ปฏิรูปการศึกษา คืนความยั่งยืนสิ่งแวดล้อม
ในยุคที่สังคมไทยก้าวเข้าสู้ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัว ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 การศึกษาถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเยาวชนให้มีความพร้อมเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยสู่เวทีระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ
สอดคล้องไปกับเรื่องแนวคิดการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยุคใหม่ ซึ่งเปลี่ยนจากสูตรตายตัวตามตำรา เป็นสร้างการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และบทเรียนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่จะปรับไปตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
โดยเฉพาะสร้างเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้และอัพเดทความรู้ใหม่จากพื้นที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเยาวชนสิ่งแวดล้อมได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อันนำไปสู่มีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ในยุคที่สังคมไทยก้าวเข้าสู้ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัว ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 การศึกษาถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเยาวชนให้มีความพร้อมเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยสู่เวทีระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ
สอดคล้องไปกับเรื่องแนวคิดการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยุคใหม่ ซึ่งเปลี่ยนจากสูตรตายตัวตามตำรา เป็นสร้างการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และบทเรียนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่จะปรับไปตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
โดยเฉพาะสร้างเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้และอัพเดทความรู้ใหม่จากพื้นที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเยาวชนสิ่งแวดล้อมได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อันนำไปสู่มีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
คลิกชมคลิปบรรยากาศกิจกรรมดี ๆ
นายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
น้องๆ เยาวชนชายแดนใต้ร่วมฟังเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เริ่มที่เยาวชน พัฒนาคนที่จิตสำนึก
อย่างไรก็ตามในประเทศไทยยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังมีปัญหาด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นถูกปล่อยปละละเลยเนื่องจากปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบ
ในการจัดการสิ่งแวดล้อมในพื้นชายแดนใต้ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" โดยเริ่มจากการสร้างจิตสำนึกให้กับ "เยาวชน" ด้วยการทำงานกลุ่มและลงมือปฏิบัติจริง ทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้เยาวชนรู้จักใช้ รู้จักคิด รู้จักรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อที่จะมีกินมีใช้ในวันข้างอย่างอย่างยั่งยืน วิธีการนี้ที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง เนื่องจากเป็นการสร้างจิตสำนึกจากต้นน้ำ
บรรยากาศกิจกรรมโครงการส่งเสริมเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อมพร้อมคืนความสุขสู่ชายแดนใต้
นายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม อธิบายถึงแนวการสร้างเยาวชนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไว้ว่า
1.ต้องสร้างโอกาสให้เยาวชนมีพื้นที่แลกเปลี่ยนความแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิด การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ (Synthesis Thinking, Logical Thinking)
2.สร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ บทเรียนและกระบวนการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อเปิดโลกทัศน์ และการขยายแนวคิดการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับการพัฒนาการทำงานของเยาวชน เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงและความเคลื่อนไหวในปัจจุบัน ทั้งเชิงองค์ความรู้และการบริหารจัดการ นำไปสู่การหนุนเสริมและประยุกต์ใช้ในการทำงานของเยาวชนสิ่งแวดล้อมได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและมีส่วนร่วม ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
"พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและผืนน้ำ อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมจึงเล็งเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมดังกล่าว และเห็นว่าเยาวชนในพื้นที่เป็นกำลังสำคัญ" นายสากล กล่าว
เปิดค่ายสิ่งแวดล้อม คืนความสุขสู่ชายแดนใต้
สำหรับการการสร้างศักยภาพทางการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในชุมชนของตนเองให้ดีขึ้นได้ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้มีการจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ เยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อมพร้อมใจคืนความสุขสู่ชายแดนใต้ ขึ้นในระหว่างวันที่ 20-24 เมษายน 2560 ที่จังหวัดเชียงใหม่
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และกระตุ้นให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนได้เรียนรู้ ศึกษาดูงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและด้านเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้เป็นแนวทางในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยมีครูและเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) จำนวน 120 คน เข้าร่วมกิจกรรม
เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และเกษตรหลวงอินทนนท์
พร้อมทั้งศึกษาเรียนรู้กระบวนการจัดการขยะอย่างมีส่วนร่วม ชุมชนบ้านป่าบุก จ.ลำพูน ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศชุมชนปลอดขยะระดับประเทศ ประจำปี 2557 ประเภทชุมชนขนาดเล็ก และอุทยานหลวงราชพฤกษ์
รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนกิจกรรมของแต่ละจังหวัด และสรุปการศึกษาดูงานเพื่อเชื่อมโยงการทำงานของเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้อีกด้วย