x close

เช็คลิสต์ 4 ข้อ เพิ่มพื้นที่ออนไลน์ท่ามกลางสถานการณ์ Facebook ลด Reach




เช็คลิสต์ 4 ข้อ เว็บไซต์แบรนด์แบบไหนต้องรีบปรับด่วน
เพิ่มพื้นที่ออนไลน์ท่ามกลางสถานการณ์ Facebook ลด Reach

          เมื่อ Facebook ปรับอัลกอริทึ่ม จนทำให้ Reach หรือ ยอดคนเข้าการโพสต์แต่ละครั้งของแฟนเพจน้อยลงแล้ว ดังนั้นแบรนด์เองควรเพิ่มพื้นที่นอกจากเฟซบุ๊ก อย่างเว็บสินค้าของเราเองให้เป็นอีกพื้นที่ที่สื่อสารกับผู้บริโภคในออนไลน์

คุณสหรัฐ สวัสดิ์อธิคม Managing Director, Executive Creative Director จากบริษัท CJ WORX ดิจิทัลเอเจนซีสัญชาติไทย ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์วงการโฆษณา ด้วยการคว้ารางวัล GRAND PRIX CANNES LIONS 2017 วิเคราะห์สถานการณ์ด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่ต้องปรับตัว เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปแล้ว

เพราะ 1 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเข้าสู่ยุคทอง ของอีคอมเมิร์ซได้อย่างเต็มตัว ผู้บริโภคสั่งของกิน,ของใช้ส่งตรงถึงบ้าน โดยลดความถี่ในการชอปปิ้งที่ห้าง สรรพสินค้า แม้เว็บไซต์ชอปปิ้งออนไลน์จะมีตั้งแต่ปี 2000 แต่ขณะนี้ถือว่าเป็นการเข้าสู่ยุคชอปปิ้งออนไลน์อย่างแท้จริง

          คุณสหรัฐ แนะนำเจ้าของธุรกิจควรความสำคัญกับพื้นที่แบรนด์อย่างเว็บไซต์ ควบคู่กับไปพื้นที่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค เพราะที่ผ่านมาช่วงหลังๆแบรนด์เน้นให้ความ สำคัญกับพื้นที่โซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟซบุ๊ก จนลืมการเพิ่มพื้นที่แบรนด์ควบคู่กันไป โดยข้อแนะนำเบื้องต้นควรเช็ค 4 ปัจจัยที่เรียกว่า หากไม่มีถือว่า เว็บไซต์ถึงเวลาต้องปรับปรุงแล้ว

          1. การแสดงเว็บไซต์รองรับหน้าจอมือถือและแท็บเล็ตหรือยัง เพราะปัจจุบันเกือบ 90% ของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่ ดูข้อมูลผ่านจอโทรศัพท์มือถือ การที่เว็บไซต์แบรนด์ใหญ่ล้นเกิน จอโทรศัพท์มือถือ หรือขนาดตัวอักษร ก็เด้งไปเด้งมา และอีกหลากหลายปัญหา ย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน

          2. เว็บไซต์เชื่อมต่อกับการเสิร์ชหาหรือไม่ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่หลายแบรนด์ไม่ให้ความสนใจ เพราะคิดว่าพฤติกรรม ผู้บริโภคจะไปเสิร์ชหาข้อมูลจากพื้นที่ของผู้บริโภคอย่างการรีวิวมากกว่า แต่ก็ใช่ว่าจะละเลยพื้นทีของแบรนด์ที่ให้ข้อมูลเชิงละเอียดด้วยเช่นกัน

          3. ชอบโดนใจแล้วแชร์ไปโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ง่ายหรือเปล่า เพราะคอนเทนต์ที่โดนใจ ผู้บริโภคมักแชร์และบอกต่อ อย่างสินค้า รุ่นพิเศษจำนวนจำกัด หรือการรีวิวที่เนื้อหาที่ถูกใจผู้บริโภคฯลฯ ดังนั้น เว็บไซต์ที่ดีควรรองรับในการแชร์ เพื่อเชื่อมให้ผู้บริโภคคนอื่นได้รับรู้ด้วย

          4. หน้าเว็บมีศาสตร์และศิลป์ในการโน้มน้าวแค่ไหน ไม่ใช่เพียงแค่มีข้อมูลเชิงลึก มีเนื้อหาที่เป็นคลิปวิดีโอ และมีการรีวิว การใช้สินค้าตามที่ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการเท่านั้นในเว็บไซต์ที่ดีควรจะมี อย่างที่ CJ WORX ให้ความสำคัญในเรื่องของ Psychology of web design คือ ทั้งดีไซน์-การจัดวาง-องค์ประกอบและเนื้อหา ทั้งหมดต้องสอดคล้องด้วยเช่นกัน อาทิ ต้องใช้ภาพอย่างไร มีอักษรพาดหัวอย่างไรถึงกระตุ้นให้เกิดActionจากผู้บริโภค หรือ ต้องใช้ระยะเวลานานเท่าใด ที่ผู้บริโภคเข้ามายังเว็บไซต์แบรนด์แล้ว ถึงเกิดActionอะไรบางอย่าง เช่น การคลิ๊กดูรายละเอียด ในหน้าถัดไป

          แต่ใช่ว่า แบรนด์จะต้องทำเว็บไซต์ ให้สามารถ สั่งซื้อสินค้าและบริการได้เลย ผู้บริหาร CJ WORX บอกถึงสาเหตุว่า เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคยังใช้ราคาเป็นตัวตัดสินใจ เมื่อดูข้อมูลจากแบรนด์ หาข้อมูลรีวิวอื่นๆมาประกอบ แต่สุดท้ายผู้บริโภคกลับไปซื้อในพื้นที่ที่มีการแข่งขันราคา อย่างเว็บไซต์ชอปปิ้งออนไลน์

          นอกจากในยุคที่ Content is king และ Consumer is God ทำให้ใครเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ก่อน ย่อมเข้าถึงและเข้าใจพวกเขาเหล่านั้น และช่วงชิงเม็ดเงินในกระเป๋าก่อนใครเช่นกัน








เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เช็คลิสต์ 4 ข้อ เพิ่มพื้นที่ออนไลน์ท่ามกลางสถานการณ์ Facebook ลด Reach โพสต์เมื่อ 5 มีนาคม 2561 เวลา 11:23:56
TOP