x close

‘เอพี’ มั่นใจ ศักยภาพไทยปี 61 แข็งแกร่ง ผนึกกำลัง ‘มิตซูบิชิ เอสเตท’ เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องใน 4 คอนโดใหม่ รวมมูลค่าโครงการร่วมทุน 5 ปีสูงกว่า 74,430 ล้านบาท


          ผสานความร่วมมือกับ ‘มิตซูบิชิ เอสเตท’ ต่อเนื่องปีที่ เสริมแกร่งคอนโดมิเนียมระดับกลาง-บน ประเดิมต้นปี 61 ลงนามโครงการร่วมทุน โครงการใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 23,000 ล้านบาท มุ่งพัฒนาสินค้าภายใต้แนวคิด 'สร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต" (Innovation for Quality Living in the Future)


          กรุงเทพฯ (9 ม.ค. 61) - เอพี ไทยแลนด์ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน เชื่อมั่นศักยภาพเศรษฐกิจไทยปี 2561 สดใส บรรยากาศการซื้อขายกลับสู่ภาวะปกติ ดีมานด์ตลาดคอนโดระดับกลางถึงบนตลาดตอบรับดี ผนึกกำลัง มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป พันธมิตรทางธุรกิจ กางแผนพัฒนาปี 61 เร่งสานต่อการลงทุนหลังแผนการโอนกรรมสิทธิ์ คอนโดร่วมทุนแรกออกมาสวยงาม ด้าน มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ประกาศงบลงทุนในไทย มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ประเดิมลงนามร่วมทุนคอนโดแพคแรกกับ โครงการใหญ่ รวมมูลค่าโครงการร่วมทุน ปี สูงกว่า 74,430 ล้านบาท 


          นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า "เอพี ไทยแลนด์ ได้ยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง กับ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (หรือ MECG) ยิ่งขึ้นเป็นปีที่ 5 โดยต้นปี 2561 นี้ เอพี ไทยแลนด์ และมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มีแผนที่จะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลาง-บนอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นปีได้มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกัน จำนวน โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 23,000 ล้านบาท โดย LIFE สุขุมวิท 62 จะเป็นโครงการแรกที่พร้อมเปิดในเดือนมีนาคม ผ่านระบบ AP i-Booking และโครงการอื่นๆ จะทยอยเปิดตัวตามแผนงานที่กำหนดไว้ ณ ปัจจุบันรวมมูลค่าโครงการร่วมทุน ปีสูงถึง 74,430 ล้านบาท"





          "เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจรายเดียวที่มีโมเดลร่วมทุนในแบบการจัดตั้งบริษัทแม่ในไทย ภายใต้ชื่อ "บริษัท พรีเมียม เรสซิเดนท์ จำกัด" เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการภายใต้การร่วมทุน ซึ่งในปีนี้ทางมิตซูบิชิ เอสเตทได้ส่งทีมงานจากญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มานั่งทำงานประจำร่วมกับทีมงานเอพีเพิ่มมากขึ้น เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการอนุมัติและดำเนินการต่างๆ แผนการร่วมทุนกับกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด โดยในปีที่ผ่านมา เอพีได้พัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมทุนใน Scale ที่ใหญ่ขึ้น  ทั้ง LIFE วิทยุ LIFE ลาดพร้าว และ LIFE อโศก-พระราม 9 ซึ่งทั้ง 3 โครงการส่งผลให้ยอดขายในส่วนของคอนโดมิเนียมโตขึ้นมากถึง 180% หากเทียบกับปีก่อนหน้า" นายอนุพงษ์ กล่าวเสริม


          มร. โชจิโร โคจิมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย ในนามของมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป กล่าวถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพเศรษฐกิจไทยและความสำเร็จในการพัฒนาโครงการร่วมกับ เอพี (ไทยแลนด์) ว่า "สำหรับงบลงทุนพัฒนาอสังหาฯ ในต่างประเทศของ MECG รวม 3 ปี (2561 - 2563) อยู่ที่ 4 แสนล้านเยน (หรือประมาณ 1.17 ล้านบาท) เป็นการลงทุนในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ยุโรป จีน โอเชียเนีย และกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของการลงทุนนี้ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ต่อไป โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่ทาง MECG เห็นโอกาสจากรายได้ต่อครัวเรือนของคนในกรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้นทุกปี การขยายตัวของจำนวนประชากรที่ย้ายถิ่นฐานจากต่างจังหวัด อีกทั้งระบบขนส่งมวลชนที่พัฒนาไปมาก ส่งผลให้เกิดการกระจายออกของศูนย์กลางความเจริญของเมืองรูปแบบใหม่ ที่ทำให้วิถีการใช้ชีวิตของคนไทยมีความคล่องตัวในลักษณะครอบครัวขนาดเล็กลงมากขึ้น"

 

          "จากการร่วมมือกันที่ผ่านมา มีผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก ทั้งในส่วนของยอดขายและการโอนกรรมสิทธิ์ โดยในส่วนของยอดขายคอนโดมิเนียมภายใต้การร่วมทุนปี 2557 - 2560 ทั้งสิ้น 11 โครงการ มียอดขายรวมเฉลี่ย 90% จากมูลค่ารวมทั้งสิ้น 51,430 ล้านบาท โดยเป็นโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่จำนวน 6 โครงการ ได้แก่ (1) RHYTHM สุขุมวิท 36 – 38 (2) ASPIRE รัชดา – วงศ์สว่าง (3) ASPIRE สาทร – ท่าพระ (4) RHYTHM อโศก 2 และ 2โครงการล่าสุด ที่ได้เปิดโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 4/2560 ที่ผ่านมา คือ (5) Life ปิ่นเกล้า และ (6) RHYTHM รางน้ำ โดยลูกค้าให้การตอบรับโอนกรรมสิทธิ์ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งเป็นผลจากการทำงานร่วมกันในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ AP Check List หนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการควบคุมคุณภาพสินค้าที่เริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการออกแบบพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบคุณภาพสินค้าอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งใจจะเดินหน้าทำงานร่วมกับเอพีฯ ต่อไปในการพัฒนาคอนโดมิเนียมตอบคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต เพื่อป้อนตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เรายังคงตั้งเป้าจะพัฒนาโครงการร่วมกับเอพี ด้วยมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท" มร. โชจิโร โคจิมา กล่าวเสริม

 





          ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 แห่งความร่วมมือและมิตรภาพที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เอพี (ไทยแลนด์) และ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ยังคงให้ความสำคัญกับการนำความเชี่ยวชาญของเอพี และ MECG สู่การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่ครอบคลุมการพัฒนาที่อยู่อาศัย การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเข้มข้นและจริงจัง ที่จะสร้างความแตกต่าง ครอบคลุมทุกมิติทั้งในด้าน ‘คุณภาพ’ ‘บริการ’ ‘ความสะดวกสบาย’ และ ‘ความปลอดภัย’ นำเสนอให้เกิดขึ้นจริงในคอนโดมิเนียมเครือเอพี ภายใต้กรอบวิสัยทัศน์ "สร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต" (Innovation for Quality Living in the Future) มุ่งยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมนานาประเทศ โดยมีเป้าหมายในเฟสแรกจะร่วมพัฒนาคอนโดมิเนียม 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 23,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้การร่วมทุนครั้งแรกเมื่อปี 2557 จนถึงวันนี้ เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท ได้พัฒนาโครงการร่วมกันมูลค่าสูงถึง 74,430 ล้านบาท

 

          "ด้วยความพร้อมด้านทีมงานคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ และพันธมิตรคุณภาพภายใต้ passion เดียวกันที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยคุณภาพ ผมเชื่อว่า เอพี ไทยแลนด์จะสามารถสร้างความแตกต่างและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และยังคงเป็น 1 ใน 3 ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยจะนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยแห่งอนาคต ผ่านการคิดค้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เท่าทันต่อโลกในอนาคต เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมไทยให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ" คุณอนุพงษ์กล่าวสรุป 

 

          สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปี 61 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นตามการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจประเทศที่น่าจะเติบโตได้ถึง 3.8 – 4% กิจกรรมการตลาดและบรรยากาศการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงต้นปี 61 การแข่งขันในตลาดอสังหาฯ ยังคงเกิดจากผู้ประกอบการรายใหญ่ประมาณ 10 รายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ถือครองส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 80% ดังนั้น ผู้ประกอบการที่หวังจะโตต่อต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงเร็วและแบ่งย่อยเป็นกลุ่มที่ซับซ้อน และต้องบาลานซ์พอร์ตสินค้าคอนโดมิเนียมและแนวราบให้สมดุล โดยเชื่อว่าสินค้าคอนโดมิเนียมที่ตอบตลาดระดับกลางถึงบนมีแนวโน้มเติบโตได้ดี เพราะมีซัพพลายในตลาดไม่มาก และสต๊อกส่วนใหญ่ถูกระบายออกไปในปีที่ผ่านมา ขณะที่สินค้าแนวราบยังโตได้ต่อเนื่อง จากกำลังซื้อเรียลดีมานด์

 

"เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมการดีไซน์ เพื่อการอยู่อาศัยในเมือง"

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
‘เอพี’ มั่นใจ ศักยภาพไทยปี 61 แข็งแกร่ง ผนึกกำลัง ‘มิตซูบิชิ เอสเตท’ เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องใน 4 คอนโดใหม่ รวมมูลค่าโครงการร่วมทุน 5 ปีสูงกว่า 74,430 ล้านบาท อัปเดตล่าสุด 17 มกราคม 2561 เวลา 16:15:08
TOP