ลูกค้ายัน ไม่ได้กินซีฟู้ดเหลือตามที่ถูกเจ้าของร้านกล่าวอ้าง ชี้เห็นว่าค่าปรับน้ำจิ้ม 600 แพงไป ไม่ได้ตั้งใจทำลายชื่อเสียงร้าน จ่อร้อง สคบ. จ.ชลบุรี
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาโพสต์ภาพโวย กินบุฟเฟต์ แต่ถูกปรับค่าน้ำจิ้มซีฟู้ดแพงกว่า 600 บาท ซึ่งทางเจ้าของร้านบางอ้อปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์ทะเลเผา ริมถนนสายศรีราชา-ชากค้อ ได้เข้าแจ้งความต่อ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมชี้แจงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวทิ้งอาหารทะเลเหลือหลายอย่าง ซึ่งจริง ๆ น่าจะปรับ 1,000 บาทด้วยซ้ำ แต่ทางร้านคิดค่าค่าน้ำจิ้มเท่านั้น [อ่านข่าว : เจ้าของร้านบุฟเฟต์ เข้าแจ้งความหมิ่นประมาทลูกค้า หลังโวยโดนปรับ 600]
ล่าสุด (26 มกราคม 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV เผยว่า น.ส.จารุภา อู่เงิน หญิงสาวผมยาวคนที่นำเรื่องมาโพสต์ พร้อมด้วย น.ส.นภัสรา พงรักษ์ประเสริฐ , นายอนุรักษ์ สนตาเถร และ นายสุหก แขกเณร ก็ได้ออกมาชี้แจงว่าพวกตนเป็นลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการร้านดังกล่าว โดยหลังจากเรียกพนักงานมาเช็กบิลตอนกินเสร็จ ก็ถูกบอกว่าโต๊ะของตนกินน้ำจิ้มเหลือ ต้องปรับขีดละ 100 บาท ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจ เพราะพวกตนก็ชอบกินอาหารทะเลเผาเป็นประจำ ไม่เคยเจอร้านอื่นเก็บเงินค่าน้ำจิ้ม อีกทั้งเวลานั้นพวกตนกินอาหารหมดแล้ว เหลือแค่น้ำจิ้ม แต่ทางร้านกลับนำน้ำจิ้ม 2 สูตรที่พวกตนตักมาไปใส่รวมกันแล้วชั่งได้ 6 ขีด คิดเป็นค่าปรับ 600 บาท จึงนำเรื่องไปโพสต์เฟซบุ๊ก
แต่ทั้งนี้ตนไม่มีเจตนาทำให้ร้านเสียชื่อเสียง โดนหลังจากที่โพสต์ไปก็มีคนเข้ามาโจมตีว่าพวกตนตะกละ อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงเจ้าของร้านว่า หากตนกินอาหารเหลือจริงก็ยอมโดนปรับ แต่อาหารที่พวกตนตักมานั้นกินกันจนหมดไม่เหลือ เหลือแค่น้ำจิ้ม ทำไมต้องปรับกันขนาดนี้
ในเวลาต่อมา น.ส.จารุภา ยังได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ. ยุทธนา กองตา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ศรีราชา เพื่อแจ้งความ แต่ได้รับคำแนะนำให้ไปร้องเรียนที่ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จ.ชลบุรี
ภาพและข้อมูลจาก