คนขับแท็กซี่ หมอชิต - รังสิต ปัดเรียกค่าโดยสาร 2 หนุ่ม 1,800 ยันเรียกแค่ 900 บาท แต่ผู้โดยสารเข้าใจผิดและให้เกินเอง ยอมรับไม่ทักท้วงเพราะหาเงินรักษาพ่อ ลั่น ผู้โดยสาร 2 คน ไม่เห็นเดือดร้อนอะไร ทำไมญาติต้องแจ้งความเป็นเรื่องใหญ่โต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก แม็กซ์ ตรัย นุ่มแก้ว
กลายเป็นเรื่องที่โซเชียลวิจารณ์กันสนั่น สำหรับกรณีของ 2 หนุ่มที่เดินทางมากรุงเทพฯ ครั้งแรกเพื่อสอบ แต่ถูกแท็กซี่โก่งราคาค่าโดยสาร จากหมอชิตไปรังสิต คนละ 900 บาท รวมเป็นเงิน 1,800 บาท ทั้งที่ความจริงไม่น่าจะเกิน 200 บาท ซึ่งต่อมา นายประจันทร์ สิงห์ขรณ์ เจ้าของรถ ได้โพสต์ขอโทษพร้อมชี้แจงว่า คนขับรถเป็นลูกหลาน อ้างว่ามีนายหน้าส่งต่อผู้โดยสารมาให้ ได้เงินจริงเพียง 300 บาท ที่เหลือนายหน้าเอาไปนั้น (อ่านข่าว : แท็กซี่แจงเก็บเงิน 2 หนุ่ม หมอชิตไปรังสิต 1,800 ได้แค่ 300 ที่เหลือเข้ากระเป๋านายหน้า)
ล่าสุด (8 มีนาคม 2562) เว็บไซต์เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ได้เรียกตัวคนขับและเจ้าของแท็กซี่มาสอบสวน แต่กลับให้การไม่เหมือนตอนโพสต์ โดยนายศุภโชค สิงห์ขรณ์ อายุ 36 ปี คนขับรถ ซึ่งเป็นลูกชายของนายประจันทร์ สิงห์ขรณ์ เจ้าของแท็กซี่ เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนถามผู้โดยสาร 2 คน ว่าจะไปไหน เมื่อทราบว่าจะไปรังสิต จึงเรียกค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย 900 บาท แต่ผู้โดยสารกลับจ่ายมาให้ 1,800 บาท ซึ่งตนกำลังต้องการเงินไปรักษาพ่อที่ป่วย จึงไม่ได้ทักท้วงและเก็บเงินไว้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก แม็กซ์ ตรัย นุ่มแก้ว
ล่าสุด (8 มีนาคม 2562) เว็บไซต์เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ได้เรียกตัวคนขับและเจ้าของแท็กซี่มาสอบสวน แต่กลับให้การไม่เหมือนตอนโพสต์ โดยนายศุภโชค สิงห์ขรณ์ อายุ 36 ปี คนขับรถ ซึ่งเป็นลูกชายของนายประจันทร์ สิงห์ขรณ์ เจ้าของแท็กซี่ เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนถามผู้โดยสาร 2 คน ว่าจะไปไหน เมื่อทราบว่าจะไปรังสิต จึงเรียกค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย 900 บาท แต่ผู้โดยสารกลับจ่ายมาให้ 1,800 บาท ซึ่งตนกำลังต้องการเงินไปรักษาพ่อที่ป่วย จึงไม่ได้ทักท้วงและเก็บเงินไว้
ขณะเดินทาง ตนจ่ายค่าทางด่วนให้เป็นบริการเสริม
ซึ่งตนไม่เห็นว่าวัยรุ่นทั้ง 2 คน จะเดือดร้อนอะไร ไม่ทราบว่าญาติ ๆ
จะแจ้งความให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตทำไม แต่ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วย
โดยเฉพาะพ่อของตน ที่ต้องลำบากเดินทางมาโรงพักและมีคนโพสต์ต่อว่าจำนวนมาก
ขณะที่ นายประจันทร์ กล่าวว่า ตนเป็นโรคไขมันอุดตันทำให้กล้ามเนื้อซีกขวาอ่อนแรงมา 2 ปี จึงให้ลูกชายขับแท็กซี่แทน ซึ่งมีใบขับขี่และใบอนุญาตขับรถแท็กซี่อย่างถูกต้อง เมื่อทราบข่าวก็เสียใจ ขอโทษสังคมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนสิ่งไหนที่ลูกชายทำผิดก็ต้องยอมรับ
ด้าน พ.ต.ท. กวี ช่วยสร้าง สารวัตรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ระบุว่า ได้ติดต่อขอเลขบัญชีของผู้เสียหายมาแล้ว เนื่องจากผู้ก่อเหตุประสงค์จะคืนเงิน แต่เรื่องที่เรียกค่าโดยสารเกินราคาและไม่กดมิเตอร์ ก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่ง จึงนำตัวผู้ก่อเหตุไปเปรียบเทียบปรับที่ขนส่งหมอชิต รวมถึงประสานไปยัง สน.บางซื่อ ให้ตรวจสอบแก๊งแท็กซี่ที่เรียกค่าโดยสารแพงในลักษณะนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก
ขณะที่ นายประจันทร์ กล่าวว่า ตนเป็นโรคไขมันอุดตันทำให้กล้ามเนื้อซีกขวาอ่อนแรงมา 2 ปี จึงให้ลูกชายขับแท็กซี่แทน ซึ่งมีใบขับขี่และใบอนุญาตขับรถแท็กซี่อย่างถูกต้อง เมื่อทราบข่าวก็เสียใจ ขอโทษสังคมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนสิ่งไหนที่ลูกชายทำผิดก็ต้องยอมรับ
ด้าน พ.ต.ท. กวี ช่วยสร้าง สารวัตรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ระบุว่า ได้ติดต่อขอเลขบัญชีของผู้เสียหายมาแล้ว เนื่องจากผู้ก่อเหตุประสงค์จะคืนเงิน แต่เรื่องที่เรียกค่าโดยสารเกินราคาและไม่กดมิเตอร์ ก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่ง จึงนำตัวผู้ก่อเหตุไปเปรียบเทียบปรับที่ขนส่งหมอชิต รวมถึงประสานไปยัง สน.บางซื่อ ให้ตรวจสอบแก๊งแท็กซี่ที่เรียกค่าโดยสารแพงในลักษณะนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก