x close

เหยื่อแก๊สกระป๋องร้านปิ้งย่างระเบิด ร้องคดีไม่คืบ แถมทางร้านหายเงียบ

 แก๊สกระป๋องร้านปิ้งย่างระเบิด

             ผู้เสียหายร้องสื่อ ถูกแก๊สกระป๋องร้านปิ้งย่างระเบิดใส่ จนบาดเจ็บหนัก แจ้งความแล้วแต่คดีกลับไม่คืบหน้า ทาง สคบ. บอกต้องรอเอกสารเป็นเดือน แถมทางร้านหายเงียบ ไม่มีติดต่อกลับ

             เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2560 มีรายงานว่า น.ส.นภัสศรณ์ สังข์สวัสดิ์ และ น.ส.เบญจวรรณ ทำเนาว์ ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์นิวส์ เพื่อขอความช่วยเหลือและติดตามความคืบหน้าคดีความกับทางร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง หลังจากที่ทั้งคู่ไปรับประทานอาหารที่ร้านแล้วโดนแก๊สระเบิดใส่จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งพวกเธอได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมและแจ้งความแล้ว ทางร้านบอกจะรับผิดชอบค่าเสียหายในตอนแรก แต่กลับชดเชยเป็นเงินจำนวนน้อย และไม่ติดต่อกลัมมาอีก

แก๊สกระป๋องร้านปิ้งย่างระเบิด
             สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 โดยผู้เสียหายได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านบูตะ บูตะ กริล ตั้งอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้านเดอะเมโทร ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี แต่ระหว่างนั้นเตาแบบต้มที่มีหม้อต้มเป็นทองเหลือง เกิดไฟดับ จึงได้แจ้งพนักงานให้มาจุดเตาให้ใหม่ พนักงานก็ขยับเตาและขยับกระป๋องแก๊ส โดยใช้กระดาษทิชชู่เป็นตัวล็อกอุปกรณ์เอาไว้ หลังจากนั้นพนักงานก็จุดไฟ เตาก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เตาแก๊สที่ตั้งหม้อทองเหลืองเกิดระเบิดเสียงดัง ทำให้ น.ส.นภัสศรณ์ และ น.ส.เบญจวรรณ ได้รับบาดเจ็บ ลูกค้าโต๊ะใกล้เคียงราว ๆ  6-7 ราย ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

             เหตุดังกล่าวทำให้ น.ส.เบญจวรรณ ได้รับบาดเจ็บจากไฟลวกและน้ำร้อนลวกหลายแห่ง ตั้งแต่ใบหน้า แขนสองข้าง และขาขวา ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 4 วัน และต้องหยุดงานเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ส่วน น.ส.นภัสศรณ์ ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดหลายแห่ง ต้องเย็บแผลที่ศอกข้างซ้าย 5 เข็ม และแผลบริเวณท้องอีก 3 เข็ม นอกจากนี้ยังมีแผลไฟไหม้ที่ใบหน้า แขนซ้าย และมือขวา ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 4 วัน และหยุดงานอีก 20 วัน

             หลังเกิดเรื่องผู้เสียหายทั้งคู่ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ศรีมหาโพธิ นอกจากนี้ยังได้ไปร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และศูนย์ดำรงธรรม จ.ปราจีนบุรี จนกระทั่งตอนนี้เวลาผ่านไป 2 เดือนแล้ว ยังคงไม่มีความคืบหน้า และไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ กลับมา พอผู้เสียหายติดต่อกลับไป ก็ได้คำตอบแค่ว่ารอสืบสวน ส่วนทางศูนย์ดำรงธรรมก็บอกว่าให้รอเอกสารชี้แจงซึ่งต้องใช้เวลาอีกประมาณ 15-30 วัน ผู้เสียหายทั้งสองจึงขอร้องเรียนผ่านสื่อ เพื่อช่วยติดตาม

แก๊สกระป๋องร้านปิ้งย่างระเบิด

             ด้านผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายทิวา วัชรกาฬ รองผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม จ.ปราจีนบุรี ทราบว่า เนื้อเรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือศูนย์ดำรงธรรมและสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้มีหนังสือแจ้งไปถึงผู้ประกอบการร้านดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมา ซึ่งผลปรากฏว่าได้มีการไกล่เกลี่ยกันในเบื้องต้นแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมและครั้งที่สองวันที่ 23 กรกฎาคม ทางร้านได้จ่ายเงินค่ายเสียหายไปแล้วส่วนหนึ่ง โดยจ่ายให้ น.ส.นภัสสร จำนวน 31,360 บาท และ น.ส. เบญจวรรณ 66,360 บาท

             ในกรณีนี้ หากผู้ร้องเรียนและเจ้าของร้านสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ ก็เป็นไปตามข้อไกล่เกลี่ย แต่ถ้าไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ ทางอนุกรรมการ สคบ.จะมีการประชุมกันว่าจะต้องทำเรื่องไปถึง สคบ.ส่วนกลางหรือไม่ เพื่อให้ทาง สคบ. ส่วนกลางทำเรื่องฟ้องร้องกับทางร้านต่อไป ทั้งนี้ทราบว่าผู้ร้องเรียนได้ทำการแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ ซึ่งเบื้องต้นทางผู้ร้องเรียนทั้งสองได้เรียกร้องค่าชดเชย โดยน.ส.เบญจวรรณ เรียกค่าชดเชย 500,000 บาท ส่วนน.ส.นภัสสร เรียกค่าชดเชย 300,000 บาท

             ด้าน พ.ต.อ. นาวิน สินธุรัตน์ ผู้กำกับ สภ.ศรีมหาโพธิ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรับเรื่องไปดำเนินการแล้ว โดยมีการเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาตกลงกัน ในเรื่องการชดใช้ค่าสินไหมหรือค่าเสียหาย ซึ่งทางเจ้าของร้านก็ได้มีการชดใช้ไปแล้วในบางส่วน แต่ทั้งนี้ข้อตกลงยังไม่ยุติ เนื่องจากผู้เสียหายทั้งสองได้เรียกร้องเงินจำนวนหนึ่งกับทางร้าน ซึ่งยังไม่สามารถตกลงกันได้ ส่วนในด้านการสอบสวน ได้มีการเชิญตัวเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือผู้จำหน่ายมาสอบปากคำแล้ว พร้อมกับส่งชิ้นส่วนไปให้ทางผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบดูว่าผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานหรือไม่

แก๊สกระป๋องร้านปิ้งย่างระเบิด

             ส่วนในด้านผู้เสียหายนั้น เผยว่า ช่วงแรกหลังจากเกิดเหตุ เจ้าของร้านติดต่อกับพวกตนเป็นอย่างดี โดยมาเยี่ยมพวกตนที่โรงพยาบาลและตอนแรกเจ้าของร้านบอกว่าจะจ่ายค่าชดเชยเงินเดือน 1 เดือน ที่ขาดรายได้ พร้อมทำเป็นหนังสือสัญญาเอาไว้ และตกลงว่าจะมารับในวันที่ออกจากโรงพยาบาล แต่เมื่อถึงวันจริงกลับไม่ได้มารับ เพียงแต่ส่งเงินค่ารถมาให้ จำนวนคนละ 11,000 บาท หลังจากนั้นพวกตนก็ได้พยายามติดต่อพูดคุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งได้รับคำตอบว่า ให้คุยกับทนาย

             หลังจากนั้นพวกตนจึงไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจเรียกเจ้าของร้านมาพูดคุย แต่เจ้าของร้านก็พยายามโยนให้ทนายเป็นฝ่ายพูดคุยแทน ความจริงแล้ว ถ้าหากเจ้าของร้านติดต่อพูดคุยกับพวกตนโดยตรง ก็จะไม่มีการแจ้งความ ส่วนเรื่องเงินก็จะเรียกร้องตามความเหมาะสมกับการรักษา ซึ่งมันไม่ใช่แค่ให้ 20,000-50,000 บาท แล้วจบเรื่อง

             เมื่อผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ พยายามโทร. ติดต่อกับทางเจ้าของร้านดังกล่าว ก็ได้รับคำตอบมาเพียงแค่ว่า ทางร้านได้ชดเชยให้ไปแล้วบางส่วน และได้ปรับปรุงรูปแบบการให้บริการ โดยเปลี่ยนจากแก๊สกระป๋องมาเป็นใช้ถ่านแทนแล้ว และก็บอกว่า ตอนนี้กำลังติดงานอยู่ที่กรุงเทพฯ เดี๋ยวจะติดต่อกลับ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด

ภาพและข้อมูลจาก workpointnews
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เหยื่อแก๊สกระป๋องร้านปิ้งย่างระเบิด ร้องคดีไม่คืบ แถมทางร้านหายเงียบ โพสต์เมื่อ 23 กันยายน 2560 เวลา 13:17:00 11,506 อ่าน
TOP