ฮ่องกง ประกาศเตือนภัยในระดับสูงสุด เตรียมรับมือ พายุไต้ฝุ่น "ฮาโตะ" ส่วนกรุงเทพฯ เจอแน่ ฝนถล่มช่วงบ่าย-ค่ำ นี้
วันที่ 23 สิงหาคม 2560 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่บริเวณภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนมากกว่าบริเวณอื่น ๆ สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง
อนึ่ง เมื่อเวลา 04.00 น. พายุไต้ฝุ่น "ฮาโตะ" (HATO)
มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 180 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะฮ่องกง
ประเทศจีน หรือละติจูด 21.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 115.4 องศาตะวันออก
มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 70 นอต หรือ 130 กม./ชม.
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือด้วยความเร็ว 14 นอต หรือ
25 กม./ชม.
คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ในวันนี้
(23 สิงหาคม) โดยจะอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชัน
และหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนตามลำดับ และในระยะ 1-2
วันนี้ ซึ่งพายุไต้ฝุ่นฮาโตะ ยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด
ส่วนผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง
ขณะที่สถานีอุตุนิยมวิทยาของฮ่องกง ประกาศเตือนภัยในระดับสูงสุด
ให้ประชาชนเตรียมรับมือกับพายุไต้ฝุ่นฮาโตะ
ที่จะพัดเข้ามาปะทะฮ่องกงจากทางตะวันตก ด้วยความแรงของพายุในระดับ 10
ซึ่งเป็นระดับสูงสุด พร้อมประเมินว่า
มีความเป็นไปได้ที่จะก่อตัวเป็นเฮอร์ริเคน ด้วยความเร็วลมสูงถึง 168
กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วม
และระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นสูงราว 1 เมตร
โดยคาดการณ์ว่าพายุจะมุ่งหน้าไปยังปากแม่น้ำเพิร์ล
และจะทำให้มีฝนตกหนักในช่วงบ่ายวันนี้ จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นฮาโตะ
ทำให้ฮ่องกงประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปแล้ว 420 เที่ยวบิน
รถไฟใต้ดินและรถบัสบางส่วน และหยุดเดินเรือเฟอร์รี่
เนื่องจากมีคลื่นสูงซัดเข้ากระแทกฝั่ง
นอกจากนี้ยังประกาศปิดตลาดหุ้นในช่วงเช้าวันนี้ด้วย ทั้งนี้
นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ที่ฮ่องกงประกาศเตือนในระดับสูงสุดเช่นนี้
แม้ว่าโดยปกติแล้วฮ่องกงต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นในช่วงเดือนกรกฎาคมและตุลาคมของทุกปี
แต่การที่พายุพัดเข้ามาปะทะโดยตรงนั้นไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก
ภาพจาก
สปริงนิวส์อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
กรมอุตุนิยมวิทยา