x close

หมอดูกระดองเต่า อ.ฉัตรประเสริฐ รวยโภคทรัพย์






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก mcot.net

          ใครจะคิดว่า "กระดองเต่า" จะสามารถทำนายทายทักชีวิตผู้คนได้! . . .จริงๆ แล้ว "กระดองเต่า" ที่หลายๆ คนมองข้าม กลับมีศาสตร์มีพลังที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู้รุ่น และสามารถนำมาดูดวงชะตาคนได้เช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้การทำนายหรือดูดวงชะตาจาก "กระดองเต่า" อาจจะไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แต่หลังจากที่รายการ VIP เชิญ "อาจารย์หน่อง-ฉัตรประเสริฐ รวยโภคทรัพย์" หมอดูกระดองเต่าชื่อดัง มาพูดคุยกันรายการ เกี่ยวกับวิธีการดูดวงจากศาสตร์นี้แบบเจาะลึกนั้น ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมๆ กับอยากรู้จัก "หมอดูกระดองเต่า" มากขึ้น 

          นั่นแน่! เริ่มสนใจการดูดวงจากกระดองเต่า หรือที่หลายคนเรียกว่า "หมอดูกระดองเต่า" แล้วใช่ไหมล่ะ วันนี้กระปุกดอมคอมไม่พลาด ขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับการดูดวงจากกระดองเต่า และ อาจารย์หน่อง-ฉัตรประเสริฐ รวยโภคทรัพย์ หมอดูกระดองเต่า กันค่ะ...

          อาจารย์หน่อง หรือ นายฉัตรประเสริฐ รวยโภคทรัพย์ เป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นก็ตัดสินใจไม่เรียนต่อ เพราะรู้ตัวว่าตัวเองเรียนไม่เก่ง จึงบอกแม่ว่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อหางานทำ ซึ่งแม่ก็ให้เงินอาจารย์หน่องมา 200 บาท ช่วงแรกอาจารย์ไปทำงานรับจ้างล้างจาน แบกของที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ต่อมาเพื่อนก็ชักชวนให้ไปทำงานที่คณะงิ้ว เพราะเห็นว่าเป็นงานง่ายๆ สบายๆ แต่พอไปจริงๆ กลับเหนื่อยเหมือนเดิม เพราะต้องไปยกของบ้าง ไปแสดงเป็นตัวประกอบบ้าง ซึ่งได้วันละ 30 บาท จนมีโอกาสได้ไปแสดงงิ้วที่จังหวัดตรัง และไปเจอกับอาจารย์หลี่ ผู้ที่ทำให้ชีวิตของอาจารย์หน่องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

          "อาจารย์หลี่ถูกชะตากับผมมาก เลยมาซื้อตัวผมจากคณะงิ้ว ให้ไปช่วยทำงานบ้าน ดูแลบ้าน แถมให้เงินเดือนละ 500 – 600 บาท ผมก็ไปเพราะอยากได้เงิน เห็นว่าได้เงินดี ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าอาจารย์ผมมีวิชาด้านการพยากรณ์ ตอนแรกๆ ผมก็ไปทำอาหารเจให้คนทั้งบ้านกิน คือ นอกจากผมแล้วยังมีศิษย์พี่อีก 9 คน ที่กำลังเรียนวิชากับอาจารย์ ซึ่งแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น เซียมซี, ฮวงจุ้ย, โหงวเฮ้ง, ฮู้ (ยันต์) ฯลฯ พอผ่านไปได้ประมาณ 15 วัน อาจารย์ก็ให้ผมท่องประโยคภาษาจีน บอกว่าถ้าท่องได้จะให้เงินเดือนเพิ่ม แต่ถ้าท่องผิดจะโดนตีแทน พอผมท่องไปเรื่อยๆ อาจารย์ก็ให้ผมไปเรียนเขียนฮู้ กับศิษย์พี่คนที่ 8 เขียนไปด้วย ท่องไปด้วย และมาสอนวิชาการดูดวงจากกระดองเต่า ซึ่งสามารถทำนายได้หมด ทั้งเรื่องการงาน การเงิน ความรัก ชะตาชีวิต  . . . ผมศึกษาศาสตร์นี้มา 21 ปี ไปติดอยู่ขั้น 7 จริงๆ มีอยู่ 9 ขั้น แต่ผมโลภเลยเรียนได้แค่ขั้น 7 และผมเรียนกับอาจารย์หลี่ 5 ปี จากนั้นท่านก็ทิ้งหนังสือไว้ให้ศึกษาเอง ผมก็ศึกษาเองมาเรื่อยๆ" อาจารย์หน่อง เล่าความเป็นมา

          อาจารย์หน่อง เล่าอีกว่า ผมเคยถามอาจารย์หลี่ว่าทำไมถึงให้ผมเรียนการดูดวงกระดองเต่า อาจารย์หลี่ก็บอกว่าเอาดวงผมไปคำนวณแล้วเห็นว่าผมเหมาะกับการดูดวงศาสตร์นี้ เพราะกระดองเต่ารู้ฟ้ารู้ดิน กระดองเต่ารู้ทุกอย่าง สำหรับกระดองเต่าที่เอามาใช้นั้น จะถูกกำหนดมาสำหรับหมอดูคนนั้นโดยเฉพาะ อย่างผมวันนั้นอาจารย์บอกว่า เดี๋ยวประมาณสามโมงเช้าเต่าจะมาหา พอผ่านไปสักพักเต่ามาจริงๆ เป็นเต่านอนลอยน้ำมา เพราะตอนนั้นน้ำท่วมพอดี มาแบบตายแล้วด้วย (เอ้า! ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)

          สำหรับวิธีดูดวงการกระดองเต่านั้น อาจารย์หน่อง กล่าวว่า ต้องใช้เหรียญจีนโบราณ 3 - 1 2 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ที่บุญวาสนาของแต่ละคน แต่ขั้นพื้นฐานต้องใช้ 3 เหรียญ ซึ่งจำนวนของเหรียญเกี่ยวสัมพันธ์กับฐานะการเงินของคนๆ นั้นด้วย ถ้าต้องใช้ 12 เหรียญ นั่นแสดงว่าคนๆ นั้นมีเงินเป็นแสนล้านบาท ทำให้การกำหนดเหรียญในการดูดวงเป็นเรื่องยากมากๆ ดั่งคำพูดที่ว่า "ดูดวงใครก็ดูเป็น ดูดาวใครก็ดูได้ แต่ดูวาสนาอันนี้ยาก" และเมื่อกำหนดเหรียญได้แล้ว ก็ให้นำไปใส่ไว้ในกระดองเต่าเขย่าๆ และเทออกมาเพื่อทำนาย

          สำหรับใครที่คิดว่า "หมอดูกระดองเต่า" คงจะคิดค่าครูค่าดูดวงเพียงไม่กี่บาทนั้น ขอบอกเลยว่าคิดผิดค่ะ เพราะอาจารย์หน่องดูดวงแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่าแสนบาท มากสุดเป็นล้าน จนได้รับฉายา "หมอดูหน้าเลือด"

          "ครั้งแรกปั่นจักรยานไปดูดวง ก็ดูไปเรื่อยๆ ในราคา 5 บาท และก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 10 บาท 500 บาท 2,500 ไปจนถึง 5,000 บาท แต่ตอนนั้นดูที่จังหวัดขอนแก่น พอขึ้นค่าดูดวงเป็น 5,000 บาท ก็ไม่มีคนดู ผมเลยเข้ามาดูดวงในกรุงเทพมหานคร ซึ่งค่าดูก็เพิ่มขึ้นเป็น 40,000 บาท ไปจนถึงหลักแสนหลักล้าน ช่วงนั้นอู้ฟู่มากๆ มีรถยนต์ 4 คัน นอนโปรยเงินเล่นในห้อง เพราะผมจะดูแต่นักธุรกิจซะส่วนใหญ่ เนื่องจากเงินหนา ตอนนั้นงกเงิน ใครมาทีหลังแต่ให้เงินหนากว่าก็จะให้ดูก่อน 

          แต่มีอยู่วันหนึ่งอาจารย์หลี่มาเข้าฝันบอกผมว่า วิชาที่สอนเป็นวิชาฟ้าและดิน ไว้ให้ช่วยคน ไม่ใช่เอามาขูดรีดชาวบ้าน อีกอาทิตย์ต่อมาผมก็ไม่สามารถดูดวงได้เลย ทำยังไงก็ดูไม่ได้ จนไปเจอกับพระรูปหนึ่ง ท่านก็ทักว่าเป็นหมอดูหมอเดาก็ดีอยู่หรอก แต่อย่าไปขูดรีดชาวบ้านเค้ามากมันบาป เค้าก็เดือดร้อนมา เราก็ต้องช่วยเหลือ อยากเอาบาปไปลงนรกเหรอ ทั้งๆ ที่ท่านก็ไม่รู้มาก่อนว่าผมเป็นหมอดู จากนั้นผมก็ไปเรียนเดินจงกรม เรียนนั่งวิปัสสนาฝึกสมาธิ จนสามารถกลับไปดูดวงได้เหมือนเดิม ทุกวันนี้ไม่ได้ดูดวงให้ตัวเองเลย เอาเงินที่ได้จากค่าดูดวงไปทำบุญหมด และใครที่มาดูดวงจะให้ค่าดูเท่าไหร่ก็ได้ มีเท่าไหร่ก็ให้เท่านั้น เพราะยังไงผมก็จะเอาไปวัดหมด" หมอดูกระดองเต่า เผย

          อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดอาจารย์หน่องได้ทำนายดวงเมืองปี 2552 ไว้ว่า ประเทศไทยมีบ่อทองคำ คือ เกษตรกรรม ทำนา ปลูกข้าว ยังไงก็ไม่มีจน แต่ปีนี้ภาวะเศรษฐกิจจะต้องรัดเข็มขัดหน่อย อาจจะฝืดเคืองบ้าง ส่วนกรุงเทพมหานครให้ระวังไฟไหม้ ที่จะเกิดความเสียหายพอสมควร เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพมหานครก็ยังไม่มี ส่วนใครจะเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น บอกได้เลยว่าเป็นคนไม่มีพรรค และอยากฝากให้คนไทยรักกันมากๆ บ้านเมืองจะพังเพราะพวกเรา บ้านเมืองเป็นของเราทุกคน ต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่าลืมว่าประเทศไทยเป็นเมืองยิ้ม รักกันไว้

          "อย่าเอาดวงไปผูกติดกับหมอดู เพราะชีวิตขึ้นอยู่ที่ตัวเราปฏิบัติ" อาจารย์หน่อง กล่าวทิ้งท้าย

 

images   คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ 




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หมอดูกระดองเต่า อ.ฉัตรประเสริฐ รวยโภคทรัพย์ อัปเดตล่าสุด 8 มกราคม 2552 เวลา 15:12:13 23,528 อ่าน
TOP