นพ.วรงค์ ฉะทิศทางบริหารพรรคหัวหน้าคนเก่า ไม่รบกับศัตรูเดิม แต่ดันไปเปิดศัตรูใหม่ตามเกมของคนอื่น จนพ่ายศึกยับลูกพรรคตายเกลื่อน ลั่นถึงเวลาแล้วต้องเปลี่ยนแนวคิด-วิธีการทำงานใหม่
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom โดยมีหัวเรื่องระบุว่า "เรือที่ชื่อประชาธิปัตย์" มีรายละเอียดว่า การนำพาเรือที่ชื่อประชาธิปัตย์ ภายใต้กัปตันอภิสิทธิ์ ได้แสดงให้เห็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ เพราะครั้งนี้ไม่ใช่แค่อับปางน้ำรั่ว หรือผนังเรือพังเท่านั้น แต่เป็นการอับปางเกือบจะเหลือแต่ซาก
โดยการกำหนดทิศทางเรือที่ผิดพลาด ไม่รบกับศัตรูเดิม แต่เปิดศึกสร้างศัตรูใหม่ ทั้ง ๆ ที่น่าจะเป็นแนวร่วม แต่กลับไปเล่นเกมที่คนอื่นกำหนดในขณะที่กำลังรบเราก็ไม่มาก ยิ่งทำให้เกิดความไม่พอใจต่อคนดูที่มีอำนาจลงคะแนน สุดท้ายจึงโดนลงโทษ
ที่ผ่านมาแม้มีนักรบในเรือคาดเดาความหายนะได้ แต่ก็ไม่เหมาะสมที่จะพูดในสถานการณ์สู้รบ โดยคิดแต่ว่ากอบกู้เมื่อทุกอย่างสงบ แต่ความสูญเสียนั้นมากเกินกว่าที่คาดมหาศาล จนต้องสูญเสียนักรบ เกือบทุกภาคของประเทศ แม้แต่กรุงเทพฯ ก็เป็นศูนย์
แม้ว่ากัปตันและทีมจะรอด แต่ก็แลกกับชีวิตทางการเมืองของเพื่อนมากมาย บนซากปรักหักพังนี้ ถึงเวลาจริง ๆ แล้ว ที่พวกเราต้องไม่เกรงใจกัน จะต้องเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำงานกันครั้งใหญ่ พร้อมขอร้องว่าอย่ามองกันในแง่ร้ายว่าจะมายึดเรือลำนี้ ขอให้เพียงแต่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไม่เอาแต่พรรคพวก เปิดใจให้กว้างกับคนที่คิดต่าง เพราะเมื่อถูกพิสูจน์ว่าล้มเหลว ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom โดยมีหัวเรื่องระบุว่า "เรือที่ชื่อประชาธิปัตย์" มีรายละเอียดว่า การนำพาเรือที่ชื่อประชาธิปัตย์ ภายใต้กัปตันอภิสิทธิ์ ได้แสดงให้เห็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ เพราะครั้งนี้ไม่ใช่แค่อับปางน้ำรั่ว หรือผนังเรือพังเท่านั้น แต่เป็นการอับปางเกือบจะเหลือแต่ซาก
โดยการกำหนดทิศทางเรือที่ผิดพลาด ไม่รบกับศัตรูเดิม แต่เปิดศึกสร้างศัตรูใหม่ ทั้ง ๆ ที่น่าจะเป็นแนวร่วม แต่กลับไปเล่นเกมที่คนอื่นกำหนดในขณะที่กำลังรบเราก็ไม่มาก ยิ่งทำให้เกิดความไม่พอใจต่อคนดูที่มีอำนาจลงคะแนน สุดท้ายจึงโดนลงโทษ
ที่ผ่านมาแม้มีนักรบในเรือคาดเดาความหายนะได้ แต่ก็ไม่เหมาะสมที่จะพูดในสถานการณ์สู้รบ โดยคิดแต่ว่ากอบกู้เมื่อทุกอย่างสงบ แต่ความสูญเสียนั้นมากเกินกว่าที่คาดมหาศาล จนต้องสูญเสียนักรบ เกือบทุกภาคของประเทศ แม้แต่กรุงเทพฯ ก็เป็นศูนย์
แม้ว่ากัปตันและทีมจะรอด แต่ก็แลกกับชีวิตทางการเมืองของเพื่อนมากมาย บนซากปรักหักพังนี้ ถึงเวลาจริง ๆ แล้ว ที่พวกเราต้องไม่เกรงใจกัน จะต้องเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำงานกันครั้งใหญ่ พร้อมขอร้องว่าอย่ามองกันในแง่ร้ายว่าจะมายึดเรือลำนี้ ขอให้เพียงแต่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไม่เอาแต่พรรคพวก เปิดใจให้กว้างกับคนที่คิดต่าง เพราะเมื่อถูกพิสูจน์ว่าล้มเหลว ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง