หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง ดับปริศนาที่ โอเชี่ยนปาร์ค ขณะเล่นเครื่องเล่นในเทศกาลฮาโลวีน ด้านโอเชี่ยนปาร์คแถลงการณ์ เผยผู้ตายเข้าไปในเขตหวงห้ามโดยไม่รู้ตัว ขณะนี้สั่งปิดเครื่องเล่นแล้ว
ถือเป็นเรื่องน่าสลดไม่น้อย หลังเพจเฟซบุ๊ก Eat Like 852 - ตะลุยกิน เที่ยวฮ่องกง โดยคนไทยในฮ่องกง เผยเหตุการณ์ที่หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง เสียชีวิตที่ โอเชี่ยนปาร์ค ฮ่องกง ในขณะเล่นเครื่องเล่นชื่อว่า Buried Alive ซึ่งแม้จะมีการปฐมพยาบาลและนำตัวส่งโรงพยาบาลก็ไม่สามารถยื้อชีวิตหนุ่มรายนี้ไว้ได้
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 กันยายน 2560 โดยผู้เสียชีวิตคือชายนามสกุลเจิ๊ง วัย 21 ปี ได้เข้าไปเล่นเครื่องเล่นดังกล่าว ซึ่งให้ผู้เล่นนอนในโลงศพเคลื่อนที่ได้ ก่อนจะหายตัวไปเป็นเวลานานจนแฟนสาวได้ร้องขอให้มีการตามหา ก่อนจะพบศพ ซึ่งการเสียชีวิตครังนี้ทางสวนสนุกคาดว่า ผู้เสียชีวิตเข้าไปในพื้นที่ห้ามเข้า เพราะพบศพในจุดซ่อมบำรุง และตอนนี้ได้มีการปิดให้บริการเครื่องเล่นเพื่อทำการตรวจสอบแล้ว
ทั้งนี้ทางหน่วยงานของรัฐได้มีการขอคำชี้แจงการเสียชีวิตให้มากขึ้น เพราะต้องการทราบว่าสาเหตุการตายมาจากความผิดพลาดของผู้เสียชีวิตเองล้วน ๆ หรือมาจากการไม่มีป้ายแจ้งเตือนของทางสวนสนุกกันแน่ แม้เบื้องต้นสวนสนุกดังกล่าวจะผ่านการตรวจสอบครบถ้วนก่อนเปิดให้บริการแล้วก็ตาม
คืบหน้าล่าสุด (19 กันยายน 2560) ทางบริษัท วีโร่ พับลิค รีเลชั่นส์ ในนาม โอเชี่ยนปาร์ค ได้เผยแพร่คำแถลงการณ์อย่างเป็นทางการต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ในเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 16 กันยายน มีแขกผู้ชายท่านหนึ่งได้เข้าไปเล่นเครื่องเล่นฮาโลวีนที่มีชื่อว่า "ฝังทั้งเป็น" (Buried Alive) ของสวนสนุกโอเชี่ยนปาร์ค ซึ่งเขาได้เข้าไปในบริเวณเขตหวงห้ามโดยไม่รู้ตัว และในไม่กี่นาทีต่อมา เจ้าหน้าที่ของทางสวนสนุกพบชายผู้นั้นในอาการหมดสติ
ทีมปฐมพยาบาลของทางสวนสนุกได้ไปถึงสถานที่เกิดเหตุในเวลาอันรวดเร็วและได้นำส่งผู้ได้รับบาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลโดยรถพยาบาล ซึ่งภายในเวลาต่อมาเขาได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล
ทางทีมผู้บริหารของโอเชี่ยนปาร์ครู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น และพร้อมให้ความช่วยเหลือกับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต อนึ่ง ทางสวนสนุกได้แจ้งไปทาง Electrical and Mechanical Services Department (EMSD) โดยทันทีเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้สั่งปิดเครื่องเล่น "ฝังทั้งเป็น" (Buried Alive) หลังจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้ และเราจะทำงานร่วมกับ EMSD อย่างใกล้ชิดในการตรวจสอบและสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
***หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 17.44 น. วันที่ 18 กันยายน 2560
ภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Eat Like 852 - ตะลุยกิน เที่ยวฮ่องกง โดยคนไทยในฮ่องกง