นักอนุรักษ์ประณาม การล่าวาฬประจำปีของญี่ปุ่น โดนล่าสุดฆ่าไป 333 ชีวิต พบกำลังตั้งท้อง 122 ตัว ฝั่งญี่ปุ่นยืนกรานไม่เจตนาจับวาฬท้อง แต่ใช้การจับแบบสุ่ม
ภาพจาก Don EMMERT / AFP
ยังคงเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันอย่างมาก สำหรับการล่าวาฬประจำปีของประเทศญี่ปุ่น ที่ในปีนี้การออกล่าวาฬมิงค์ในมหาสมุทรแอนตาร์ติกนาน 4 เดือน เพิ่งจะสิ้นสุดไปเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งแม้ว่าทางญี่ปุ่นจะระบุว่าการล่าวาฬนี้เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่ฝั่งนักอนุรักษ์ดูเหมือนจะเห็นต่าง
โดยรายงานจากเว็บไซต์เจแปนไทม์สเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 เปิดเผยข้อมูลตัวเลขของวาฬมิงค์ที่ถูกญี่ปุ่นล่าในปีนี้ อ้างอิงจากคณะกรรมการการล่าวาฬระหว่างประเทศ พบว่ามีจำนวนมากถึง 333 ตัว ซึ่งในจำนวนนี้มีถึง 122 ตัวที่เป็นวาฬเพศเมียที่กำลังตั้งท้อง และวาฬที่ยังไม่โตเต็มวัยอีกหลายสิบตัว
ตัวเลขดังกล่าวทำให้ทางกลุ่มอนุรักษ์ Humane Society International ออกมาประณามการล่าวาฬของญี่ปุ่นว่าเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวที่ไม่มีความจำเป็นใด ๆ เนื่องจากการสำรวจที่ไม่มีการเข่นฆ่า ก็สามารถให้ข้อมูลที่เพียงพอต่อความต้องการทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน
พร้อมกันนี้ในรายงานของนิวยอร์กไทม์ส ยังเผยคำพูดจากนักอนุรักษ์ที่มองว่าการล่าวาฬของญี่ปุ่นน่าจะเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการค้า โดยหยิบเหตุผลเพื่อการวิจัยวิทยาศาสตร์มาเป็นฉากหน้าเสียมากกว่า ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเนื้อวาฬส่วนมากที่ถูกล่านั้น มักไปจบลงบนโต๊ะอาหาร
ทั้งนี้ญี่ปุ่นมีการล่าวาฬมานานหลายศตวรรษ เนื้อวาฬกลายมาเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญหลังช่วงสงครามและตอนที่ประเทศเผชิญสภาวะยากไร้ กระทั่งช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้เองผู้คนจึงลดการบริโภคเนื้อวาฬลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจหยุดยั้งการออกล่าวาฬไปได้
ที่ผ่านมาแม้ญี่ปุ่นจะเคยยกเลิกการล่าวาฬไปแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังกลับมาทำการล่าอีกในปี 2558 ซึ่งในครั้งนั้นมีวาฬมิงค์ที่ถูกฆ่าไปถึง 300 ตัว