พ่อพลทหาร ติดใจการตายของลูกชาย หลังสมัครเป็นทหารเกณฑ์ได้เพียง 11 เดือน ก่อนพบเป็นศพในกองพันทหารสารวัตร กองบัญชาการกองทัพไทย ด้านต้นสังกัดแจ้งว่า ตกตึกตาย แถมจองวัดให้เผาเรียบร้อย อ้างศพขึ้นอืด แต่ผลชันสูตร ระบุ กระดูกสันหลังส่วนอกท่อนที่ 3 หักเคลื่อน จากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 Workpoint News รายงานว่า ญาติและครอบครัวนำศพ พลทหาร ลือชานนท์ นันทบุตร หรือ นนท์ อายุ 22 ปี ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน ต.หนองม้า อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ หลังพบเป็นศพอยู่บริเวณบันไดหนีไฟชั้น 2 ภายในอาคารกองพันทหารสารวัตร สำนักกองบัญชาการ กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งต้นสังกัดแจ้งว่า พลทหารนนท์ พลัดตกตึกเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะมีคนพบศพ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม
ทั้งนี้ นายคำแพง พ่อของพลทหารนนท์ เผยว่า ลูกชายสมัครไปเป็นทหารเกณฑ์ได้เพียง 11 เดือน ก่อนจะมาเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางค่ายสันนิษฐานว่า ลูกชายตกตึกลงมาจากชั้น 6 โดยพยายามเข้าไปนอนในห้องพักชั้น 6 จึงปีนบันไดลิงจากชั้น 6 ลงมา เพื่อที่จะเข้าช่องทางหน้าต่าง แต่เกิดพลัดตกลงมาเสียชีวิต และผ่านไป 3 วัน เพิ่งพบศพในที่เกิดเหตุ จึงรีบแจ้งให้ญาติและครอบครัวให้เดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อฌาปนกิจ พร้อมจองวัดให้เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ต้องนำศพกลับบ้าน อ้างว่าศพมีสภาพเน่าเปื่อยและขึ้นอืด และกองทัพจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด จึงสร้างความสงสัยให้กับตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก ว่าเหตุใดไม่ให้ญาตินำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน
จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ครอบครัวสงสัยถึงสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากทางค่าย ระบุว่า ลูกชายตนตกตึกเสียชีวิต แต่ขัดแย้งกับผลชันสูตรจากโรงพยาบาลตำรวจ ที่ระบุว่าสาเหตุการตายเพราะ กระดูกสันหลังส่วนอกท่อนที่ 3 หักเคลื่อน จากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก
อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ลูกชายตนกลับมาบ้าน และเล่าให้ตนฟังว่า มีปัญหากับรุ่นพี่ในค่าย และรุ่นพี่พยายามจะเล่นงานให้ถึงตาย จากนั้นวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ลูกชายได้เดินทางกลับค่าย พร้อมพูดสั่งลาเป็นลาง ว่า ให้ตนดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย เพราะจะไม่มาให้ตนเห็นหน้าอีกแล้ว ทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจ และหลังจากนั้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็ได้รับข่าวลูกชายเสียชีวิต
ภาพจาก Workpoint News
ขณะที่พลตรี กฤษณ์ จันทรนิยม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นได้รับรายงานแล้ว พร้อมสั่งการให้เร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยละเอียด เพื่อให้ความกระจ่างและเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เน้นย้ำให้ต้นสังกัดดูแล จัดงานศพอย่างดีที่สุด
จากการสอบพยานบุคคลที่พบผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้าย ทราบว่า เห็นผู้เสียชีวิตขึ้นไปนั่งคุยโทรศัพท์บนชั้นดาดฟ้า แล้วก็ไม่พบผู้เสียชีวิตอีกเลย ส่วนประเด็นเมาสุราแล้วเกิดเหตุทะเลาะวิวาท หรือถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะมีเพื่อนพลทหารในหน่วยยืนยัน เวลาที่เกิดเหตุสอดคล้องกัน
จึงขอให้สังคมอย่าเพิ่งด่วนตัดสิน ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งการพิสูจน์หลักฐานเพื่อนำไปสู่ข้อเท็จจริงต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 Workpoint News รายงานว่า ญาติและครอบครัวนำศพ พลทหาร ลือชานนท์ นันทบุตร หรือ นนท์ อายุ 22 ปี ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน ต.หนองม้า อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ หลังพบเป็นศพอยู่บริเวณบันไดหนีไฟชั้น 2 ภายในอาคารกองพันทหารสารวัตร สำนักกองบัญชาการ กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งต้นสังกัดแจ้งว่า พลทหารนนท์ พลัดตกตึกเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะมีคนพบศพ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม
ทั้งนี้ นายคำแพง พ่อของพลทหารนนท์ เผยว่า ลูกชายสมัครไปเป็นทหารเกณฑ์ได้เพียง 11 เดือน ก่อนจะมาเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางค่ายสันนิษฐานว่า ลูกชายตกตึกลงมาจากชั้น 6 โดยพยายามเข้าไปนอนในห้องพักชั้น 6 จึงปีนบันไดลิงจากชั้น 6 ลงมา เพื่อที่จะเข้าช่องทางหน้าต่าง แต่เกิดพลัดตกลงมาเสียชีวิต และผ่านไป 3 วัน เพิ่งพบศพในที่เกิดเหตุ จึงรีบแจ้งให้ญาติและครอบครัวให้เดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อฌาปนกิจ พร้อมจองวัดให้เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ต้องนำศพกลับบ้าน อ้างว่าศพมีสภาพเน่าเปื่อยและขึ้นอืด และกองทัพจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด จึงสร้างความสงสัยให้กับตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก ว่าเหตุใดไม่ให้ญาตินำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน
จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ครอบครัวสงสัยถึงสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากทางค่าย ระบุว่า ลูกชายตนตกตึกเสียชีวิต แต่ขัดแย้งกับผลชันสูตรจากโรงพยาบาลตำรวจ ที่ระบุว่าสาเหตุการตายเพราะ กระดูกสันหลังส่วนอกท่อนที่ 3 หักเคลื่อน จากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก
อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ลูกชายตนกลับมาบ้าน และเล่าให้ตนฟังว่า มีปัญหากับรุ่นพี่ในค่าย และรุ่นพี่พยายามจะเล่นงานให้ถึงตาย จากนั้นวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ลูกชายได้เดินทางกลับค่าย พร้อมพูดสั่งลาเป็นลาง ว่า ให้ตนดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย เพราะจะไม่มาให้ตนเห็นหน้าอีกแล้ว ทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจ และหลังจากนั้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็ได้รับข่าวลูกชายเสียชีวิต
ภาพจาก Workpoint News
ขณะที่พลตรี กฤษณ์ จันทรนิยม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นได้รับรายงานแล้ว พร้อมสั่งการให้เร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยละเอียด เพื่อให้ความกระจ่างและเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เน้นย้ำให้ต้นสังกัดดูแล จัดงานศพอย่างดีที่สุด
จากการสอบพยานบุคคลที่พบผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้าย ทราบว่า เห็นผู้เสียชีวิตขึ้นไปนั่งคุยโทรศัพท์บนชั้นดาดฟ้า แล้วก็ไม่พบผู้เสียชีวิตอีกเลย ส่วนประเด็นเมาสุราแล้วเกิดเหตุทะเลาะวิวาท หรือถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะมีเพื่อนพลทหารในหน่วยยืนยัน เวลาที่เกิดเหตุสอดคล้องกัน
จึงขอให้สังคมอย่าเพิ่งด่วนตัดสิน ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งการพิสูจน์หลักฐานเพื่อนำไปสู่ข้อเท็จจริงต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก