สลดใจ พ่อบอกลูกเรียนไปก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น เลยสอนให้เสพยา ต้มน้ำกระท่อม ก่อนให้เอาไปขายช่วยพ่อ
เมื่อถึงจุดเกิดเหตุพบว่าพื้นที่ทั่วบริเวณบ้านมีกระดาษฟอยล์บาง ๆ มีร่องรอยถูกไฟเผาไหม้ตกอยู่หลายชิ้น จึงเข้าตรวจค้นภายในบ้านพบ นายศรชัย หรือ เอ็กซ์ เสม็ดจวน อายุ 35 ปี และ น.ส.มาย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 323 เม็ด ส่วนอีกห้องพบนายเก่ง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นอนอยู่ และพบอาวุธปืนสั้นขนาด .22 ไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก บรรจุกระสุนในรังเพลิง 1 นัด น้ำต้มกระท่อม 1 ขวด จึงนำตัวทั้งหมดตรวจปัสสาวะ พบว่านายศรชัยและนายเก่ง มีปัสสาวะสีม่วง จึงควบคุมตัวพร้อมยึดของกลางมาสอบสวน
นายเก่ง ระบุอีกว่า พ่อของตนจะมียาบ้าติดตัวไว้ตลอดเวลา หากมีคนต้องการซื้อพ่อก็จะนำยาบ้าออกมาขายให้ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปเอาที่บ้าน ซึ่งขณะนี้คาดว่าพ่อของตนน่าจะไปเร่ขายยาบ้าอยู่ในละแวกบ้านของตากับยายที่บ้านสองแพรก
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเก่งไปตามหานายวิชาญที่บ้านตาและยาย และพบว่า นายวิชาญนอนอยู่บนแคร่ไม้ใต้ถุนบ้าน จึงเข้าตรวจค้นพบว่ามียาบ้าบรรจุอยู่ 53 เม็ด ในกระเป๋ายังพบกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 2 นัด และจากการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสีม่วง เพราะมีสารแอมเฟตามีนในกระแสเลือด
โดยเบื้องต้นนายวิชาญให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ซื้อยาบ้ามาจากนายเอ (ไม่ทราบนามสกุล) ในราคาเม็ดละ 60 บาท นำมาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นทั่วไปในราคาเม็ดละ 100 บาท โดยบางส่วนก็จะนำมาเสพกับนายเก่ง จนถูกจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 Workpoint News รายงานว่า พ.ต.อ. ปรีชา ปัญญาเลิศ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท. ชัยภัทร ศรีเรือง รอง ผกก.สส. ได้รับรายงานเหตุวัยรุ่นมั่วสุมเสพและค่ายาเสพติดที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำกำลังชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบจับกุม
เมื่อถึงจุดเกิดเหตุพบว่าพื้นที่ทั่วบริเวณบ้านมีกระดาษฟอยล์บาง ๆ มีร่องรอยถูกไฟเผาไหม้ตกอยู่หลายชิ้น จึงเข้าตรวจค้นภายในบ้านพบ นายศรชัย หรือ เอ็กซ์ เสม็ดจวน อายุ 35 ปี และ น.ส.มาย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 323 เม็ด ส่วนอีกห้องพบนายเก่ง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นอนอยู่ และพบอาวุธปืนสั้นขนาด .22 ไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก บรรจุกระสุนในรังเพลิง 1 นัด น้ำต้มกระท่อม 1 ขวด จึงนำตัวทั้งหมดตรวจปัสสาวะ พบว่านายศรชัยและนายเก่ง มีปัสสาวะสีม่วง จึงควบคุมตัวพร้อมยึดของกลางมาสอบสวน
นายศรชัย รับสารภาพว่า ทำอาชีพเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้ามานานแล้ว วันเกิดเหตุได้พากันมาที่บ้านของ นายวิชาญ หรือ ชวน สองแพรก พ่อของนายเก่ง ที่เป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าเช่นกัน เมื่อมาถึงปรากฏว่านายวิชาญไม่อยู่บ้าน จึงเข้าไปเสพยาบ้าในบ้าน และนั่งรอนายวิชาญ จนถูกตำรวจบุกตรวจค้นจับกุมดังกล่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Workpoint News
ด้าน นายเก่ง กล่าวว่า ตนไม่ได้เรียนหนังสือเพราะพ่อให้ออกจากโรงเรียนมาช่วยค้ายาบ้า พ่อตนเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าที่ใคร ๆ ก็รู้จักกันทั้งตำบล โดยพ่อบอกว่าเรียนหนังสือไปก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นเลย หรือจะไปทำสวนยางพาราก็ราคาตกต่ำ สู้ออกมาค้ายาบ้าดีกว่า งานสบาย ไม่เหนื่อย มีรายได้ดีกว่าการประกอบอาชีพอื่นเยอะ ตนจึงออกจากโรงเรียนมาช่วยพ่อค้ายาบ้า นอกจากนี้พ่อยังสอนให้เสพยาบ้า และต้มน้ำกระท่อม
นายเก่ง ระบุอีกว่า พ่อของตนจะมียาบ้าติดตัวไว้ตลอดเวลา หากมีคนต้องการซื้อพ่อก็จะนำยาบ้าออกมาขายให้ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปเอาที่บ้าน ซึ่งขณะนี้คาดว่าพ่อของตนน่าจะไปเร่ขายยาบ้าอยู่ในละแวกบ้านของตากับยายที่บ้านสองแพรก
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเก่งไปตามหานายวิชาญที่บ้านตาและยาย และพบว่า นายวิชาญนอนอยู่บนแคร่ไม้ใต้ถุนบ้าน จึงเข้าตรวจค้นพบว่ามียาบ้าบรรจุอยู่ 53 เม็ด ในกระเป๋ายังพบกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 2 นัด และจากการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสีม่วง เพราะมีสารแอมเฟตามีนในกระแสเลือด
โดยเบื้องต้นนายวิชาญให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ซื้อยาบ้ามาจากนายเอ (ไม่ทราบนามสกุล) ในราคาเม็ดละ 60 บาท นำมาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นทั่วไปในราคาเม็ดละ 100 บาท โดยบางส่วนก็จะนำมาเสพกับนายเก่ง จนถูกจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก