ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยันไม่ใช้ มาตรา 44 สั่งเลื่อนวันลงประชามติ หลังผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ พ.ร.บ.ประชามติ ขัดรัฐธรรมนูญ ชั่วคราวหรือไม่ ชี้โครงการรับจำนำข้าวเป็นเจตนาที่ดีแต่วิธีไม่เหมาะสม
วันที่ 2 มิถุนายน 2559 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอให้นายกรัฐมนตรี ใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 เลื่อนการออกเสียงประชามติ ภายหลังจากที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 มาตรา 61 วรรค 2 ขัดรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 หรือไม่ว่า ขึ้นอยู่กับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินว่าอย่างไรก็ตามนั้น ถึงเวลาค่อยว่ากัน ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ต้องเลื่อน หากไม่ผิดก็ต้องดำเนินการต่อ ขณะเดียวกันไม่รู้ว่าศาลจะมีการพิจารณาเมื่อใด และจะทันวันที่ 7 สิงหาคมหรือไม่ แต่ส่วนตัวจะไปสั่งเลื่อนไม่ได้และจะไม่ใช้ มาตรา 44 ดำเนินการในเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นคดีจำนำข้าวก็สามารถสั่งได้เลยไม่ต้องฟ้องศาล
พลเอก ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า การบูรณาการที่ผ่านมา ก็เหมือนกับประชาธิปไตยพิกลพิการ จึงต้องบูรณาการใหม่ให้มีประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ไม่ใช่ขัดแย้งแบบเดิม ไม่มีเกียรติยศศักดิ์ศรี ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ พร้อมยังกล่าวว่า อย่าให้ใครมาชี้นำหรือเป็นเครื่องมือของใคร ซึ่งวันนี้ชาวนามีจำนวนมาก หากไม่ใจร้ายทำวันนี้ วันหน้าก็ต้องเสียน้ำตากันอีก เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นความผิดพลาด จากนโยบายรับจำนำข้าว แม้จะเป็นเจตนาดีแต่วิธีการไม่เหมาะสมที่ซื้อข้าวมาเก็บไว้ และนำเงินรัฐไปอุดหนุน จึงต้องฟ้องร้อง ยืนยันไม่ได้รังแกใคร แต่เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ชาวนาฟังคำแนะนำของกระทรวงเกษตรฯ ลดการใช้สารเคมี ขณะเดียวกันรัฐบาลก็พยายามกักเก็บน้ำ 25 ลุ่มน้ำให้ได้มากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังกล่าวว่า หากมีการซื้อสิทธิ ขายเสียง ขออย่าไปรับเงิน
ติดตามข่าว มาตรา 44 คสช. แบบอัพเดททั้งหมด คลิกเลย
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN