x close

อัยการสูงสุดเห็นพ้อง สั่งฟ้องเปรมชัย กับพวก 6 ข้อหา-อีก 3 ข้อหา ไม่ฟ้อง



คดีเปรมชัย

          อัยการภาค 7 แถลงคืบคดี "เปรมชัย-พวก" ยันสั่งพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วน สั่งฟ้องวันนี้ 6 ข้อหา
 

          นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 พร้อมด้วยนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คน โดยระบุว่า หลังจากที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 เห็นแย้งกับสำนวนสั่งฟ้องนายเปรมชัย และพวก 4 คน โดยได้มีการยื่นให้ทางอัยการสูงสุด พิจารณาและชี้ขาด ซึ่งอัยการสูงสุดมีความเห็นพ้องตามสำนักงานอัยการภาค 7 ให้สั่งฟ้อง นายเปรมชัย ใน 6 ข้อหา ได้แก่

          1. ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร
          2. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
          3. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต
          4. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต
          5. ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย
          6. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
คดีเปรมชัย

          และมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง 3 ข้อหา เนื่องจากเห็นว่า เป็นโทษทางปกครอง ส่วนโทษทางอาญา ไม่มีกฎหมายบัญญัติ คือ

          1. ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
          2. ร่วมกันมีเครื่องมือสำหรับการล่าสัตว์ป่า
          3. ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่า (กระรอก) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต

          ส่วนนายยงค์ โดดเครือ มีความเห็นสั่งฟ้องเหมือนกับนายเปรมชัย แต่เพิ่มประเด็นร่วมกันมีปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, นางนที เรียมแสน มีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ข้อหา คือ

          1. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
          2. ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร
          3. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต
          4. ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย
          5. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต

          และนายธานี ทุมมาศ มีความเห็นสั่งฟ้องเหมือนนายเปรมชัย แต่เพิ่ม 2 ข้อหา คือ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต


คดีเปรมชัย

          ซึ่งในวันนี้ทางสำนักงานอัยการภาค 7 จะสามารถนำสำนวนคดีทั้งหมดไปยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ส่วนกรณีที่นายเปรมชัย ได้ร้องขอความเป็นธรรม 2 ครั้ง ในประเด็น สถานที่อยู่ของนายเปรมชัย ในวันที่เกิดเหตุ และขอให้สอบปากคำเพิ่มเติม นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ 3 คน รวมถึงบุคคลภายนอกนั้น สำนักงานอัยการภาค 7 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นการประวิงคดี และที่ผ่านมาได้สั่งให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐานไปครบถ้วนหมดแล้ว คำร้องดังกล่าวจึงไม่เป็นเหตุให้ต้องสอบสวนเพิ่มเติม

          ส่วนค่าเสียหายทางอาญา จากเดิมที่กำหนดให้ผู้ต้องหาต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 4 แสนบาทนั้น ทางอัยการสูงสุดได้มีความเห็นควรให้นายเปรมชัย กับพวก 4 คน ชดใช้เป็นเงินจำนวน 3,012,000 บาท

          นอกจากนี้ อธิบดีอัยการภาค 7 ยังกล่าวถึงข้อกังวลว่า ในส่วนของพยานกว่า 40 ปากที่พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้ โดยขอความร่วมมือให้เดินทางมาขึ้นเบิกความต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิด้วยตัวเอง เพื่อความรวดเร็วในการพิจารณา

          อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ถือเป็นวันครบกำหนดฝากขังผลัดสุดท้าย และพนักงานอัยการก็ได้มีความเห็นสั่งฟ้องนายเปรมชัยกับพวก ต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้ว ใน 6 ข้อหา รวมถึง ในวันที่ 2 พฤษภาคม นี้ นายเปรมชัยกับพวกจะต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาล

ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิสืบนาคะเสถียร, คนอนุรักษ์
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อัยการสูงสุดเห็นพ้อง สั่งฟ้องเปรมชัย กับพวก 6 ข้อหา-อีก 3 ข้อหา ไม่ฟ้อง อัปเดตล่าสุด 30 เมษายน 2561 เวลา 14:30:35 3,606 อ่าน
TOP