ยายผงะ เห็นหยดเลือดจากชั้น 2 วิ่งขึ้นไปดูต้องช็อก เจอหลานฆ่าตัวตาย ร่างจมกองเลือด ชี้ก่อนหน้านี้หลานเคยตัดพ้อเรื่องความรัก พบทิ้งข้อความอำลาในเฟซบุ๊ก
วานนี้ (20 ตุลาคม 2561) เว็บไซต์ไทยโพสต์ มีรายงานเหตุคนยิงตัวตาย ภายในบ้านเลขที่ 186 ม.7 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น โดยชั้นบนมีร่างของ นายโกวิทย์ ปานะโปย อายุ 26 ปี อดีตทหารเกณฑ์ นอนจมกองเลือดอยู่บนที่นอน หน้าอกซ้ายมีรอยถูกกระสุนปืนยิงตัดขั้วหัวใจ ใกล้ศพพบกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ตกอยู่ 2 นัด ข้าง ๆ กันมีปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ตกอยู่
ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายหรือมีการต่อสู้ พบเพียงรอยกระสุนปืนที่หน้าอก สอดคล้องกับคำให้การจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าง ว่าไม่มีคนเข้า-ออกบ้านดังกล่าว ส่วนยายและน้าของผู้ตายออกไปทำธุระนอกบ้าน สันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
ด้านยายของผู้ตาย เล่าว่า นับตั้งแต่พ่อแม่ของนายโกวิทย์แยกทางกัน หลานชายก็อาศัยอยู่กับตน ก่อนเกิดเหตุตนได้ออกไปทำธุระนอกบ้าน เมื่อกลับมาถึงกำลังจะไปซักผ้าในห้องน้ำ ก็พบรอยเลือดหยดลงมาจากชั้น 2 จึงรีบวิ่งขึ้นไปดู แล้วก็ต้องช็อกหนักเมื่อเจอร่างหลานชายนอนจมกองเลือดอยู่ หลังจากเห็นว่าหลานเสียชีวิตแล้วจึงรีบแจ้งตำรวจให้เข้าตรวจสอบ
ทั้งนี้ผู้เป็นยายเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยได้ยินหลานบ่นให้พัง ในลักษณะตัดพ้อแฟนสาว คล้ายจะมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง ระยะหลังเห็นหลานมีอาการซึม ๆ เหงา ชอบเก็บตัว ไม่คิดว่าสุดท้ายหลานจะคิดสั้นเช่นนี้
ขณะที่เมื่อตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้ตาย พบว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะฆ่าตัวตาย ได้มีการโพสต์ข้อความลักษณะตัดพ้อเรื่องความรัก และกล่าวลาเพื่อน ๆ "ในวันที่ผิดพลาด เราไม่อาจกลับไปแก้ไขได้ เราพยายามยังไงก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถือว่าเราได้ทำแล้ว ไม่เสียใจในสิ่งที่ทำ ถึงแม้วันนี้ฉันอยากกอดเธอแค่สัมผัสมือเธอแค่ไหนก็ไม่มีทาง 4 ปี 11 เดือนของเรามันลำบากมาก หนทางที่ก้าวร่วมกันมา มันก็มาถึงที่สุด ถึงพี่จะจน พี่ก็ไม่เคยได้หวังอะไรจากเธอ ก็แค่ลมปากคนอื่น สัญญาจากลูกผู้ชายคนนี้ที่มีให้ จะขออยู่กับเธอ ตลอดไป รักเธอ" และ "ลาก่อนครับ ทุกคน"
นอกจากนี้ ผู้ตายยังได้เขียนข้อความ รหัสบัตรเอทีเอ็มของตัวเอง ใส่กระดาษวางไว้บนหัวที่นอนด้วย ซึ่งทางตำรวจก็ได้ทำการเก็บหลักฐานและบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนให้นำศพผู้ตายส่งชันสูตรที่โรงพยาบาล จ.สุรินทร์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง
ภาพจาก ไทยโพสต์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ไทยโพสต์