ปปป. ลุยตรวจล็อตที่ 4 พบวัดอีก 30 แห่งทั่วประเทศ เข้าข่ายทุจริตเงินทอนวัด ความเสียหาย 102 ล้านบาท โซนภาคเหนือพบทุจริตงบบูรณะฯ กว่า 6 ล้าน ขณะที่โซนภาคกลางพบ 70 ล้าน
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังบุกตรวจค้น 3
วัดดังในกรุงเทพฯ หลังพบว่าเกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด ประกอบด้วย
วัดสระเกศราชวรวิหาร วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร และวัดสามพระยาวรวิหาร
พร้อมกันนี้ยังได้แบ่งกำลังอีก 2 ชุด
เข้าตรวจค้นที่วัดในพื้นที่ต่างจังหวัดอีก 2 แห่ง ประกอบด้วย วัดอ้อน้อย
จ.นครปฐม
จากกรณีพระพุทธะอิสระเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเมื่อครั้งมีการชุมนุม กปปส.
เมื่อปี 2556 และจุดสุดท้ายคือ วัดตราชู และวัดกุฏีทอง อ.พรมบุรี
จ.สิงห์บุรี
กรณีชาวบ้านร้องเรียนว่าพระพุทธรูปเก่าแก่ของวัดดังกล่าวหายไปนั้น
ล่าสุด (27 พฤษภาคม 2561) ทีมข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ ให้ข้อมูลว่า
ทางตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.)
ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาพยานหลักฐาน
จนพบวัตถุต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในเงินทอนวัด ล็อตที่ 4
อีกทั้งมีการตรวจสอบการทุจริตในงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนาช่วง พ.ศ. 2554
-2559 โดยมีเป้าหมายดำเนินการ 60 แห่งใน 13 จังหวัดทั่วประเทศ
ขณะนี้ได้ตรวจสอบไปแล้ว 40 แห่ง พบการกระทำผิดประมาณ 30 วัด ความเสียหาย
102 ล้านบาท
โดยแบ่งโซนเป็นภาคเหนือ พบการทุจริตเงินทอนวัดงบบูรณะปฏิสังขรณ์ 3 วัด เสียหายกว่า 6 ล้านบาท และอยู่ระหว่างตรวจสอบอีก 4 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบทำผิด 1 วัด ในงบปริยัติธรรม ภาคใต้มีเป้าหมาย 7 วัด ตรวจสอบแล้วพบการทุจริต 4 วัด อีก 3 วัด อยู่ระหว่างตรวจสอบ ภาคตะวันออกมีเป้าหมาย 2 จังหวัด พบ 2 วัด ทุจริตงบบูรณะฯ เงินทอน ของบมา 6 ล้าน ทอนคืน 5 ล้านบาท สุดท้ายภาคกลางตรวจสอบแล้ว 3 จังหวัดพบวัดกระทำผิด 16 วัด ทุจริตงบประมาณบูรณะฯ ประมาณ 70 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในการทำคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อต 4 ครั้งนี้ ดำเนินการไปแล้วประมาณ 60% ส่วนวัดที่รอตรวจสอบต้องใช้ระยะเวลาตามรอยเส้นทางเงิน รวมถึงต้องรอการสอบสวนด้วย ซึ่งยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะเปิดเผยข้อมูลได้ตอนไหน แต่จะเร่งทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อนำตัวคนผิดมาดำเนินคดีต่อไป
ภาพจาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก