรงเรียน ให้เยาวชนรู้ถึงเพศทางเลือกไม่เช่นนั้นจะเกิดความสับสนวุ่นวาย"
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
