x close

ครูเฮลั่น ! ศาลสั่งหักเงินเดือนใช้หนี้ ต้องเหลือเกิน 30% หลังโดนหักเกลี้ยง จนไม่มีเงินกินข้าว


         ครูกว่า 2,900 คน ทั่วประเทศเฮลั่น หลังศาลปกครอง ตัดสินชนะคดี พร้อมสั่งศึกษาธิการหักเงินครูใช้หนี้ตามระเบียบ ให้เหลือเงินเดือนไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 หลังที่ผ่านมา ครูโดนหักจ่ายหนี้จนเกลี้ยง เหลือติดบัญชี 21 บาท แทบไม่มีเงินกินข้าว ลั่นเจ้าหนี้ที่รักใจเย็น ๆ ยันใช้หนี้ทุกบาททุกสตางค์

        วันที่ 26 กันยายน 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ควบคุมดูแลและสั่งการให้หน่วยงานในสังกัด หักเงินเดือนหรือเงินบำเหน็จบำนาญของกลุ่มข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของระเบียบว่าด้วยการหักเงินเดือนเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้แก่สวัสดิการภายในส่วนราชการและสหกรณ์ พ.ศ. 2551 คือให้คงเหลือเงินเดือนสุทธิหลังจากหักชำระหนี้แล้ว ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด

ครูลูกหนี้
        โดยคดีดังกล่าว กลุ่มข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2,919 ราย ได้ยื่นฟ้อง รมว.ศึกษาธิการ ต่อศาลปกครองกลาง 45 คดี ระบุว่า ละเลย ไม่สั่งการให้หน่วยราชการในสังกัดหักเงินตามระเบียบ ข้อ 7 ที่กำหนดว่า การจะให้ส่วนราชการหักเงิน ณ ที่จ่าย เพื่อชำระหนี้เงินกู้นั้น จะต้องมีเงินเดือนสุทธิหลังจากหักชำระหนี้แล้ว ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ซึ่งเหตุเกิดตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2555

        ส่วนเหตุผลที่ศาลมีคำพิพากษาดังกล่าว ระบุว่า หลังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู (สกสค.) ออกระเบียบการหักเงินเดือน และแจ้งเวียนให้หัวหน้าสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทราบแล้ว แต่พบว่าศึกษาธิการจังหวัด ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หัวหน้าสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ยังคงหักเงินเดือนหรือเงินบำนาญของผู้ฟ้องคดี ซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบ

        อีกทั้งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ยังยอมรับว่า ผู้บังคับบัญชาของผู้ฟ้องแต่ละราย ได้มีการออกหนังสือรับรองเงินเดือน หรือเงินบำเหน็จบำนาญ และรายการหักเงิน ณ ที่จ่ายย้อนหลังให้แก่ผู้ฟ้อง เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการยื่นกู้เงินสหกรณ์และกู้เงินสวัสดิการ

        โดยที่ผู้บังคับบัญชาและหัวหน้าส่วนราชการผู้เบิก ไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ตามระเบียบ แสดงให้เห็นว่าผู้บังคับบัญชาละเลยต่อการปฏิบัติตามระเบียบ และกลายเป็นการส่งเสริมให้ข้าราชการเป็นหนี้สินเพิ่มมากขึ้นไม่มีวันจบสิ้น ขัดกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่มุ่งเน้นให้เดินทางสายกลาง

           ทั้งหมดนี้จึงฟังได้ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึง รมว.ศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ละเลยในการกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา จึงมีคำพิพากษาดังกล่าว

           ด้านนายสุวัช ศรีสด ตัวแทนครู กล่าวหลังฟังคำพิพากษาว่า ยังมีความยุติธรรมอยู่ เพราะที่ผ่านมาการบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ ครูถูกกระทำอย่างมีวาระซ่อนเร้น ซึ่งคำพิพากษาพิสูจน์ว่าครูกำลังทำให้สังคมปกติสุข ที่ผ่านมาหลังโดนหักเงิน ครูบางคนเหลือเงินในบัญชีเพียง 21-100 กว่าบาท จึงอยากถามว่าคุณค่าความเป็นคนอยู่ตรงไหน โดยขอให้เหลือเงินร้อยละ 30 เพื่อที่ให้ครูเหลือเงินซื้อข้าวกิน

           ทั้งนี้ ครูเปรียบเสมือนกระดูกสันหลัง หากครูอยู่ไม่ได้ สังคมจะอยู่ได้อย่างไร วันนี้ขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ทำให้สังคมครูอยู่เย็นเป็นสุข ขอแค่มีเงินเหลือกินข้าว แค่นี้ก็พอใจแล้ว ส่วนต่อไปกลุ่มครูก็จะทำการประนอมหนี้ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ตามที่วางไว้ โดยนายสุวัช ฝากไปยังเจ้าหนี้ว่า "เจ้าหนี้ที่รัก ขอให้ใจเย็น ๆ หนี้ทุกบาททุกสตางค์จะใช้ ไม่หนีไปไหน อย่างเพิ่งฟ้องนะ"
        
           อย่างไรก็ตาม หลังบรรดาตัวแทนครูได้ฟังคำพิพากษาแล้วต่างสวมกอดกัน ร้องไห้และส่งเสียงเฮแสดงความยินดีที่ศาลตัดสินให้ชนะคดี


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ครูเฮลั่น ! ศาลสั่งหักเงินเดือนใช้หนี้ ต้องเหลือเกิน 30% หลังโดนหักเกลี้ยง จนไม่มีเงินกินข้าว อัปเดตล่าสุด 26 กันยายน 2562 เวลา 17:20:16 13,511 อ่าน
TOP