ชาวนาสุพรรณบุรีสูบน้ำจากคลองน้ำทิ้ง เลี้ยงต้นข้าวกว่า 20 ไร่ ไม่ให้ยืนต้นตาย หลังฝนทิ้งช่วงจนน้ำในคลองแห้งขอด คาดปีนี้มีศึกแย้งน้ำกันอีก
นายณรงค์ วงษ์สุวรรณ เจ้าของนา กล่าวว่า บริเวณโดยรอบชุมชนดังกล่าวไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม จึงมั่นใจว่าไม่มีสารเคมีเจือปนในน้ำเสีย ลำพังน้ำจากการใช้งานในครัวเรือน น่าจะไม่ส่งผลกระทบกับต้นข้าวนัก เพราะไม่ต่างจากการใช้น้ำซักล้างรดน้ำผัก และหากเลือกได้อยากจะใช้น้ำดีทำนา เพราะนาของตนอยู่ในเขตชลประทาน แต่ต้องจำใจใช้น้ำที่ไม่มีคนใช้แล้ว เพราะหากไม่รีบสูบชาวนาคนอื่นก็ต้องสูบมาใช้ก่อน เพราะหากไม่มีน้ำนานกว่า 1 เดือน เกรงว่าข้าวของตนจะยืนต้นตายเสียก่อน
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 ไทยพีบีเอส รายงานว่า ชาวนาหมู่ 5 ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
ต้องใช้วิธีสูบน้ำจากคลองน้ำทิ้งที่ไหลมาจากชุมชนตลาดดอนเจดีย์
มาหล่อเลี้ยงต้นข้าว กว่า 20 ไร่ ให้รอดตาย มา 4 วันแล้ว
หลังฝนตกน้อยทำน้ำในคลองแห้งขอด
นายณรงค์ วงษ์สุวรรณ เจ้าของนา กล่าวว่า บริเวณโดยรอบชุมชนดังกล่าวไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม จึงมั่นใจว่าไม่มีสารเคมีเจือปนในน้ำเสีย ลำพังน้ำจากการใช้งานในครัวเรือน น่าจะไม่ส่งผลกระทบกับต้นข้าวนัก เพราะไม่ต่างจากการใช้น้ำซักล้างรดน้ำผัก และหากเลือกได้อยากจะใช้น้ำดีทำนา เพราะนาของตนอยู่ในเขตชลประทาน แต่ต้องจำใจใช้น้ำที่ไม่มีคนใช้แล้ว เพราะหากไม่รีบสูบชาวนาคนอื่นก็ต้องสูบมาใช้ก่อน เพราะหากไม่มีน้ำนานกว่า 1 เดือน เกรงว่าข้าวของตนจะยืนต้นตายเสียก่อน
ทั้งนี้
ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ชาวนาที่จังหวัดสุพรรณบุรี
พื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำคนภาคกลาง ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำไม่เพียงพอ
จนต้องเปิดศึกแย่งชิงน้ำกันระหว่างชาวนาสุพรรณบุรีและชัยนาท
เพราะคลองมะขามเฒ่าอู่ทอง เปรียบเสมือนเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชีวิตทั้ง 2
จังหวัด แม้จะแบ่งรอบเวรสูบน้ำ แต่ก็ยังจัดการปัญหาไม่ได้
น้ำยังไม่ถึงปลายคลอง และนับวันก็ยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก