x close

อาประกาศตามหาหลาน ที่ได้ดี จบแพทย์-ครู แต่ทิ้งพ่อที่ป่วยติดเตียง 3 ปี

          ทิ้งพ่อ ?!? อาประกาศตามหาหลาน ที่ได้ดี จบแพทย์-ครู แต่ทิ้งพ่อที่ป่วยติดเตียงมา 3 ปี ให้กลับมาดูแลพ่อที่ส่งเสีย และดูใจในวาระสุดท้าย


          จากกรณีเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ป่วยติดเตียงมานาน 3 ปี โดยถูกทอดทิ้งจากภรรยาและลูกสาว 2 คนที่เป็นแพทย์และครู จนน้องชายได้ออกมาตามหาหลานสาวทั้ง 2 คนที่ได้ดี โดยลูกสาวคนโตเป็นแพทย์อยู่ในโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง ส่วนลูกสาวคนเล็กเป็นครู สอนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ให้กลับมาดูแลพ่อที่ส่งเสีย และดูใจในวาระสุดท้าย

          ล่าสุด (22 ตุลาคม 2562) รายการ "สุดจัดปนัดดา" ทางช่องอมรินทร์ ทีวี ดำเนินรายการโดยพิธีกรสาว "ดร.บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ได้เปิดใจสัมภาษณ์  คุณวสุธันย์ นพภัสสร์ (น้องชายผู้ป่วยติดเตียง), คุณอรพินท์ แซ่เจี๋ย (มารดาของผู้ป่วย) และ คุณวรรณรท นพภัสสร์ (น้องสะใภ้ ภรรยานายวสุธันย์)


คุณเป็นอะไรกับผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยท่านนี้ชื่ออะไร ?

          วสุธันย์ :
ชื่อคุณทรงศักดิ์ ครับ ผมเป็นน้องชายครับ

เหตุผลที่คุณออกประกาศตามหา และทำไมจู่ ๆ ถึงออกตามหา ?

          วสุธันย์ :
ก่อนอื่นผมขอเท้าความก่อนนะครับว่า ตอนที่พี่ผมป่วยใหม่ ๆ ผมก็ได้แจ้งลูกสาวเขาไป ลูกสาวเขาก็กลับมาเยี่ยม พอเยี่ยมเสร็จผมก็พาเขาไปทานข้าวที่ริมน้ำ แล้วเขาก็บอกผมว่า เจ็ก ฝากป๊าไว้สัก 2-3 เดือน ไว้เขาหาบ้านเป็นหลังได้ก่อนเขาจะกลับมาพาป๊าไปดูแล ผมบอกว่าดีมากลูก กตัญญูน่ะดีแล้ว แต่ตั้งแต่นั้นมาเขาก็หายไปเลย ไม่เคยติดต่อมาอีกเลย

ทราบมาว่าหลานสาวทั้ง 2 คน คนหนึ่งมีอาชีพเป็นหมอ อีกคนหนึ่งเป็นครู ซึ่งทั้ง 2 ท่านทำงานอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ?

          วสุธันย์ :
ถูกต้องครับ

คุณวสุธันย์ คุณแม่ และคุณอรพินท์ เป็นคนที่ไหน ?

          วสุธันย์ :
เป็นคนพิษณุโลกครับ

แล้วทำไมคุณทนงศักดิ์ ถึงไปอยู่เชียงใหม่ได้ ?

          วสุธันย์ : ก็เพราะเขาเกิดอาการป่วย ถ้าเอาไว้ที่พิษณุโลก ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเชียงใหม่ ผมลองเช็กดูแล้ว


เป็นความต้องการของใครที่ทำให้คุณทนงศักดิ์ต้องไปอยู่เชียงใหม่ ?

          วสุธันย์ :
ทั้งครอบครัวคุยกันแล้ว

ถามทางคุณแม่ คุณแม่มีลูกกี่คน คุณทนงศักดิ์เป็นลูกคนที่เท่าไร ?

          คุณแม่อรพินท์ :
แม่มีลูก 4 คน ทนงศักดิ์เป็นคนโต วสุธันย์เป็นคนที่ 2 และยังมีผู้หญิงอีก 2 คน

คุณทนงศักดิ์ทำอาชีพอะไร ?

          คุณแม่อรพินท์ :
เป็นทนายความ

ทราบมาว่าคุณทนงศักดิ์มีครอบครัวหลายครอบครัว 3 ครอบครัวด้วยกัน ครอบครัวที่ 1 มีลูก 2 คน เป็นลูกสาว คนหนึ่งคือหมอ คนหนึ่งคือครู แล้วมาถึงครอบครัวที่ 2 และ 3 ?

          วสุธันย์ : ครอบครัวที่ 2 เป็นทหาร มีลูกชาย 1 คน และครอบครัวที่ 3 ผมไม่ค่อยคุ้นเคย รู้ว่ามีลูก 2 คน เท่า ๆ ที่ผมทราบ คนหนึ่งเป็นดาวน์ซิมโดรม อีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิง ตอนนี้น่าจะเรียนอยู่ราชภัฏ ปี 1


เห็นบอกว่าก่อนที่คุณทนงศักดิ์จะล้มป่วย ก็ให้การดูแลทุกครอบครัวอย่างดี แต่ค่าใช้จ่ายจะให้ครอบครัวที่ 1  มากหน่อย เพราะมีลูกสาว ที่เรียนเยอะ เรียนสูงทั้ง 2 คน ?

          วสุธันย์ :
ใช่ครับ เพราะเขารักมาก

ส่งจนเรียนจบเลยไหม ?

          วสุธันย์ : ใช่ครับ ส่งจนเรียนจบ แต่มีปีสุดท้ายนี่ล่ะที่เขาเริ่มแย่ เขาก็บอกแม่ว่าให้โทร. ไปบอกน้องสาวให้หน่อย เพราะน้องสาวพอจะมีฐานะหน่อย ว่าช่วยส่งเสียเจ้าเด็ก 2 คนนี้หน่อย เพราะว่าเขาเหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว

ถามหน่อยว่าการที่เขามีหลาย ๆ ครอบครัว เขามีปัญหาขัดแย้งไหม คือดิฉันพยายามจะหาข้อชี้แจงว่าทำไมลูกสาว 2 คนถึงทิ้งพ่อไป ?

          คุณวรรณรท :
ขอเท้าความอย่างงี้ค่ะ อย่างคุณทนงศักดิ์ มีครอบครัว 3 ครอบครัวอย่างที่ทราบ มีลูกทั้งหมด 5 คน และดูจากอายุของลูกแต่ละคนเกือบ 30 ปี ซึ่งแต่ละครอบครัวอยู่กันมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี ดังนั้นไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมีบ้านเล็กบ้านน้อย

พอคุณทนงศักดิ์ป่วย ใครเป็นคนดูแลค่าใช้จ่าย เดือนละเท่าไร ?

          วรรณรท :
รวม ๆ กันค่ะ

          วสุธันย์ : เดือนละ 15,000 นี่เฉพาะค่าบ้านที่ดูแล ไม่รวมค่าแพมเพิร์ส ค่าไปโรงพยาบาล ค่ากายภาพ


คุณทนงศักดิ์ป่วยตั้งแต่เมื่อไร และเป็นเพราะอะไร ?

          วรรณรท :
ปลายปี 2559 เพราะล้มในห้องน้ำ เส้นเลือดในสมองแตก สะโพกหัก ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ที่พิษณุโลก ตัวลูกสาวคนที่เป็นหมอก็ได้ลงมาดู ยังพักด้วยกัน ทุกอย่างเป็นปกติ และยังบอกว่าให้ช่วยดูแลป๊าสักระยะหนึ่งก่อน ให้เขาตั้งตัวที่โน่น อาจจะหาบ้านพักหรืออะไรสักอย่าง แล้วเขาจะมารับพ่อเขาไปอยู่ หลังจากนั้นไม่กี่เดือนเขาก็มารับ

ก็แปลว่าตัวลูกสาวเป็นคนมารับพ่อไปอยู่เชียงใหม่เอง ไม่ใช่เพราะพวกคุณผลักไสใช่ไหม ?

          วรรณรท :
ไม่ใช่ค่ะ มีการปรึกษากันแล้ว

เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเกิดคลิปนั้นขึ้น หลังจากเอาตัวคุณพ่อไปดูแลได้กี่เดือน ?

          วรรณรท :
ประมาณ 2-3 เดือน

เอาไปดูแล  2-3 เดือน แล้วก็โทร. มาหาทางญาติ บอกว่า ?

          วรรณรท : ไม่ไหวทางค่าใช้จ่าย


ในคลิปเขาคุยกับใคร ?

          วรรณรท :
คุยกับดิฉันเอง

แล้วใครเป็นคนถ่าย VDO ?

          วรรณรท :
ดิฉันไม่ทราบว่าใครเป็นคนถ่าย แต่ทางเจ้าหน้าที่ในนั้นเป็นคนส่งมาให้ดิฉัน

ลูกสาวในคลิปเป็นคนไหน ?

          วรรณรท :
คนที่เป็นครูค่ะ เป็นน้องสาวของคนที่เป็นหมอค่ะ

หลังจากฟังคลิปที่ลูกสาวพูดว่า ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันไม่ไหวแล้ว ถามตรง ๆ มันเกิดอะไรขึ้น ?

          วรรณรท : คืออย่างงี้ หลังจากที่คุณทนงศักดิ์กลับไปอยู่ที่เชียงใหม่ โดยลูกสาวมารับ ทางเราก็ไปส่ง ก็ยังคุยกันอยู่ คือมันมีค่าใช้จ่ายทุกเดือนอยู่แล้ว ทางนี้ก็ช่วยในบางส่วน อันนี้เป็นใบโอนที่เราโอนทุกเดือน เป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี และทีนี้ดิฉันก็ไม่ทราบว่าเขาเกิดอาการอะไร


ไม่ใช่ว่าเราทิ้งภาระทั้งหมดให้เขา ?

          วรรณรท :
อยากจะชี้แจงตรงนี้ เราช่วยในส่วนนี้ มีครอบครัวดิฉัน ครอบครัวน้องสาวคุณวสุธันย์ มีเท่าไรก็ช่วย ๆ กัน แต่ในฐานะที่ตัวเขาเป็นลูกสาว เราไม่ได้เรียกร้องว่าคุณต้องเอาป๊าคุณไปดูแล คุณวสุธันย์ก็เป็นน้อง คุณอรพินท์ก็เป็นแม่

คุณแม่ ถามหน่อย ความสัมพันธ์กับหลานสาวเป็นอย่างไรบ้าง ?

          คุณแม่อรพินท์ :
ตอนแรก ๆ พ่อเขาอยู่ เขาก็มาหาบ่อย แต่พอเขาไปเรียนเชียงใหม่ ก็ไกลไม่ค่อยได้มา

แล้วเกิดกระดูกสะโพกหักได้อย่างไง ?

          วรรณรท :
คือคนที่ดูแลแจ้งมาว่าคุณทนงศักดิ์ประสบอุบัติเหตุ คือหม้อแปลงระเบิด แล้วคุณทนงศักดิ์ตกใจ เลยตกลงจากเตียง ต้องไปผ่าตัด แล้วมันเป็นประเด็นที่ว่า ลูกสาวคุณทนงศักดิ์ ที่เป็นหมอนะ อยู่โรงพยาบาลเดียวกันกับที่คุณทนงศักดิ์ไปผ่า แล้วทีนี้ในการผ่าตัดของคุณหมอ แจ้งว่าต้องให้ญาติของผู้ป่วยไปเซ็นรับรองในการผ่าตัด คือดิฉันกับคุณวสุธันย์ ก็เป็นแค่ลูกจ้าง และค่าใช้จ่ายก็ช่วยเหลือคุณทนงศักดิ์อยู่แล้ว เลยไม่ได้ไป เลยแจ้งกับทางคุณหมอเจ้าของเคสว่าเขามีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในโรงพยาบาลอยู่แล้ว

สรุปลูกสาวที่เป็นหมอเขาเซ็นให้ไหม ?

          วรรณรท :
ไม่เซ็นค่ะ

          วสุธันย์ : นอกจากไม่เซ็นแล้วยังไม่ยอมลงมาดูเลย แม้แต่ก้าวลงมาดูพ่อเขา เขายังไม่ลงมาดูเลย

          วรรณรท : ดิฉันไม่ได้มโนไปเอง เพราะว่าคุณหมอที่ผ่าตัดแจ้งมาว่าบอกคุณหมอท่านนี้ให้แล้วนะครับ เพราะดิฉันขอร้องว่าให้คุณหมอคุยกับเขาให้หน่อย คุณหมอเลยบอกว่าผมแจ้งแล้วแต่เขาไม่มาเซ็น แต่ไม่เป็นไร ผมจะอนุญาตให้คนไข้เซ็นผ่าตัดตัวเอง อันนี้เป็นเคสแรก


ตอนนี้คุณทนงศักดิ์ คือผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถเดินได้ ต้องกายภาพบำบัด ซึ่งมันก็เป็นค่าใช้จ่าย แต่ก่อนจะกายภาพบำบัด ทุกท่านทราบไหมว่าค่าผ่าตัดใครเป็นคนจ่าย ?

          บุ๋ม :
ดิฉันช็อกมากค่ะ กับคำตอบที่ดิฉันได้ คุณหยาด คนที่ดิฉันพูดคุยเมื่อสักครู่นี้  ซึ่งไม่ใช่ญาติอะไรเลย แต่เธอพยายามโทรศัพท์ไปหาลูกสาวเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะคุณหมอยืนยันว่าต้องผ่าตัด แต่เงินไม่มีสักบาท คุณหยาด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ไม่ได้เป็นญาติอะไรด้วยเลย สงสาร เอาเงินเก็บส่วนตัวที่ต้องใช้ตลอดชีวิต เอามาจ่ายค่ารักษา

2 คนนั้นเขาอยู่กินลำบาก มีภาระเยอะไหม ?

          วสุธันย์ :
ไม่มีครับ อยู่อพาร์ตเมนต์ ไปเที่ยวญี่ปุ่น

เขาเคยออกตังค์ค่าใช้จ่ายนอกจาก 3 เดือนแรกที่เอาไปเชียงใหม่ ?

          วรรณรท :
ก็ตั้งแต่ที่เอาคุณทนงศักดิ์มาพิษณุโลก ครั้งที่ 2 ก็ไม่เคยติดต่อมาอีกเลย ไม่มาช่วยเหลือ ไม่มาดูแล

มาเยี่ยมบ้างไหม ?

          วรรณรท : ไม่มาเลย


โทรศัพท์มาถามบ้างไหม ?

          วรรณรท :
ที่ศูนย์แจ้งว่าไม่เคยโทร. มา

          วสุธันย์ : บล็อกเบอร์พวกผมไปเลย
 
คุณโทร. ไปจี้ขอตังค์เขาบ่อยหรือเปล่า ?

          วสุธันย์ :
ไม่เคยขอตังค์เลยแม้แต่นิดเดียว

เขาเคยมีอะไรทะเลาะกันมาก่อน พอจะทราบไหมว่าคุณทนงศักดิ์ไม่ใส่ใจดูแล ลงไม้ลงมือ ตบตี ?

          วสุธันย์ :
ไม่มีลงไม้ลงมือ

          วรรณรท : คุณทนงศักดิ์ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่

เขาดูแลบ้านอื่นเยอะกว่าหรือเปล่า ?

          วรรณรท : เขาแบ่งบ้านกันลงตัวอยู่แล้ว เป็นระยะเวลา 20 ปี ลงตัวอยู่แล้ว และเขายังคุยกับลูกชายของครอบครัวที่เป็นทหาร ยังเป็นพี่น้องกันดี


ท้ายที่สุดนี้ ที่มาออกรายการของเรา อยากจะพูดอะไรถึงหลานสาวทั้ง 2 ท่าน ?

          วสุธันย์ :
ผมขอฝากไปถึงหลานสาวทั้งสอง..อาเจ็กอยากถามว่า ไม่สงสารป๊าของหนู ๆ บ้างเหรอ เท่าที่อาเจ็กรู้ ป๊าเขารักและฝากความหวังไว้กับเรา 2 คนมากนะ เขาก็ป่วยอายุมากแล้ว จะอยู่อีกกี่ปี มาดูแลป๊าที่เป็นพระอรหันต์ในบ้าน การกตัญญูเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ที่ในสังคมไทยถือมาก อาเจ็กหวังว่าหลานทั้งสองจะมาดูแลรักษาป๊าของหนู ๆ ให้ดีขึ้นเท่าที่จะทำได้ อาเจ็กก็ทำหน้าที่น้องชายได้ดีที่สุดแค่นี้แล้ว ไม่เคยโกรธ ยังรักและเป็นห่วงหลานเหมือนเดิม

          คุณแม่อรพินท์ : ก็อยากให้เขามาดูแลพ่อเขา อย่าทำอย่างงี้กับพ่อเลย เพราะพ่อเขาอายุมากแล้ว ติดเตียงแบบนี้จะไปวันไหนก็ไม่รู้ ถ้ามาดูแล หน้าที่การงานก็จะเจริญ กตัญญู


          วรรณรท : ดิฉันอยากฝากไปถึงแม่ของครูและหมอทั้ง 2 คน ในฐานะที่เป็นสะใภ้มาด้วยกัน รู้จักกันมาตั้ง 20 กว่าปี เราอยู่กันมาตั้งขนาดนี้ ถ้าอยู่กันมา 20 ปี 30 ปี รู้แล้วว่ามีความรักซึ่งกันและกัน อย่ามาทิ้งเขาตอนนี้เลย จะทำแบบนี้จริง ๆ เหรอ จะทิ้งคุณทนงศักดิ์จริง ๆ เลยเหรอ พี่ก็เป็นเมียและเป็นแม่ด้วย การที่เป็นแม่ต้องสอนลูก ต้องบอกลูกว่าการกตัญญูคืออะไร อยากจะถามถึงเขาว่าพี่สอนลูกใหม่นะ

          ทั้งนี้ ทางรายการพยายามหาความจริงให้ได้มากที่สุด โดยพิธีกร บุ๋ม ปนัดดา ได้ลงไปพื้นที่จริง ก็ได้เห็นสภาพตามที่บ้านนี้พูด และได้ให้ทีมงานโทร. ไปเพื่อสัมภาษณ์ ทั้งตัวภรรยา คือ คุณแม่ของคุณหมอและคุณครู  โทร. ไปหาคุณหมอ โทร. ไปหาครู ติดทั้ง 3 ท่าน แต่ทุกท่านวางสายใส่หมดเลย ซึ่งใจจริง บุ๋มอยากฟังคำชี้แจงของพวกเขามากกว่า เชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลหมด เขาอาจจะมีความจำเป็น เขาอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่หนักมากอยู่แล้ว แต่อีกมุมหนึ่ง นี่คือ "พ่อ" พ่อที่ส่งเสียเลี้ยงดูมา แม้ว่าจะมีบ้านหลายบ้านก็ตาม แต่เขาก็ส่งเสียเลี้ยงดูมาจนเรียนจบ

          ติดตามรายการ "สุดจัดปนัดดา" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-09.45 น. ทางอมรินทร์ ทีวี HD ช่อง 34






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อาประกาศตามหาหลาน ที่ได้ดี จบแพทย์-ครู แต่ทิ้งพ่อที่ป่วยติดเตียง 3 ปี อัปเดตล่าสุด 22 ตุลาคม 2562 เวลา 17:14:09 90,614 อ่าน
TOP