คนสิงคโปร์ออกมาแฉกลโกงคนไทย หลังถือแอลกอฮอล์จำนวนมากเพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย แต่งานนี้เจอตีกลับอย่างไว รู้กฎแล้วทำไมยังฝ่าฝืน ?
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2561 เว็บไซต์ mothership.sg ได้ออกมาเผยถึงประสบการณ์ของหญิงชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง ที่ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเธอเองได้ออกมาเผยประสบการณ์ว่า ตนเองถูกรีดไถจากเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร
ทั้งนี้ หญิงคนดังกล่าว ได้เดินทางมาที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 และเครื่องบินได้ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 09.40 น. โดยทั้งกลุ่มมีทั้งหมด 14 คน และเมื่อกำลังจะเดินไปเรียกรถเพื่อออกจากสนามบิน ก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาถามสอบถามทั้งกลุ่มว่ามากันทั้งหมดกี่คน และเรียกตัวไปสอบ ทุกคนเองให้ความร่วมมืออย่างดี โดยมีคนประมาณ 2-3 คนที่ถูกกักตัวและยึดพาสปอร์ตไว้
โดยก่อนหน้านี้ ทั้งกลุ่มเองได้มีการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ Balvenie 16 มาทั้งหมด 6 ขวด จากสนามบินชางงี แต่ละขวดได้มีใบเสร็จใส่ไว้ในซองและปิดซีลอย่างดี แต่เจ้าหน้าที่ที่สนามบินชางงี ได้รวมเหล้า 3 ขวดใส่ในถุงพลาสติกใบใหญ่ 2 ใบ ทำให้มีแค่คน 2 คนที่ถือเหล้าเข้าประเทศไทย ซึ่งทางกลุ่มเองรับทราบดีว่า คน 1 คน สามารถถือเหล้าแค่ 1 ขวดเข้าประเทศไทยได้เท่านั้น
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการปรับทั้งหมดเป็นเงิน 75,000 บาท แต่ได้มีการต่อรองเหลือค่าปรับเป็น 49,000 บาท และลดลงไปอีกจนเหลือ 33,000 บาท ซึ่งต้องจ่ายเป็นเงินสดทันที ห้ามใช้บัตรเครดิต และถ้าไม่จ่ายอาจต้องติดคุก ซึ่งก็ได้มีการจ่ายไป
อย่างไรก็ตาม หญิงคนดังกล่าวตั้งข้อสังเกตว่า มีเจ้าหน้าที่สนามบินที่ยืนประจำที่จุดรับกระเป๋า และทางออกสนามบิน ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่เองค่อนข้างเพ่งเล็งคนที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ถือแอลกอฮอล์หรือบุหรี่เข้ามาเกิน และในขณะที่มีการสอบสวนนั้น ก็ได้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่เข้ามาเนื่องจากทำผิดกฎ และถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้มีการจ่ายเงินค่าปรับ
ทั้งนี้ กฎการนำของติดตัวเข้าทางอากาศยานสำหรับผู้โดยสาร
ได้ระบุว่า ผู้โดยสารสามารถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกินคนละ 1
ลิตรเท่านั้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mothership.sg, Suvarnabhumi Airport
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2561 เว็บไซต์ mothership.sg ได้ออกมาเผยถึงประสบการณ์ของหญิงชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง ที่ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเธอเองได้ออกมาเผยประสบการณ์ว่า ตนเองถูกรีดไถจากเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร
ทั้งนี้ หญิงคนดังกล่าว ได้เดินทางมาที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 และเครื่องบินได้ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 09.40 น. โดยทั้งกลุ่มมีทั้งหมด 14 คน และเมื่อกำลังจะเดินไปเรียกรถเพื่อออกจากสนามบิน ก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาถามสอบถามทั้งกลุ่มว่ามากันทั้งหมดกี่คน และเรียกตัวไปสอบ ทุกคนเองให้ความร่วมมืออย่างดี โดยมีคนประมาณ 2-3 คนที่ถูกกักตัวและยึดพาสปอร์ตไว้
โดยก่อนหน้านี้ ทั้งกลุ่มเองได้มีการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ Balvenie 16 มาทั้งหมด 6 ขวด จากสนามบินชางงี แต่ละขวดได้มีใบเสร็จใส่ไว้ในซองและปิดซีลอย่างดี แต่เจ้าหน้าที่ที่สนามบินชางงี ได้รวมเหล้า 3 ขวดใส่ในถุงพลาสติกใบใหญ่ 2 ใบ ทำให้มีแค่คน 2 คนที่ถือเหล้าเข้าประเทศไทย ซึ่งทางกลุ่มเองรับทราบดีว่า คน 1 คน สามารถถือเหล้าแค่ 1 ขวดเข้าประเทศไทยได้เท่านั้น
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการปรับทั้งหมดเป็นเงิน 75,000 บาท แต่ได้มีการต่อรองเหลือค่าปรับเป็น 49,000 บาท และลดลงไปอีกจนเหลือ 33,000 บาท ซึ่งต้องจ่ายเป็นเงินสดทันที ห้ามใช้บัตรเครดิต และถ้าไม่จ่ายอาจต้องติดคุก ซึ่งก็ได้มีการจ่ายไป
อย่างไรก็ตาม หญิงคนดังกล่าวตั้งข้อสังเกตว่า มีเจ้าหน้าที่สนามบินที่ยืนประจำที่จุดรับกระเป๋า และทางออกสนามบิน ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่เองค่อนข้างเพ่งเล็งคนที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ถือแอลกอฮอล์หรือบุหรี่เข้ามาเกิน และในขณะที่มีการสอบสวนนั้น ก็ได้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่เข้ามาเนื่องจากทำผิดกฎ และถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้มีการจ่ายเงินค่าปรับ
เรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดการแชร์ออกไปอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ของสิงคโปร์ ซึ่งก็มีความคิดเห็นที่หลากหลาย บางคนออกมาบอกว่า ประเทศไทยไม่ใช่เมื่องแห่งรอยยิ้มอีกต่อไป ใคร ๆ ก็อยากโกงนักท่องเที่ยวแม้กระทั่งแท็กซี่ ซึ่งมีคนเข้ามาบอกว่า จริง ๆ ประเทศไทยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แค่เปลี่ยนจากการโกงฝรั่งมาโกงนักท่องเที่ยวทุกชาติทุกภาษาแทน
อย่างไรก็ตาม กลับมีกระแสตีกลับในเรื่องนี้ ทั้งที่บอกว่า ตัวของนักท่องเที่ยวเองก็รู้กฎดีกว่า คน 1 คนสามารถถือเหล้าเข้าประเทศไทยได้คนละ 1 ขวด แต่ยังเอาไปรวมกันให้แค่คน 2 คนถืออีก ในเมื่อดิวตี้ฟรีสิงคโปร์ได้แยกใบเสร็จและแยกถุงออกมาขนาดนั้นแล้ว และหากรู้ดีว่าศุลกากรของไทยค่อนข้างเพ่งเล็งนักท่องเที่ยว เหตุใดจึงยังไม่ทำตามกฎ
นอกจากนี้ ยังมีคนบอกว่า คนที่กล่าวหาว่านี่เป็นการต้มตุ๋มจากศุลกากรไทยนั้น ต้องมองให้ออกว่าแท้ที่จริง เจ้าหน้าที่ได้ทำตามกฎ หากมีการถือยาเสพติดเข้าประเทศและบอกว่าเป็นของคนอื่น เจ้าหน้าที่เองก็คงไม่ยอม และมีอีกคนที่มองว่า ถ้าคุณทำแบบนี้ที่สิงคโปร์ เจ้าหน้าที่เองจะกักตัวคุณไว้ ไม่ปล่อยให้คุณได้ต่อรองเรื่องค่าปรับด้วยซ้ำ และอยากให้ถือเรื่องไว้เป็นบทเรียนต่อไป
อย่างไรก็ตาม กลับมีกระแสตีกลับในเรื่องนี้ ทั้งที่บอกว่า ตัวของนักท่องเที่ยวเองก็รู้กฎดีกว่า คน 1 คนสามารถถือเหล้าเข้าประเทศไทยได้คนละ 1 ขวด แต่ยังเอาไปรวมกันให้แค่คน 2 คนถืออีก ในเมื่อดิวตี้ฟรีสิงคโปร์ได้แยกใบเสร็จและแยกถุงออกมาขนาดนั้นแล้ว และหากรู้ดีว่าศุลกากรของไทยค่อนข้างเพ่งเล็งนักท่องเที่ยว เหตุใดจึงยังไม่ทำตามกฎ
นอกจากนี้ ยังมีคนบอกว่า คนที่กล่าวหาว่านี่เป็นการต้มตุ๋มจากศุลกากรไทยนั้น ต้องมองให้ออกว่าแท้ที่จริง เจ้าหน้าที่ได้ทำตามกฎ หากมีการถือยาเสพติดเข้าประเทศและบอกว่าเป็นของคนอื่น เจ้าหน้าที่เองก็คงไม่ยอม และมีอีกคนที่มองว่า ถ้าคุณทำแบบนี้ที่สิงคโปร์ เจ้าหน้าที่เองจะกักตัวคุณไว้ ไม่ปล่อยให้คุณได้ต่อรองเรื่องค่าปรับด้วยซ้ำ และอยากให้ถือเรื่องไว้เป็นบทเรียนต่อไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mothership.sg, Suvarnabhumi Airport