บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เคลียร์ดราม่า ใช้เงินบริจาคสะเปะสะปะ ยันยอดบริจาคเหลือเท่าไหร่ไม่เอาไปรวมกับรัฐบาล ต้องให้ผู้ประสบภัยทั้งหมด เผยไม่คิดลงเล่นการเมือง เน้นช่วยด้วยใจ
หลังจากที่มีคนบริจาคเงินผ่านบัญชี บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เป็นจำนวนมาก
เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี ยอดบริจาคพุ่งไปกว่า
400 ล้าน ซึ่งบิณฑ์เผยว่าพยายามไม่เก็บเงินไว้
เพราะไม่รู้อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะเรื่องภาษี
เพราะมีคนเตือนว่าไม่แน่อีก 2-3 ปี อาจมีปัญหาเรื่องภาษีย้อนหล้ง
ก่อนวอนอย่าทำร้ายตนเลย เพราะไม่เคยคิดเอาเข้ากระเป๋าแม้แต่สลึงเดียว ล่าสุด รายการโหนกระแส วันที่
9 ตุลาคม 2562 โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ
ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20
น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ถึงประเด็นดังกล่าว
ยอดบริจาคล่าสุดได้เท่าไหร่ ?
บิณฑ์ : 422 ล้านบาท รวมกับที่มีหน่วยงาน มีพี่น้องประชาชนมามอบให้ผมเองอีก 4 ล้านบาท ก็รวมเป็น 426 ล้านบาท
วันนี้ใช้เงินไปเท่าไหร่แล้ว ?
บิณฑ์ : ผมเบิกมาแล้ว 109 ล้าน
มาตรฐานในการมอบเงินให้ชาวบ้านหลังคาละ 5 พัน พี่เอามาตรฐานอะไร ?
บิณฑ์ : มีหลักฐานอยู่แล้วว่าในพื้นที่น้ำท่วมของอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน
น้ำท่วมตรงไหนบ้าง แล้วพี่น้องประชาชนที่ถูกน้ำท่วมมีกี่หลังคาเรือน
ผมก็เอามาจากทางอำเภอ ทางผู้ใหญ่บ้าน ทางเขตทุกอย่าง เรามีข้อมูลอยู่แล้ว
ทั้งหมดผมไม่ได้เข้าไปจะให้ใครก็ให้ แจกใครก็ได้ ไม่ใช่
เรามีข้อมูลพี่น้องประชาชนที่ถูกน้ำท่วม กี่ร้อยครอบครัว มีโรงเรียน
อะไรแบบนี้ เรารู้หมด
พี่ไปดูในเขต ในอำเภอต่าง ๆ เขาจะแยกให้เห็น ?
บิณฑ์ : ใช่ เพราะเราต้องประชุมกับผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.
นายอำเภอของอำเภอนั้นก็ต้องมาประชุม
มาคัดค้านว่าบ้านหลังนี้ไม่อยู่ในเขตพื้นที่น้ำท่วม
แต่มีคนป่วยในบ้านคุณบิณฑ์จะว่ายังไง ผมก็แล้วแต่
ถ้าผู้นำชุมชนบอกว่าเขาน่าสงสาร ผมก็ให้ ก็ถือว่าให้ 5 พันเหมือนกัน
ถ้าบ้านถูกน้ำท่วมผมให้ 5 พัน ถ้ามีคนเจ็บอยู่ในบ้านผมให้เพิ่ม 5
พัน ก็เป็นหมื่นนึง ถ้าชาวบ้านมาคัดค้านว่าคนนี้ไม่สมควรจะได้
แต่ถ้าผู้นำชุมชนบอกว่าสมควรจะได้ ผมก็ฟังผู้นำชุมชน
แต่ถ้าผู้นำชุมชนบอกว่าไม่ให้ แต่อีกสิบหลังคาเรือนบอกว่าให้เขาเถอะ
เขาน่าสงสาร ผมก็ให้ ไม่ใช่ว่าเอาแต่ทางผู้ใหญ่หรือทางผู้นำชุมชนอย่างเดียว
ก็ 5 พันบาทเท่านั้นเอง เขาจะได้ไม่ต้องมาเสียใจว่าขอแล้วไม่ได้
ล่าสุดมีกรณีพี่นั่งรถไปกับทีมงาน เจอคนพิการขี่รถอยู่ พี่ก็มอบเงินให้ 3 พัน ?
บิณฑ์ : นั่นเงินส่วนตัวผม ผมจะบอกทุกครั้ง เยี่ยมน้องคนหนึ่งเป็นมะเร็งที่ขา
ผมกดเงินสดของผมไปเอง 2 หมื่น
ผมไม่เอาเงินที่คนบริจาคเข้าบัญชีแล้วเอามาบอกว่าเป็นเงินส่วนตัว ผมไม่มี
เพราะผมทำทุกอย่างตามที่บอกไว้หมด และมีหลักฐานทุกอย่าง
ปกติเดือนนึงผมเอาเงินส่วนตัวให้คนเจ็บคนป่วยเป็นแสนอยู่แล้ว อยู่ที่อุบลฯ
ผมไม่ได้ใช้เงินตรงนี้เลย ผมให้เงินส่วนตัวผมตลอด
มั่นใจได้ว่าเงินบริจาคน้ำท่วมก็แยก ?
บิณฑ์ : ที่ให้ต่อหน้าเป็นเงินส่วนตัวผมเอง เราไม่เอาอยู่แล้ว เราทำเราก็ไม่สบายใจ เราโกหกก็ละอายใจ
เคยสงสัยไหมประเด็นดราม่ามาจากไหน ทำไมมีคนมาดราม่า ?
บิณฑ์ : ผมว่าในโลกมนุษย์มันก็มีคนพวกนี้อยู่แล้ว ดีแค่ไหนก็ต้องมีคนแบบนี้
อิจฉาตาร้อนธรรมดา ผมไม่เอาเรื่องพวกนี้มาทำให้ความคิดดี ๆ ของเราบั่นทอนจิตใจเรา
เรื่องเอาไปใช้สะเปะสะปะ ไปเจอคนแล้วหยิบเงินให้ ไม่ใช่เงินบริจาค ?
บิณฑ์ : ไม่ใช่ เงินในกองผมไม่เคยเก็บไว้ใช้สักบาทเดียว
จะมีแต่ละวันที่เจ้าหน้าที่เอาออกไป ผมไม่เคยยุ่งเลย
ไม่เคยเอาเงินกองกลางมาไว้ที่ผมแม้แต่บาทเดียว ไม่รู้จะเอามาทำไม
ตอนนี้แจกไปแล้วทั้งหมด 11 อำเภอ
มีตัวยืนยันหมด ?
บิณฑ์ : ใช่ครับ การเอาเงินออกแต่ละครั้งจะทำให้รัดกุมที่สุด รับรองมีหลักฐานทุกอย่าง
คำนวณหรือยังถ้าแจกทั้งหมดประมาณเท่าไหร่ ?
บิณฑ์ : ในอุบลฯ วันที่ 15 นี้ ต้องได้ทั้งหมด อุบลฯ น่าจะสัก 2
หมื่นกว่าครอบครัว ครอบครัวละ 5 พัน ก็ร้อยกว่าล้าน ที่เหลือยังมียโสธร
ร้อยเอ็ด ได้แน่ เสร็จจากอุบลฯ อีก 5 จังหวัด ผมจะเข้าไป ณ
ตอนนั้นที่เข้าอุบลฯ เพราะเขาหนัก และยังไม่มีเรื่องการขอรับบริจาค อุบลฯ
เป็นจุดแรกก็ต้องทำให้เสร็จก่อน จุดอื่นผมเข้าไปแน่นอน
เพราะเงินยังเหลืออีก 300 กว่าล้าน ผมตีให้ประมาณ 5-6 หมื่นครอบครัว
สามารถช่วยได้ทั้งหมด เงิน 400 กว่าล้านพอช่วยเหลือ
จะแจกให้หมดเลยไหม ?
บิณฑ์ : ไม่เหลือ ผมไม่อยากมารับผิดชอบไง ถ้าน้ำท่วมเสร็จก็จะมีการฟื้นฟู
หม้อหุงข้าว พัดลม ของจำเป็น ที่นอน หมอน มุ้ง ใกล้หน้าหนาว เฉพาะอุบลฯ
เราเข้าพื้นที่เรามีหลักฐานอยู่แล้ว จะเอาเครื่องอุปโภคนี้เข้าไป
สมมติเงินยังเหลืออีก ผมยังไม่มีความคิดจะทำยังไง ต้องถามว่าจะเอาไปทำอะไร
เพราะไม่ใช่เงินผม เป็นเงินประชาชน แต่จะช่วยเฉพาะน้ำท่วมนะ
ไม่งั้นจะผิดวัตถุประสงค์ สมมติเหลือสัก 50-70 ล้าน ผมไม่รู้จะเอาไปทำอะไร
เอาไปรวมกับรัฐบาลไหม ?
บิณฑ์ : คงไม่ อย่ามาดราม่าอะไรกับผมอีกเลยครับ คงไม่ครับ (หัวเราะ) จะรวมทำไม รัฐบาลเขามีเป็นพันกว่าล้าน
ล่าสุดมีประเด็นตามมา เห็นว่าถูกขู่จะถูกภาษีย้อนหลัง ?
บิณฑ์ : จริงครับ มีคนหลายคนที่เป็นห่วง เขาก็ยกตัวอย่างหลาย ๆ เคส บอกว่าผ่านไป
3-4 ปี โดนเรียกภาษีย้อนหลังกลับมาหลายสิบล้าน ผมก็อ้าว
แต่ผมเข้ามาไม่ได้เป็นรายได้ผม ผมมีวัตถุประสงค์ว่าเพื่ออะไร ทำอะไรยังไง
แตวันที่ผมสงสัยวันแรก ๆ ผมก็ถามกรมสรรพากรแล้ว
สรรพากรบอกว่ากรณีคุณบิณฑ์ไม่เป็นไร แต่เขาบอกว่าแค่คำพูด ให้คุยกับสรรพากร
มีหนังสือออกมายืนยันหน่อยได้ไหม
เคยคุยกันไหม ?
บิณฑ์ : คุยบ้าง แต่กรมสรรพากรบอกว่ากรณีเราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ
วัตถุประสงค์แน่ชัด ขอให้เก็บหลักฐานไว้ดี ๆ
แต่ถ้าคุณบิณฑ์ทำแบบนี้แล้วสักพักไม่ได้ทำแล้ว เอาเงินไปทำอย่างอื่น คุณโดน
เราก็ไม่สบายใจ แต่อีก 3-4 ปี ใครจะรู้กลับมาหาเรา เราจะทำยังไง
อยากได้หนังสือยืนยันจากสรรพากร ถ้าโดนก็หลายสิบล้านเลยนะ
ต่อสายหา ปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร บิณฑ์จะถูกภาษีย้อนหลังไหม ?
ปิ่นสาย
: ตามที่ทางเราได้ตามข่าวและรับทราบข้อเท็จจริง
กรมมองว่าประชาชนฝากเงินให้เอาไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
แต่เขาเหล่านั้นไม่ได้กลับไปหรือไปพื้นที่
ก็เหมือนในทางปฏิบัติฝากเงินให้คุณบิณฑ์เอาไปช่วยเหลือต่อ
ถ้าข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้ มาร้อยไปร้อย มาพันไปพัน ก็ไม่ใช่เงินคุณบิณฑ์
คุณบิณฑ์ไม่มีหน้าที่เสียภาษีอะไรตรงจุดนี้ แต่เคสที่มันมีเรื่อง เช่น
เอาเงินไปให้ร้อย หักค่าใช้จ่าย 10 เปอร์เซ็นต์
เงินไปถึงตรงนั้น 80-90 ก็กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย แต่เคสคุณบิณฑ์
คุณบิณฑ์รับมาเท่าไหร่ก็จ่ายไปเท่านั้น เหมือนเป็นตัวแทน
ถ้าไม่ใช่เงินได้ตัวเอง
คุณบิณฑ์ไม่ต้องบีแคร์อะไรไปเลย เพราะไม่ใช่เงินได้คุณบิณฑ์
เพียงแต่ว่าถ้าสรรพากรเขาสงสัยก็อาจจะขอดูหลักฐานหน่อยได้ไหมว่ามาร้อยไปร้อย
ถ้าคุณบิณฑ์ไม่สบายใจมาคุยกันก่อน
ออกหนังสือยืนยันให้คุณบิณฑ์หน่อยว่าจะไม่ไปเรียกเก็บย้อนหลัง ?
ปิ่นสาย
: ปกติถ้าออกหนังสือข้อหารือ ผู้หารือต้องส่งมาถาม และใช้เวลาพอสมควร
เคสคุณบิณฑ์พิเศษ เราอาจคุยกันก็ได้ อาจเชิญมาคุยกันก่อนฤดูภาษี
แต่ขอให้เก็บเอกสารหลักฐานให้สมบูรณ์ชัดเจน เข้ามาอย่างนี้ ออกอย่างนี้
ในมุมผมการออกหนังสือยุ่งยากในทางปฏิบัติมาก มันไม่เร็ว
แต่เคสคุณบิณฑ์เป็นเรื่องสาธารณกุศลโดยแท้ ให้มาคุยกันดีกว่า อีก 2 เดือนต้องเข้าฤดูยื่นภาษีแล้ว ก็เอาหลักฐานมาคุยกัน จริง ๆ ให้หมดน้ำท่วมรอบนี้
หากไม่มีน้ำท่วมที่อื่น ประสานมาทางผมก็ได้ แต่ถ้าอยากทำหนังสือจริง ๆ
เราก็ไม่ได้ขัดข้อง แต่อาจต้องใช้เวลา
พอเป็นลายลักษณ์อักษรต้องมีถามไปถามมาอีกเรื่องหนึ่ง
มีสิทธิ์โดนหรือรอด ?
ปิ่นสาย
: ถ้าข้อเท็จจริง รับร้อยจ่ายร้อยไม่เป็นเงินได้แน่นอน รอบหน้ามาคุยกันเบื้องต้นที่กรมก่อนก็ได้
สบายใจขึ้นไหม ?
บิณฑ์ : ในระดับหนึ่งก็สบายใจ แต่ถ้าไม่มีหนังสือยืนยันมาก็ยังไม่รู้ (หัวเราะ)
เราสบายใจเลยว่าเรามีหลักฐานพร้อมทุกอย่าง
แต่มีปัญหาว่าถ้าเงินเหลือในบัญชี และไม่มีทางออกว่าจะเอาเงินไปทำอะไร
มันเป็นปัญหามาก
มันก็อยู่ที่ดุลยพินิจผู้บริจาคว่าจะยอมให้เอาไปช่วยเหลือไหม ผมลำบากใจ
เงินผมไม่ต้องการอยากได้เลย
เอาเงินไปช่วยอย่างอื่นได้ไหม ?
บิณฑ์ : ผมถามพี่น้องประชาชนว่าอยากให้ผมทำไหมล่ะ
ถ้าค้างอยู่คุณบิณฑ์โดนเรื่องสรรพากร ถ้าทำเพื่อเจตนารมณ์ผู้บริจาคทุกอย่างก็จบ ?
บิณฑ์ : ถูกต้องครับ
ทำเพื่ออะไร ทำได้อะไร ?
บิณฑ์ : ผมทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ทำมาตลอด ทำแล้วได้อะไรก็ช่างมัน
ผมทำแล้วมีความสุข ก็แค่นั้นเอง ผมมีความสุขของผม
การช่วยเหลือคนเป็นความสุขของผม
เลือกตั้งไหม ?
บิณฑ์ : ไม่ครับ
ท่านบิณฑ์ ส.ส.บิณฑ์ ไม่เอาครับ อย่า ๆ ผมขออยู่อย่างนี้ดีกว่า
สามารถช่วยได้ทุกคน ทุกอำเภอ ทุกหมู่บ้าน
ถ้าเลือกตั้งผมอาจเข้าอำเภอนี้ไม่ได้ ณ ตอนนี้ศูนย์อุบลฯ ขาดแคลนน้ำมาก
ใครอยู่ใกล้ ๆ ขอรับบริจาคเรื่องน้ำหน่อย
เอาเงินนั้นไปซื้อน้ำไม่ได้ด้วย เพราะต้องบริจาคอย่างเดียว ?
บิณฑ์ : ใช่ครับ