โซเชียลมีเดียกระหน่ำวิจารณ์ สำนักธรณีฟิสิกส์ยกเลิกประกาศเตือนภัยสึนามิ หลังระบบเซ็นเซอร์ผิดพลาด จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตมากกว่า 1,203 ราย
ภาพจาก JEWEL SAMAD / AFP
ภาพจาก JEWEL SAMAD / AFP
วันที่ 30 กันยายน 2561 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา
ภายหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.5 ที่เมืองปาลู
บนเกาะสุลาเวสี ทางตอนกลางของอินโดนีเซีย ทางการได้ประกาศเตือนภัยสึนามิ
ทว่าภายหลังจากนั้นราว 34 นาที ก็มีการเปลี่ยนแปลงยกเลิกประกาศเตือน
กระทั่งในเวลาต่อมา คลื่นยักษ์สึนามิสูงกว่า 3
เมตร ได้ซัดเข้าถล่มพื้นที่ชายฝั่ง ส่งผลให้ภัยพิบัติครั้งนี้
มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 1,203 คน และประชาชนกว่า 17,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่ ไร้ที่อยู่อาศัย
ภายหลังจากเกิดเหตุดังกล่าว
ทางสำนักธรณีฟิสิกส์อินโดนีเซีย ถูกกระหน่ำวิจารณ์อย่างหนัก
ที่ให้ข้อมูลขัดแย้ง ประกาศเตือนภัยก่อนจะยกเลิกไปในเวลาอันรวดเร็ว
จนเป็นเหตุให้ประชาชนไม่สามารถรับมือกับภัยพิบัติได้ทันเวลา
ส่งผลให้มีผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเช่นนี้
ขณะที่ทางสำนักธรณีฟิสิกส์ออกมาชี้แจงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นมาตรการการปฏิบัติการตามมาตรฐาน
และการยกเลิกประกาศเตือนภัยสึนามิที่เกิดขึ้น มาจากข้อมูลจของระบบเซ็นเซอร์เตือนภัย โดยสถานีวัดระดับน้ำที่ใกล้ที่สุดของเมืองปาลู ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 200 กิโลเมตร
มีบันทึกคลื่นสูงเพียง 6 เซนติเมตร และไม่มีคลื่นสูงใด ๆ ใกล้เมืองปาลู
"เราไม่มีข้อมูลจากการสังเกตการณ์ที่เมืองปาลู เราจึงจำเป็นต้องยึดข้อมูลจากที่นั่นแทน ถ้าหากเรามีสถานีวัดระดับน้ำที่เมืองปาลู แน่นอนว่าสถานการณ์จะต้องดีกว่านี้ นี่คือสิ่งที่เราต้องประเมินต่อไปในอนาคต" ราห์มัต ตรีโยโน หัวหน้าศูนย์แผ่นดินไหวและสึนามิประจำสำนักธรณีฟิสิกส์อินโดนีเซีย กล่าว
อย่างไรก็ดี ตรีโยโน ระบุเพิ่มเติมว่า "จากการตรวจสอบคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ทางเราคาดการณ์ว่า สึนามิเกิดขึ้นก่อนที่ประกาศเตือนภัยจากทางการจะสิ้นสุดลง"
ขณะเดียวกัน
ทางด้านโฆษกประจำสำนักภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย
ได้เผยกับทางผู้สื่อข่าวว่า ขณะเกิดเหตุ
ทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมการที่จะส่งสัญญาณเตือนภัยสึนามิที่เข้าใจง่ายไปสู่ประชาชน
แต่อยู่ ๆ
การประกาศเตือนภัยสึนามิจากทางสำนักธรณีฟิสิกส์ก็ยุติลงกะทันหัน
ส่วนทางด้านกระทรวงคมนาคม เผยว่า
ได้มีการส่งประกาศเตือนภัยสึนามิอีกครั้งผ่านทางข้อความ ซึ่งตรงจุดนี้
ทางโฆษกสำนักภัยพิบัติฯ ระบุว่า
เหตุแผ่นดินไหวทำให้สัญญาณการสื่อสารถูกตัดขาด
และผู้คนที่อยู่บริเวณชายฝั่งไม่ทราบเรื่อง
ภาพจาก ADEK BERRY / AFP
ภาพจาก OLA GONDRONK / AFP
ทั้งนี้ รายงานเผยว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน รวมทั้งทางการทหาร ได้เข้ามาดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มความสามารถ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าสู่พื้นที่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวได้ เนื่องจากไฟฟ้าและระบบการสื่อสารถูกตัดขาด ถนนหลายเส้นทางได้รับความเสียหายอย่างหนัก