หนุ่มชักปืนยิงลูกเจ้าของร้านข้าวต้ม ฉุนถูกกระแทกจานใส่-พูดจายียวน ยันไม่ได้ชักปืนขู่ อ้างอีกฝ่ายโทร. มาขอโทษแล้ว จู่ ๆ มาขอค่าเสียหาย 2 แสน พอไม่ให้ก็แจ้งความ
ล่าสุดวันที่ 23 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ติดตามความคืบหน้า และรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้เชิญสองแม่ลูกผู้เสียหาย และนายพัศพงษ์ อู่ตะเภา หรือ เอกชิน คู่กรณี มาพบอีกครั้ง โดยได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา นายพัศพงษ์ 3 ข้อหา คือ พยายามฆ่า, พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมือง ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันทำร้ายร่างกาย
ทั้งนี้จากที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ายังมีอีก 2 คน ที่ร่วมก่อเหตุ
เตะเข้าที่ใบหน้าของนายนันทวัฒน์ ทราบชื่อเล่นคือ นายเก่ง และนายไมค์
ซึ่งจะออกหมายเรียกต่อไป หากไม่มาก็จะขออนุมัติศาลในการออกหมายจับ
ภาพจาก amarintv.com
จากกรณีที่เว็บไซต์อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นางสาวสุนันท์ อ่อนศิริ หรือ เจ๊นันท์ อายุ 38 ปี และนายนันทวัฒน์ อ่อนศิริ หรือ เวย์ อายุ 19 ปี บุตรชาย ได้ร้องเรียนผ่านสื่อ
หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นขี่บิ๊กไบค์มาสั่งข้าวต้ม แต่เกิดเหตุไม่พอใจ
จึงชักปืนโชว์ก่อนยิงใส่ขานายนันทวัฒน์ และนำเพื่อนร่วมตะลุมบอนสองแม่-ลูก
โดยเหตุการณ์ผ่านไปแล้วกว่า 2 เดือน คดีกลับไม่คืบหน้า
ซึ่งทั้งคู่ค่อนข้างกังวลในความปลอดภัย
เพราะกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเป็นพวกผู้มีอิทธิพล
ล่าสุดวันที่ 23 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ติดตามความคืบหน้า และรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้เชิญสองแม่ลูกผู้เสียหาย และนายพัศพงษ์ อู่ตะเภา หรือ เอกชิน คู่กรณี มาพบอีกครั้ง โดยได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา นายพัศพงษ์ 3 ข้อหา คือ พยายามฆ่า, พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมือง ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันทำร้ายร่างกาย
ขณะที่
นางสาวสุนันท์ กล่าวว่า รู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ทั้งหมด
เพราะคู่กรณีก็ไม่มีท่าทีสลด หรือสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
วันนี้ก็ยังหวาดกลัวอยู่
ภาพจาก amarintv.com
ด้านนายพัศพงษ์ กล่าวว่า หลังเป็นข่าว
ตนไม่ได้อยากออกมาโต้ผ่านสื่อ ตนตั้งใจไปกินข้าวเท่านั้น
แต่วัยรุ่นที่มารับออร์เดอร์มีการพูดจากวน
และหยิบโทรศัพท์มือถือของตนไปดูแล้วคืนแบบกระแทก ทั้งที่ไม่ได้สนิทกัน
ตอนมาเสิร์ฟก็กระแทกจาน
ตนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเคารพจนมีปากเสียงกันในที่สุด ยอมรับว่าพกปืนจริง
เพราะตนขี่รถบิ๊กไบค์ราคาถึง 800,000 บาท
ก็ต้องป้องกันไว้หากใครคิดจะมาชิงรถของตนไป แต่ไม่ได้เอาปืนออกมาโชว์ข่มขู่
หลังเกิดเหตุ อีกฝ่ายพยายามติดต่อมาขอโทษตนก็ให้อภัยไปแล้ว
แต่ยังขอเบอร์จากคนอื่นและเรียกค่าเสียหาย 200,000 บาท แต่ตนไม่ยอม
อีกฝ่ายจึงไปแจ้งความเอาผิด
ภาพจาก amarintv.com
ภาพจาก amarintv.com
ภาพจาก amarintv.com
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก