เด็กๆ ของไมเคิล แจ็กสัน ในวันที่พ่อจากไป (momypedia)
แม้จะถูกมองว่าเป็นพ่อที่แปลกกว่าพ่อคนอื่นๆ หรือมีชีวิตพิศดารเกินกว่าจะเป็นพ่อคนได้ แถมยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเด็กๆ ทั้งสามคนคือ เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอย่างแท้จริง แต่ ไมเคิล แจ็คสัน คือ พ่อคนเดียวที่เด็กๆ ทั้งสามคนรู้จัก เขาคือโลกทั้งใบของเด็กๆ เมื่อเขามาด่วนจากไป ลูกๆ ของไมเคิล แจ็คสัน ทั้งสามคนจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร และใครจะเป็นผู้เลี้ยงดูพวกเขา
ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน จูเนียร์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ปรินซ์ จูเนียร์ วัย 12 ปี ปารีส ไมเคิล แคทเธอรีน วัย 11 ปี และปรินซ์ ไมเคิลที่ 2 หรือที่รู้จักกันในชื่อเล่นว่า แบลงเค็ท วัย 7 ขวบ คือลูกๆ ทั้ง 3 คนของไมเคิล แจ็คสัน เด็กๆ ทั้งสามคนไม่ได้ปรากฏตัวในที่สาธารณะบ่อยนัก แต่เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาปรากฏตัว ไมเคิล แจ็คสัน มักจะให้ลูกๆ คลุมหน้าหรือใส่หน้ากากเพื่อปิดบังใบหน้าของเด็กๆ ไว้ เด็กๆ อาจไม่ชอบหน้ากากพวกนั้น และสังคมมองครอบครัวนี้ด้วยความแปลกใจ แต่สำหรับไมเคิล แจ็คสัน เขาอาจเพียงต้องการปกป้องเด็กๆ ไว้จากโลกที่แสนโหดร้าย เพราะเขารู้ดีว่ามีคนกระหายอยากจะรู้เรื่องราวของลูกๆ ของเขามากมายเพียงใด
"เด็กๆ รู้สึกเศร้ามาก แต่พวกเขาก็สบายดี" แฟรงค์ ดิเลียว ผู้จัดการของไมเคิล แจ็คสัน บอกกับสื่อและแหล่งข่าวใกล้ชิด ขณะที่ครอบครัวแจ๊คสัน เผยว่า ลูกๆ ของไมเคิล ทุกคนมีสุขภาพดี แต่เด็กๆ คิดถึงพ่อ นอกจากนี้ พวกเขาต้องการอยู่กับปู่และย่า โดยขณะนี้เด็กๆ อยู่ในการดูแลของครอบครัวแจ๊คสันในลอสแองเจลิส
ใครจะได้สิทธิในเลี้ยงดูเด็กๆเมื่อราชาเพลงป๊อบจากไป เด็บบี้ โรว์ อดีตภรรยาคนที่ 2 ของไมเคิล แจ็คสัน ซึ่งเป็นแม่ของลูกสองคนแรก ปรินซ์ จูเนียร์ และปารีส ไมเคิล แคทเธอรีน จากวิธีการผสมเทียม น่าจะเป็นผู้ที่มีโอกาสขอรับสิทธิในการเลี้ยงดูเด็กทั้งสองคน ในขณะที่ลูกคนสุดท้อง ปรินซ์ ไมเคิลที่ 2 นั้นคาดว่าน่าจะเกิดจากการผสมเทียม โดยแม่ผู้รับอุ้มท้องที่ไม่มีใครรู้จักในยุโรป
แม้ว่าในปี 2005 เด็บบี้ โรว์ เคยยื่นฟ้องเพื่อเรียกร้องสิทธิในการเลี้ยงดูเด็กๆ แต่การฟ้องร้องครั้งนั้น เด็บบี้ โรว์ ไม่ได้รับสิทธิในตัวลูกๆ แต่จากข่าวล่าสุดหลังไมเคิล แจ็คสันจากไปแล้ว เด็บบี้ โรว์ วัย 50 ปี ยืนยันจะไม่ฟ้องแย่งสิทธิการเลี้ยงดูลูกกับทางครอบครัวของแจ๊คสัน เธอขอแค่มีสิทธิได้พบลูกบ่อยขึ้นกว่าเดิมก็พอใจแล้ว โดยตอนนี้นางแคเธอรีน แจ๊คสัน วัย 79 ปี มารดาของไมเคิล แจ๊คสัน ได้เข้ามาเป็นผู้ดูแลลูกๆ ทั้ง 3 คนของเขา
บทบาทพ่อของราชาเพลงป็อบในความเป็นพ่อ ไมเคิล แจ็คสัน เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเมื่อเขาอุ้มลูกน้อยวัยทารกยื่นออกมานอกระเบียงโรงแรมเพื่อโชว์ให้ช่างภาพถ่ายภาพ ซึ่งแน่นอนว่าสื่อ และสังคมต่างรุมตำหนิว่า เขาไม่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูก และทำเหมือนเด็กคือของเล่น
เจลิน่า เอสปิโนซ่า บรรณาธิการอาวุโส นิตยสารพีเพิล กล่าวถึงลูกๆ ของราชาเพลงป็อบว่า เด็บบี้ โรว์ แม่ของเด็กๆ มีโอกาสติดต่อกับเด็กๆ น้อยมาก เด็กๆ มีพี่เลี้ยงและพ่อของพวกเขาเลี้ยงดูเป็นหลัก เด็กๆ ทั้ง 3 คนเรียนหนังสือที่บ้าน ไมเคิล แจ็คสัน จะพาเด็กๆ ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ส่วนใหญ่จะไปเป็นกรณีพิเศษในเวลาที่พิพิธภัณฑ์ปิดแล้วเพื่อหลบหลีกฝูงชน เขาหาหนังสือให้เด็กๆ อ่าน จำกัดเวลาการดูโทรทัศน์ของเด็กๆ และลูกๆ ทั้งสามคนแทบจะไม่มีโอกาสได้ติดต่อสื่อสารกับเด็กอื่นๆ เลย
ด้าน ไดแอน ไดมอนด์ ผู้สื่อข่าวและนักเขียน กล่าวถึงบทบาทพ่อของไมเคิล แจ็คสัน ว่า "เขาคือชายผู้ทุ่มเท" นับตั้งแต่ต้องต่อสู้ในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายในปี 2005 และจบลงด้วยการที่เขาหลุดพ้นข้อกล่าวหา ราชาเพลงป๊อบย้ายออกจากคฤหาสถ์เนเวอร์แลนด์ และหันไปใช้ชีวิตเงียบๆ หลบจากสายตาสาธารณชน
"หลังจากที่ต้องต่อสู้คดีในศาล เขาหันมาทุ่มเทเวลาให้กับเด็กๆ เขาหาหนังสือมากมายมาให้ลูกๆ ได้อ่าน ถ้าจะมีข้อเสียก็คือ การที่เด็กๆ ไม่ได้ไปโรงเรียน ทำให้ไม่มีโอกาสได้เข้าสังคมกับเด็กอื่นเลย" ไดแอน กล่าว
พ่อผู้ทุ่มเทเป็นปกติที่ ไมเคิล แจ็คสัน และลูกๆ ทั้งสามไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังใดหลังหนึ่งต่อเนื่อง วันหนึ่งเด็กๆ อาจอยู่ที่ดูไบ วันต่อมาเดินทางไปอยู่ที่ไอร์แลนด์ แต่ในวันที่พ่อของพวกเขากำลังจะจากโลกนี้ไป ลูกๆ ทั้งหมดอยู่กับไมเคิล แจ็คสันที่บ้านในลอสแองเจลิส แม้ต้องเปลี่ยนแปลงที่อยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งเดียวในชีวิตของเด็กๆ ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยคือ พ่อของพวกเขา
"แหล่งข่าวทั้งหมดของฉัน ซึ่งเป็นแหล่งข่าวที่มีความใกล้ชิดกับครอบครัวแจ็กสันต่างบอกว่า เขาเป็นพ่อที่ดี ไมเคิล แจ็กสัน เคยพูดไว้ว่า เขาไม่มีชีวิตวัยเด็ก เพื่อชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตของตัวเอง เขาจึงต้องการมอบชีวิตวัยเด็กที่ดีที่สุดให้กับลูกๆ ของเขา" ไดแอน ไดมอนด์ กล่าวถึงความเป็นพ่อที่มีอยู่ในตัวของชายผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกและ มีทุกอย่างพร้อม
"เขาเป็นเด็กเล็กๆ ที่น่ารักมาก สุภาพอ่อนหวาน เป็นเด็กเงียบมาก แต่ในแววตาของเขามีความซุกซนซ่อนอยู่ เขาเล่นสนุก เป็นเด็กปกติเหมือนเด็กวัย 5 ขวบทั่วไป"
แฮเรียต โคล รู้สึกแปลกใจกับความผูกพันระหว่างพ่อและลูกชาย "พวกเขาดูรักกันมาก และเป็นความรักความสัมพันธ์แบบที่มีความเคารพต่อกัน"
พ่อทูนหัวมาร์ค เลสเตอร์ พ่อทูนหัวของเด็กๆ เขาคืออดีตดาราเด็กชื่อดังจากภาพยนตร์เพลงเรื่อง "โอลิเวอร์" ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องโปรดของไมเคิล แจ็กสัน เมื่อครั้งไมเคิล แจ็กสันยังเป็นเด็ก พวกเขาพบกันเมื่อ 30 ปีที่แล้ว และกลายเป็นเพื่อนสนิทกันอย่างรวดเร็ว
มาร์ค เลสเตอร์ บอกว่า นับตั้งแต่ทราบข่าวร้าย เขายังไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวแจ็คสันเลย แต่หากต้องการให้เขาทำอะไร เขาพร้อมจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ และเขาเชื่อมั่นว่าครอบครัวแจ็กสันจะสามารถดูแลเด็กๆ ได้ดี
"ผมจินตนาการไว้ว่า แม่ของเขา พี่สาว พี่ชายจะห้อมล้อมและดูแลเด็กๆ ครอบครัวแจ็คสันเป็นครอบครัวใหญ่มากก็จริง แต่ในเวลาช่วงเวลาที่จำเป็น ครอบครัวจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง และวางเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาในอดีตไว้ข้างหลังก่อน"
มาร์ค เลสเตอร์ กล่าวถึงเด็กๆ ว่า "เด็กๆ น่ารักมาก พวกเขาเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุด ไม่ได้ทำตัววิเศษเหมือนลูกซุปเปอร์สตาร์แบบที่คุณคิดหรอก พวกเขาเป็นเด็กฉลาดและมีความมุ่งมั่น เด็กทั้งสามคนเป็นเด็กน้อยที่น่าชื่นชม และน่ารักที่สุด"
อนาคตของเด็กๆคาดว่าไมเคิล แจ็คสัน มีหนี้สินอยู่ประมาณ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถึงอย่างไรลูกๆ ของเขาก็คงไม่ลำบาก เพราะเขายังเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์งานเพลงของเขาเอง รวมถึงมีหุ้นในลิขสิทธิ์เพลงของวงเดอะบีทเทิลส์อีกด้วย ซึ่งนั่นเป็นแหล่งรายได้มหาศาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
"ไมเคิล แจ็คสัน คือโลกทั้งใบของเด็กๆ มันไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กน้อยที่เคยอยู่ในที่ที่ถูกปกป้องจากโลกภายนอกตลอด เวลา ความกดดันด้านจิตใจที่เพิ่งเกิดขึ้นมันยิ่งใหญ่มากสำหรับเด็กๆ สิ่งแรกคือ พวกเขาเพิ่งสูญเสียพ่อไป และสองพวกเขาไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาแบบเด็กธรรมดาทั่วไป ชีวิตของพวกเขาไม่เหมือนเด็กอื่นๆ แต่พวกเขากำลังถูกผลักดันให้ต้องออกมาเผชิญโลกแห่งความจริง ซึ่งเป็นโลกที่พวกเขาไม่คุ้นเคยเลย" ไดแอน ไดมอนด์ กล่าวถึงสิ่งที่เด็กๆ จะต้องพบเจอหลังจากโลกทั้งใบของพวกเขา ไมเคิล แจ็คสัน ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
