ตำรวจแถลงหลังจับตัว สมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง ชี้ไร้มูลเหตุจูงใจฆ่า แต่ความอดทนต่ำ ก่อนเกิดเหตุทะเลาะกันเพราะกลับบ้านดึก จึงบันดาลโทสะก่อเหตุ เผยยังไม่สำนึก
พล.ต.ท. พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า นายสมคิดได้หลบหนีไปในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม ก่อนจะนำรถไปจอดไว้ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แล้วขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ขบวนที่ 234 มุ่งหน้าปลายทางไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งต่อมาเวลา 10.00 น. ชุดสืบสวน สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้บูรณาการร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม, กองบังคับการตำรวจรถไฟ, ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าทำการจับกุมตัวนายสมคิดได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับบุคคลตามหมายจับ และให้การรับสารภาพ
ส่วนพฤติการณ์การก่อเหตุของนายสมคิด
พล.ต.ต. จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม ได้เปิดเผยว่า
หลังจากผู้ต้องหาออกจากคุก เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 ก็ใช้ชีวิตตามปกติ จนกระทั่งก่อเหตุครั้งที่ 6
โดยเริ่มจากการคบหาผู้ตายผ่านทางเฟซบุ๊ก
จนมาอยู่กินใช้ชีวิตร่วมกันและมีโครงการจะแต่งงานกันด้วย
แต่ในวันที่ก่อเหตุได้ทะเลาะกันรุนแรง เนื่องจากนายสมคิดกลับบ้านดึก
แล้วผู้ตายบ่นไม่หยุด จึงบันดาลโทสะแล้วลงมือฆ่า ซึ่งวิธีการทั้ง 6 ครั้ง
จะใช้วิธีกดน้ำ, เอามือบีบคอ, ใช้ผ้ารัดคอ
รวมถึงใช้สายชาร์จโทรศัพท์รัดคอเหยื่อ แต่จะไม่ใช้อาวุธปืนหรือมีด
จะใช้อุปกรณ์ที่หาได้ในบ้าน
ไม่ได้เตรียมอาวุธไว้ล่วงหน้าเพื่อใช้ทำร้ายหรือฆาตกรรม
และไม่ใช่ประสงค์ต่อทรัพย์เป็นหลัก
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 18 ธันวาคม 2562 หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 3 ได้นำตัว
นายสมคิด พุ่มพวง หรือ คิด เดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่อง
ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.322/2562 ลงวันที่ 15
ธันวาคม 2562 ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ไปที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
พล.ต.ท. พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า นายสมคิดได้หลบหนีไปในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม ก่อนจะนำรถไปจอดไว้ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แล้วขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ขบวนที่ 234 มุ่งหน้าปลายทางไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งต่อมาเวลา 10.00 น. ชุดสืบสวน สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้บูรณาการร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม, กองบังคับการตำรวจรถไฟ, ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าทำการจับกุมตัวนายสมคิดได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับบุคคลตามหมายจับ และให้การรับสารภาพ
ด้าน พล.ต.ต. อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภ.3
ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการหลบหนีของนายสมคิด ว่า
หลังก่อเหตุได้พยายามหลบหนีไปที่ขอนแก่น
แล้วใช้รถจักรยานยนต์ของผู้ตายขับหลบหนีไปนอนพักค้างแรมอยู่ที่ จ.มหาสารคาม 1
คืน จากนั้นไปพักค้างแรมที่โรงพยาบาลใน จ.บุรีรัมย์ อีก 1 คืน
เพื่อหลบหนีการจับกุม โดยจอดรถจักรยานยนต์ของผู้ตายทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล
แล้วขึ้นรถไฟหลบหนีมุ่งหน้าไปอยุธยา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจอย่างละเอียดแล้ว รวมถึงทรัพย์สิน โทรศัพท์มือถือ และอาวุธมีด
ที่ตรวจยึดได้ขณะจับกุม พร้อมกับให้แพทย์มาตรวจร่างกายนายสมคิด
ผู้ก่อเหตุ อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อประเมินอาการทางจิตด้วย
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ส่วนลักษณะของเหยื่อจะเป็นแฟน
หรือผู้หญิงให้บริการ
แล้วมีการทะเลาะวิวาทและควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จนฆ่าเหยื่อในที่สุด
ซึ่งแผนการหลบหนีของนายสมคิดจะเห็นว่าไร้ทิศทางและพยายามหนีให้ห่างจากจุดก่อเหตุให้มากที่สุด
แต่เจ้าหน้าที่ได้บูรณาการกำลังกว่า 500 นาย
รวมถึงประชาสัมพันธ์ประชาชนผ่านสื่อทุกช่องทาง
จึงทำให้สามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งหลังถูกจับกุมผู้ต้องหาบอกว่า "ไม่กลัวตาย เพราะเกิดมาตายได้ครั้งเดียว" และมีอาการซึมเล็กน้อย
แต่ไม่ได้มีอาการสำนึกผิด
ภาพจาก สำนักข่าว INN