เจ้าหน้าที่ตำรวจเผย เส้นทางการเงินของ ชัยภูมิ ป่าแส ผิดปกติจากเด็กวัยรุ่น เผยเคยล่อซื้อยาบ้า แต่ไหวตัวหนีทัน กำลังออกหมายจับแต่ถูกวิสามัญก่ อน
จากกรณีที่โลกออนไลน์มีกระแสวิพ ากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ ทหารวิสามัญ นายชัยภูมิ ป่าแส อายุ 17 ปี นักกิจกรรมชาวลาหู่ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 เนื่องจากตรวจพบว่ามีการซุกยาบ้ าและพยายามปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ โดยคนที่ออกมาประณามการกระทำของ เจ้าหน้าที่ทหารนั้นมองว่า เป็นการกระทำเกินกวาเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจำเป็น ต้องยิง เพื่อป้องกันตัว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 22 มีนาคม 2560 พ.ต.อ. ชลเทพ ใหม่ไชย ผกก.สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว เจ้าของท้องที่คดีวิสามัญฆาตกรร มนักกิจกรรมชาวลาหู่ ได้ออกมาเปิดเผยหลังการประชุมที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยระบุว่า การดำเนินคดีวิสามัญนั้น กำลังดำเนินไปตามขั้นตอน และได้สอบปากคำผู้ต้องหา และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหลายปากแล้ว ขณะนี้รอเพียงผลการชันสูตรพลิกศ พ และตรวจสอบวัตถุพยาน ก็จะสามารถสรุปสำนวนได้
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ทางชุดปราบปรามยาเสพติดของ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้ทำการล่อซื้อยาบ้า จำนวน 600 เม็ดจากนายชัยภูมิ และมีการโอนเงินเข้าบัญชีของนาย ชัยภูมิ เพื่อมัดจำค่ายาบ้ามาครั้งหนึ่ง แล้ว แต่ขณะที่มีการนัดส่งยาบ้า นายชัยภูมิได้ไหวตัวทันและหลบหนี อีกทั้งยังโทรศัพท์ข่มขู่เอาชีวิ ตพยานที่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจอีกด้วย ซึ่งคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมั ติหมายจับ แต่นายชัยภูมิ กลับถูกวิสามัญเสียก่อน
นอกจากนี้ยังพบว่า รถที่นายชัยภูมิใช้ มีชื่อของนางหล้า ไม่ทราบนามสกุล เครือข่ายยาเสพติดใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีเป็นเจ้ าของ ขณะที่ป้ายทะเบียนทั้งในตอนที่ล่ อซื้อยาเสพติด และ ป้ายทะเบียนที่ใช้ขณะถูกวิสามัญ ฆาตกรรม ยังพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม
พ.ต.อ. ชลเทพ ระบุอีกว่า ในการประชุมครั้งนี้มีรายงานการ พบเส้นทางการเงินที่ผิดปกติ ของนายชัยภูมิ โดยพบว่ามีเงินเข้า-ออก มากผิดปกติของเด็กวัยรุ่น เช่นเดียวกับอายุที่ระบุในบัตรสี ชมพูที่ระบุอายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะไม่ตรงความจริ ง เนื่องจากนายชัยภูมิเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายที่อายุไม่น่าจะเกิน 20 ปี ซึ่งทั้งหมดเจ้าหน้าที่จะมีการต รวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับการประชุมในวันนี้ ไม่มีญาติของนายชัยภูมิเข้าพบหรื อร้องเรียนกับตำรวจแต่อย่างใด
ด้านมูลนิธิชนเผ่าพื้นเมืองแห่งเอเชี ย (AIPP) แถลงการณ์ในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐของไทยส อบสวนสาเหตุการวิสามัญฆาตกรรมนา ยชัยภูมิอย่างเป็นธรรม ขณะที่ นายชาติชาย สุทธิกลม กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะคณะอนุกรรมการด้านสิทธิใน กระบวนการยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของนายชั ยภูมิว่า ได้มีการประชุม กสม. เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยได้หยิบกรณีดังกล่าวขึ้นมาพิจาร ณา พบว่า การเสียชีวิตของนายชัยภูมิ นั้น มีข้อสงสัยหลายประการ ที่ประชุม กสม. จึงมีมติให้อนุกรรมการด้านสิ ทธิในกระบวนการยุติธรรม ตรวจสอบกรณีดังกล่าว 3 ประเด็น คือ
1. การถูกวิสามัญของนายชัยภูมิ เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไ ม่
2. การยิงของเจ้าหน้าที่ทหารเป็น เหตุเป็นผลที่จะวิสามัญหรือไม่
3. การชันสูตรพลิกศพดำเนินการด้ว ยความรอบคอบ เป็นไปตามหลักกระบวนการยุติธรรม หรือไม่ ซึ่งการพิจารณาต้องเตรียมเอกสาร อย่างรอบคอบและครบถ้วนที่สุด
ภาพและข้อมูลจาก WorkpointNews