ศาลเมตตาชายชรา ชี้แก่เกินกว่าจะเป็นอันตราย สั่งจำคุกเบา ๆ 4 ปี คดีทำร้ายผู้หญิง ใครจะคิดว่าหลังพ้นคุกได้ไม่กี่ปี จะกลับมาโดนจับคดีฆาตกรรมผู้หญิงอีก
ภาพจาก Androscoggin County Sheriff's Office
ในขณะที่หลายคนอาจมองว่าผู้สูงวัยนั้นดูไม่น่าเป็นพิษเป็นภัยต่อใครสักเท่าไร อีกทั้งไม่น่าจะก่อเหตุอาชญากรรมใด ๆ ไหว แต่บางทีมุมมองนั้นอาจจะต้องเปลี่ยนไป เมื่อได้พบกับคดีล่าสุด ที่คณะลูกขุนพร้อมใจกันตัดสินให้ อัลเบิร์ต ฟลิก ชายวัย 77 ปี มีความผิดจริงในคดีฆาตกรรมหญิงวัย 48 ปี แถมยังก่อเหตุโหดเหี้ยมต่อหน้าลูกแฝดวัย 11 ขวบ ของเธอ
โดยรายงานจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ระบุว่า อัลเบิร์ต ฟลิก ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับความเมตตาจากศาล มองว่าเขาแก่เกินกว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่น ได้กลับมาก่อเหตุอีกครั้งหลังถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกได้เพียง 4 ปี โดยเขาได้แทง คิมเบอร์ลีย์ ด็อบบี้ หญิงวัย 48 ปี เสียชีวิตที่เมืองลูอิสตัน รัฐเมน สหรัฐอเมริกา ในเดือนกรกฎาคม 2561 ขณะที่ลูกชายของเธออยู่ห่างจากพวกเขาไปเพียงไม่กี่ฟุต
แม้เขาจะยืนกรานปฏิเสธความผิด แต่หลังการสอบสวนนานร่วมปี
ในที่สุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17 กรกฎาคม) คณะลูกขุนใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1
ชั่วโมง ในการตัดสินว่าเขามีความผิดฐานฆาตกรรมจริง
และสมควรจะได้รับโทษจำคุกนาน 25 ปี ซึ่งศาลได้นัดฟังคำพิพากษาโทษในวันที่ 9
สิงหาคม โดยระหว่างนี้เขาจะถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ
ทั้งนี้ อัลเบิร์ต เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีประวัติก่อเหตุความรุนแรงมาหลายครั้งแล้ว โดยย้อนกลับไปในปี 2522 เขาเคยถูกศาลสั่งจำคุก 25 ปี ในคดีแทงภรรยาของตัวเองจนถึงแก่ความตายต่อหน้าลูกสาว หลังใช้ชีวิตอยู่ในคุกมานานกว่า 20 ปี เขาก็ได้ออกมาสู่อิสรภาพอีกครั้ง
แต่อัลเบิร์ตก็ยังไม่วายกลับไปอยู่ในคุกอีกครั้งในปี 2550 หลังก่อเหตุใช้ส้อมแทงผู้หญิงจนบาดเจ็บ เขาออกจากคุกมา และในปี 2553 ก็มาถูกจับอีกครั้งในคดีทำร้ายร่างกายผู้หญิง
อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะเป็นผู้มีประวัติการใช้ความรุนแรงหลายครั้ง แต่ในครั้งนี้ผู้พิพากษาใจดี โรเบิร์ต โครว์ลีย์ กลับเล็งเห็นว่าอัลเบิร์ตเป็นชายที่มีอายุมากแล้ว ด้วยอายุของเขาน่าจะทำให้เขาไม่สามารถก่อเหตุอะไร หรือเป็นภัยต่อใครได้อีก รวมถึงเมื่อคิดถึงอายุของเขาตอนที่พ้นจากคุก ก็ทำให้ผู้พิพากษาอดเห็นใจไม่ได้ ดังนั้นผู้พิพากษาเลยตัดสินให้จำคุกเขาเพียง 4 ปีเท่านั้น ซึ่งเป็นโทษเบากว่าที่อัยการแนะนำไว้เกือบครึ่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดหลังติดคุกในรอบนั้น และพ้นคุกออกมาได้เพียง 4 ปี เขาก็กลับมาก่อเหตุฆาตกรรมผู้หญิงอีกในปี 2561 ซึ่งในครั้งนี้เขาจะไม่ได้รับความเมตตาจากศาลอีกต่อไป แม้จะมีอายุมากถึง 77 ปีแล้วก็ตาม
ด้าน โรเบิร์ต เอลลิส ผู้ช่วยอัยการรัฐเมน ระบุว่า เขารวมถึงเพื่อน ๆ และครอบครัวของ คิมเบอร์ลีย์ ด็อบบี้ พึงพอใจกับคำตัดสินของศาลในครั้งนี้มาก อัลเบิร์ตแทงคิมเบอร์ลีย์จนตาย ในเหตุการณ์คล้ายกับที่เคยฆาตกรรมภรรยาตัวเองในอดีต ซึ่งนี่ถือเป็นความยุติธรรมที่เขาสมควรได้รับแล้ว
ภาพจาก Androscoggin County Sheriff's Office
โดยรายงานจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ระบุว่า อัลเบิร์ต ฟลิก ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับความเมตตาจากศาล มองว่าเขาแก่เกินกว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่น ได้กลับมาก่อเหตุอีกครั้งหลังถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกได้เพียง 4 ปี โดยเขาได้แทง คิมเบอร์ลีย์ ด็อบบี้ หญิงวัย 48 ปี เสียชีวิตที่เมืองลูอิสตัน รัฐเมน สหรัฐอเมริกา ในเดือนกรกฎาคม 2561 ขณะที่ลูกชายของเธออยู่ห่างจากพวกเขาไปเพียงไม่กี่ฟุต
ทั้งนี้ อัลเบิร์ต เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีประวัติก่อเหตุความรุนแรงมาหลายครั้งแล้ว โดยย้อนกลับไปในปี 2522 เขาเคยถูกศาลสั่งจำคุก 25 ปี ในคดีแทงภรรยาของตัวเองจนถึงแก่ความตายต่อหน้าลูกสาว หลังใช้ชีวิตอยู่ในคุกมานานกว่า 20 ปี เขาก็ได้ออกมาสู่อิสรภาพอีกครั้ง
แต่อัลเบิร์ตก็ยังไม่วายกลับไปอยู่ในคุกอีกครั้งในปี 2550 หลังก่อเหตุใช้ส้อมแทงผู้หญิงจนบาดเจ็บ เขาออกจากคุกมา และในปี 2553 ก็มาถูกจับอีกครั้งในคดีทำร้ายร่างกายผู้หญิง
อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะเป็นผู้มีประวัติการใช้ความรุนแรงหลายครั้ง แต่ในครั้งนี้ผู้พิพากษาใจดี โรเบิร์ต โครว์ลีย์ กลับเล็งเห็นว่าอัลเบิร์ตเป็นชายที่มีอายุมากแล้ว ด้วยอายุของเขาน่าจะทำให้เขาไม่สามารถก่อเหตุอะไร หรือเป็นภัยต่อใครได้อีก รวมถึงเมื่อคิดถึงอายุของเขาตอนที่พ้นจากคุก ก็ทำให้ผู้พิพากษาอดเห็นใจไม่ได้ ดังนั้นผู้พิพากษาเลยตัดสินให้จำคุกเขาเพียง 4 ปีเท่านั้น ซึ่งเป็นโทษเบากว่าที่อัยการแนะนำไว้เกือบครึ่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดหลังติดคุกในรอบนั้น และพ้นคุกออกมาได้เพียง 4 ปี เขาก็กลับมาก่อเหตุฆาตกรรมผู้หญิงอีกในปี 2561 ซึ่งในครั้งนี้เขาจะไม่ได้รับความเมตตาจากศาลอีกต่อไป แม้จะมีอายุมากถึง 77 ปีแล้วก็ตาม
ด้าน โรเบิร์ต เอลลิส ผู้ช่วยอัยการรัฐเมน ระบุว่า เขารวมถึงเพื่อน ๆ และครอบครัวของ คิมเบอร์ลีย์ ด็อบบี้ พึงพอใจกับคำตัดสินของศาลในครั้งนี้มาก อัลเบิร์ตแทงคิมเบอร์ลีย์จนตาย ในเหตุการณ์คล้ายกับที่เคยฆาตกรรมภรรยาตัวเองในอดีต ซึ่งนี่ถือเป็นความยุติธรรมที่เขาสมควรได้รับแล้ว