ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 13 มีนาคม 2561 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยรายงานชวนสะเทือนขวัญ ระบุว่า ไจซี อัลเฟนาส โรชา ชายชาวบราซิลวัย 37 ปี อาชีพพนักงานขับรถส่งอาหาร และรับจ๊อบทำงานที่ร้านล้างรถ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดจ้วงแทง คาริน่า กวิมาเรส บาทิสตา แฟนสาวอายุ 40 ปี จนถึงแก่ชีวิต ภายในบ้านในเขตอีสตัน เมืองบริสตอล สหราชอาณาจักร ก่อนจะนำศพของเธอไปซ่อนไว้ใต้ที่นอน
ทางอัยการระบุว่า โรชาไม่ได้มีการวางแผนฆ่าบาทิสตา โดยหลังจากก่อเหตุเขาได้ใช้โทรศัพท์ของเธอส่งข้อความไปหาญาติรายหนึ่งที่ประเทศบราซิล โดยบอกให้รีบตอบ เพราะมีเรื่องด่วน จากนั้นเขาได้ออกจากบ้านไปในเวลา 01.47 น. พร้อมกับไปถอนเงินสดประมาณ 10,000 บาท จากบัญชีธนาคารของบาทิสตา ก่อนจะขับรถไปพบเพื่อน กระทั่งเวลา 06.30 น. เขาได้ขับรถไปที่สถาบันสุขภาพจิต ที่ก่อนหน้านี้เคยไปเข้ารับการรักษา โดยเขาได้อยู่ที่บริเวณลานจอดรถ 2 ชั่วโมง ก่อนในที่สุดจะตัดสินใจเดินเข้าไปภายในตึก จากนั้นมีพยาบาลรายหนึ่งมาพบเขาขณะกำลังร้องไห้ตัวสั่น และกล่าวคำภาษาโปรตุเกสว่า "ตาย" และ "ฉันทำ" หลังจากนั้นจึงมีการแจ้งเหตุไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และพบศพของบาทิสตาถูกซ่อนไว้
รายงานเผยว่า โรชาและบาทิสตา ย้ายเข้ามาอยู่ที่สหราชอาณาจักรเมื่อปี 2559 เนื่องจากพี่สาวของบาทิสตาอาศัยอยู่ที่นี่ จากนั้นทั้งคู่ก็ย้ายออกจากบ้านไปหาบ้านเช่าของตัวเองอยู่ด้วยกัน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 มกราคม ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะเกิดเหตุ โรชา และบาทิสตา ได้เข้าไปพบแพทย์พร้อมกัน โดยโรชาต้องการปรึกษาเกี่ยวกับอาการพารานอยด์ เนื่องจากเขามีความหวาดระแวงกลัวว่าจะมีคนมาทำร้าย
นอกจากนี้ ทางบาทิสตายังได้เผยกับทางแพทย์ว่า โรชาใช้ความรุนแรงกับเธอ มีการขึ้นเสียง และมีการใช้มีด ซึ่งเธอเคยกลัวว่าเขาจะเป็นอันตราย ตามบันทึกของทางแพทย์ ระบุว่า มีการตรวจพบความเครียดระหว่างทั้งคู่ จึงได้แนะนำให้โรชามาเข้าร่วมตรวจสุขภาพจิตในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ และเขาก็มาเข้าร่วมประเมินด้วย ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่วันกลับเกิดโศกนาฏกรรมสุดสะเทือนขวัญขึ้นดังกล่าว
สำหรับคดีความในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาในชั้นศาล