ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ไลกา หญิงสาวชาวลัตเวีย วัย 33 ปี ตัดสินใจเดินทางไปท่องเที่ยวพักกายพักใจที่รัฐเกรละ ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย ที่นั่นเป็นต้นกำเนิดของอายุรเวท องค์ความรู้ทางการแพทย์แผนโบราณของอินเดียที่มีอายุยาวนานกว่า 5,000 ปี ซึ่งเป็นศาสตร์เก่าแก่เกี่ยวกับการรักษาร่างกาย จิตใจ และความคิด ไม่ว่าจะเป็นการทำโยคะ กำหนดลมหายใจ ไปจนถึงเรื่องอาหารการกิน ด้วยความที่ไลกาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เธอจึงชวน อิลเซ พี่สาวของเธอ ไปเที่ยวที่อินเดียด้วยกัน เนื่องจากหวังว่าการรักษาด้วยศาสตร์ดังกล่าวจะช่วยให้อาการของเธอดีขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ กลับเป็นโศกนาฏกรรมที่เลวร้าย และสะเทือนขวัญอย่างที่สุด
ไลกาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหน จนกระทั่งในวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นพบศพหญิงสาวคนหนึ่งในป่าชายเลน ในเขตพื้นที่เมืองธีรุวนันทปุรัม หรือตรีวันดัม โดยร่างหญิงสาวคนนี้อยู่ในลักษณะแขวนคอห้อยลงมาจากต้นไม้ สภาพศพขึ้นอืดและเน่าเฟะอย่างมาก คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจนำศพไปยังสถาบันนิติเวช เพื่อตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต และตรวจดีเอ็นเอระบุตัวตน ซึ่งผลตรวจปรากฏว่า หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ไลกา ที่หายตัวไปนั่นเอง
โลคนาถ เบฮารา ผู้บัญชาการตำรวจเมืองธีรุวนันทปุรัม เปิดเผยกับสำนักข่าวเอ็นดีทีวี ว่า ถึงแม้ว่าสภาพศพของไลกาจะเน่าเฟะไปมากแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็พบร่องรอยที่สามารถยืนยันได้ว่า ไลกาไม่ได้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย แต่เธอถูกฆ่าข่มขืน และไม่กี่วันหลังจากพบศพเธอ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ โดยเป็นแก๊งค้ายาในท้องถิ่น และหนึ่งในผู้ต้องหาเคยก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศมาแล้วหลายครั้ง
"มันเป็นคดีที่ค่อนข้างยาก และการสืบสวนต้องพึ่งพาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นส่วนใหญ่ แต่เราก็สามารถยืนยันได้ว่าเหยื่อถูกข่มขืนและถูกฆาตกรรม โดยเธอถูกแก๊งคนร้ายล่อลวงมาในพื้นที่บริเวณนี้ คนร้ายให้เธอเสพยาและลงมือข่มขืน เมื่อเหยื่อขัดขืน พวกมันก็ฆ่าเธอ และเอาศพไปแขวนคอไว้กับต้นไม้ เพื่อจัดฉากว่าเธอฆ่าตัวตายเอง" มาโนช อับราฮัม เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบคดี กล่าว
ด้าน อิลเซ พี่สาวของไลกา เปิดเผยว่า ตอนแรกที่น้องสาวของเธอหายตัวไป เธอรู้สึกไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมาก แต่ในช่วงหลัง พวกเขาให้ความร่วมมือกับเธอเป็นอย่างดี และสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด เธอเชื่อว่าพวกเขาทำงานอย่างเต็มที่ มั่นใจว่าน้องสาวของเธอจะได้รับความยุติธรรม และคนร้ายจะต้องถูกลงโทษ นอกจากนี้แล้ว อิลเซได้จัดงานศพให้กับน้องสาว เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และจะมีงานรำลึกถึงเธอในวันที่ 6 พฤษภาคม นี้
"พวกเราไม่อยากจากอินเดียไปด้วยความทรงจำที่เลวร้าย เพราะน้องสาวของฉันรักประเทศอินเดียมาก เธอได้รับความรัก ได้พบเจอกับผู้คนดี ๆ มากมายที่นี่ และงานรำลึกครั้งนี้จะเป็นการอุทิศถึงเธอ" อิลเซ กล่าว
ภาพจาก onlinevartha.in, malayalam.samayam.com, aajkaal.in