นิกกี้ เฮลีย์ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ไม่เผยเหตุผลแน่ชัด แต่ยันไม่คิดลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ เผย เธอทำงานยอดเยี่ยมมาตลอด อาจเสนอชื่อลูกสาว รับตำแหน่งแทน
ภาพจาก EDUARDO MUNOZ ALVAREZ / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP
นิกกี้จะเริ่มเข้าสู่วงการการเมืองมาตั้งแต่ปี 2548 ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐเซาท์แคโรไลนา บทบาทหน้าที่ของเธอก็ก้าวขึ้นไปอีกระดับ เมื่อเธอได้รับการเลือกตั้งให้เป็นผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนาในปี 2553 ซึ่งเป็นผู้ว่าฯ ที่มีอายุน้อยที่สุด และหลังจากนั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ มาได้ 6 ปี เธอก็ได้รับตำแหน่งที่ท้าทายและสำคัญอย่างมากในชีวิตของเธอ นั่นก็คือการได้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ แต่เธอก็ได้ตัดสินใจยุติบทบาทนี้ หลังจากครองตำแหน่งได้เพียง 1 ปี 9 เดือน และเธอนับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง คนที่ 23 ของรัฐบาลทรัมป์ ที่ได้แยกทางกับทำเนียบขาว
แม้ว่านิกกี้จะไม่ได้เปิดเผยอย่างเฉพาะเจาะจงถึงเหตุผลที่เธอตัดสินใจลาออก แต่เธอก็ได้อธิบายขณะแถลงข่าวว่า เธอมองว่าการทำงานในฐานะรัฐบาลนั้นควรมีช่วงเวลาที่จำกัด และตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา มันก็เป็นช่วงเวลาที่หนักสำหรับเธอ
ภาพจาก MARK WILSON / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP
ขณะที่
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า นิกกี้ เฮลีย์
คือหนึ่งในคนที่พิเศษและสำคัญมากสำหรับเขา เธอเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยม
และทำงานได้อย่างน่าทึ่งมาโดยตลอด
แต่เธอเองก็เป็นมุนษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม
เขาก็หวังว่าเธอจะหวนกลับคืนสู่สนามอีกครั้งในอนาคต
ซึ่งอาจจะเป็นตำแหน่งหน้าที่ที่แตกต่างไปจากเดิม
ภาพจาก OLIVIER DOULIERY / AFP
อย่างไรก็ตาม อีวานก้า ก็ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกผ่านทางทวิตเตอร์ของเธอ ระบุว่า นิกกี้ เฮลีย์ ได้ทำงานรับใช้ทำเนียบขาวอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี เป็นนักปฏิวัติผู้กล้าสร้างความเปลี่ยนแปลง และก็กล้าที่จะเปิดเผยความจริง ตัวเธอและสามี รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้สร้างมิตรภาพกับผู้หญิงคนนี้ อีวานก้ายังกล่าวอีกว่า การได้เป็นเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แต่คนที่จะมารับตำแหน่งนั้น ไม่ใช่เธอแน่นอน
"ดิฉันรับทราบดีว่า ประธานาธิบดีจะเลือกบุคคลที่เหมาะสม มารับตำแหน่งแทนที่ท่านทูตฯเฮลีย์ และการได้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่บุคคลากรที่ยอดเยี่ยมในทำเนียบ จะนับเป็นว่าเป็นเกียรติอย่างสูง แต่บุคคลผู้จะมารับหน้าที่นั้น ไม่ใช่ดิฉันค่ะ" อีวานก้า ทรัมป์ กล่าวชี้แจงผ่านทางทวิตเตอร์ของเธอ
ภาพจาก EDUARDO MUNOZ ALVAREZ / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2561 สำนักข่าวบีบีซี
รายงานข่าวการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญของสหรัฐอเมริกา โดย นางนิกกี้ เฮลีย์ (Nikki Haley) อายุ 46 ปี
ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ
(United States Ambassador to the United Nations) โดยเธอ และ นายโดนัลด์
ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ได้แถลงข่าวนี้ร่วมกันที่ห้องทำงานรูปไข่ ณ ทำเนียบขาว อย่างไรก็ตาม
นิกกี้ไม่ได้เปิดเผยถึงเหตุผล
เพราะว่าเหตุใดเธอถึงตัดสินใจยุติการทำงานในตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้
ส่วนข่าวลือที่ว่าเธอลาออกไปเพราะต้องการลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี
2523 นั้น นิกกี้ได้ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
นิกกี้จะเริ่มเข้าสู่วงการการเมืองมาตั้งแต่ปี 2548 ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐเซาท์แคโรไลนา บทบาทหน้าที่ของเธอก็ก้าวขึ้นไปอีกระดับ เมื่อเธอได้รับการเลือกตั้งให้เป็นผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนาในปี 2553 ซึ่งเป็นผู้ว่าฯ ที่มีอายุน้อยที่สุด และหลังจากนั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ มาได้ 6 ปี เธอก็ได้รับตำแหน่งที่ท้าทายและสำคัญอย่างมากในชีวิตของเธอ นั่นก็คือการได้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ แต่เธอก็ได้ตัดสินใจยุติบทบาทนี้ หลังจากครองตำแหน่งได้เพียง 1 ปี 9 เดือน และเธอนับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง คนที่ 23 ของรัฐบาลทรัมป์ ที่ได้แยกทางกับทำเนียบขาว
แม้ว่านิกกี้จะไม่ได้เปิดเผยอย่างเฉพาะเจาะจงถึงเหตุผลที่เธอตัดสินใจลาออก แต่เธอก็ได้อธิบายขณะแถลงข่าวว่า เธอมองว่าการทำงานในฐานะรัฐบาลนั้นควรมีช่วงเวลาที่จำกัด และตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา มันก็เป็นช่วงเวลาที่หนักสำหรับเธอ
ภาพจาก MARK WILSON / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP
ผู้นำสหรัฐฯ
กล่าวอีกว่า เขาคงต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
ในการเสนอชื่อบุคคลที่จะเข้ามาแทนที่นิกกี้
ขณะนี้เขามีตัวเลือกอยู่ในใจแล้ว 2-3 คน ซึ่งในจำนวนนั้นคือ ไดนา โพเวลล์
(Dina Powell) อดีตรองที่ปรึกษาสภาความมั่นคง และ อีวานก้า ทรัมป์ (Ivanka
Trump) ธิดาคนโตของเขาเอง โดยทรัมป์ เผยว่า ถ้าอีวานก้าได้รับตำแหน่งนี้
มันจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมอย่างที่สุด
ทั้งนี้ถ้าประธานาธิบดีทรัมป์
เลือก อีวานก้า ให้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ จริง ๆ
มันอาจเกิดเสียงวิพาษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม
และจะเป็นการขัดต่อหลักกฎหมายต่อต้านการเกื้อหนุนญาติมิตร (Nepotism Law)
เพราะถือว่าเป็นการใช้อำนาจ
เลือกบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวให้ได้รับตำแหน่งทางการเมือง
ภาพจาก OLIVIER DOULIERY / AFP
อย่างไรก็ตาม อีวานก้า ก็ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกผ่านทางทวิตเตอร์ของเธอ ระบุว่า นิกกี้ เฮลีย์ ได้ทำงานรับใช้ทำเนียบขาวอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี เป็นนักปฏิวัติผู้กล้าสร้างความเปลี่ยนแปลง และก็กล้าที่จะเปิดเผยความจริง ตัวเธอและสามี รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้สร้างมิตรภาพกับผู้หญิงคนนี้ อีวานก้ายังกล่าวอีกว่า การได้เป็นเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แต่คนที่จะมารับตำแหน่งนั้น ไม่ใช่เธอแน่นอน
"ดิฉันรับทราบดีว่า ประธานาธิบดีจะเลือกบุคคลที่เหมาะสม มารับตำแหน่งแทนที่ท่านทูตฯเฮลีย์ และการได้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่บุคคลากรที่ยอดเยี่ยมในทำเนียบ จะนับเป็นว่าเป็นเกียรติอย่างสูง แต่บุคคลผู้จะมารับหน้าที่นั้น ไม่ใช่ดิฉันค่ะ" อีวานก้า ทรัมป์ กล่าวชี้แจงผ่านทางทวิตเตอร์ของเธอ