พ่อน้องไทตัล เชื่อ โจรปล้นร้านทองลพบุรี เป็นเจ้ากรรมนายเวรลูก
ต่อให้จับคนร้ายได้น้องก็ไม่ฟื้น ด้าน นักวิชาการชี้ ขาผิดปกติ
อาจมีความบกพร่อง ไม่ใช่ขาเทียม
ภาพจาก รายการ "เรื่องลับมาก (no censor)"
รายการ "เรื่องลับมาก (no censor)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา
13.55-14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (14 มกราคม 2563) ดร.เสรี
วงษ์มณฑา ได้เปิดใจสัมภาษณ์ รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล
ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานหลักสูตรอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต และ
รศ. นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มศว (แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช) กรณีโจรใจเหี้ยมปล้นทองในห้างดังที่
จ.ลพบุรี
รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ : ในแง่การศึกษา พบว่าคนร้ายคนนี้มีพฤติกรรมแตกต่างจากการปล้นร้านทองพอสมควร แตกต่างในประเด็นที่ว่าทำไมเขาต้องยิงคน แทนที่จะเอาแต่ทองและหลบไป คดีอื่นคนร้ายเลือกยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นการข่มขู่เปิดทาง แต่กรณีนี้แตกต่างกัน หลักการเรียนการสอนตำรวจไทยและทั่วโลก บอกว่าความผิดเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์ที่คนร้ายจะก่อเหตุมี 3 อย่าง คือ สถานที่ คนร้ายเลือกแล้วว่าเป็นร้านทองออโรร่า เพราะอยู่ในห้าง ใกล้ประตูเข้า-ออก รถเวลาจอดก็ไปไม่ไกล ก่อเหตุแล้วมาขึ้นรถได้รวดเร็ว สถานที่เลือกแล้ว แล้วร้านนี้ไม่มีแผงเหล็กอยู่ข้างหน้า พนักงานขายก็เป็นผู้หญิง
รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ : ในแง่การศึกษา พบว่าคนร้ายคนนี้มีพฤติกรรมแตกต่างจากการปล้นร้านทองพอสมควร แตกต่างในประเด็นที่ว่าทำไมเขาต้องยิงคน แทนที่จะเอาแต่ทองและหลบไป คดีอื่นคนร้ายเลือกยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นการข่มขู่เปิดทาง แต่กรณีนี้แตกต่างกัน หลักการเรียนการสอนตำรวจไทยและทั่วโลก บอกว่าความผิดเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์ที่คนร้ายจะก่อเหตุมี 3 อย่าง คือ สถานที่ คนร้ายเลือกแล้วว่าเป็นร้านทองออโรร่า เพราะอยู่ในห้าง ใกล้ประตูเข้า-ออก รถเวลาจอดก็ไปไม่ไกล ก่อเหตุแล้วมาขึ้นรถได้รวดเร็ว สถานที่เลือกแล้ว แล้วร้านนี้ไม่มีแผงเหล็กอยู่ข้างหน้า พนักงานขายก็เป็นผู้หญิง
การถือปืน การเดินที่ตำรวจตั้งข้อสังเกต จะช่วยเรื่องการหาตัวคนร้ายได้ง่ายขึ้นไหม ?
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : ส่วนเรื่องตัวบุคคลก็มีหลายคนสังเกตว่าการเดินแบบนี้มีความพิการของขาหรือไม่ ผมมองว่าส่วนตัวมีการเดินในลักษณะเฉพาะ ต้องดูว่าเป็นการแสดงหรือไม่ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่พอดูหลายช่วงตั้งแต่ต้นจนจบ ก็คิดว่าน่าจะมีความพิเศษในท่าการเดิน แต่ถึงขั้นขาขาดใส่ขาเทียมหรือไม่ คงไม่ เพราะตอนกระโดดขึ้นใช้ขาข้างขวาเป็นตัวค้ำ คนสงสัยว่าขาซ้ายพิการหรือไม่ แต่ถ้าดูภาพที่ยืน ขาข้างหนึ่งอยู่ที่ตู้กระจกใส่ทอง อีกข้างกางขา ถ้าเป็นขาเทียมจะรับน้ำหนักแรงเฉียงไม่ได้ อาจมีความบกพร่อง ไม่ใช่ขาเทียม
รู้ปืนหมดแล้วว่าเป็นอะไร จะช่วยตามหาคนร้ายได้แค่ไหน ?
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : ช่วยได้มากเลยครับ แต่เหมือนที่บอก ระบบบ้านเรามีการบันทึกร่องรอยหัวกระสุนและปลอกกระสุนในระบบ เป็นระบบที่ใช้เป็นอัตโนมัติ คัดกรองได้ ถ้าปืนที่ลงทะเบียนปี 2535 เราเริ่มมีแล้ว แต่อาจลงทะเบียนไม่ครบถ้วนในปืนใหม่ แต่ปี 2550 กว่า เริ่มลงทะเบียน ถ้าเป็นปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายและลงทะเบียน พวกนี้จะมีการทดสอบยิงและเก็บร่องรอย ถ้าวันนี้ไปเก็บหัวกระสุนมาก็จะสามารถหาผู้ครอบครองได้ และตามได้ง่ายขึ้น
ภาพจาก รายการ "เรื่องลับมาก (no censor)"
โฟนอินสัมภาษณ์ "พ่อน้องไทตัล" ตอนนั้นพ่อไม่ได้อยู่ด้วย แล้วได้รับการแจ้งข่าวอย่างไร ?
น้องเสียทันทีหรือที่โรงพยาบาล ?
เป็นลูกคนเดียวไหม ?
พ่อ : ผมมีลูกผู้ชายอีกคนกับแฟนเก่าครับ
ภาพจาก รายการ "เรื่องลับมาก (no censor)"
วางแผนชีวิตหลังจากนี้อย่างไร ?
อยากรู้ว่าคนร้ายถ้าประสงค์ทรัพย์ ในแง่ต้องฆ่ามากขนาดนั้น แรงจูงใจคืออะไร ?
มีรายหนึ่งที่เหมือนเขาจะยิง แต่ไม่ยิง อันนั้นแสดงอะไร ?
รถไม่มีทะเบียน ทำให้ยากที่จะตามไหม ?
ตอนนี้ถ้าคนร้ายเห็นข่าว มีแรงจูงใจเอาหลักฐานไปเผาไหม ?
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : ตอนนี้คงพุ่งเป้าไปที่นิติวิทยาศาสตร์ ในแนวทางปัจจุบันก็เป็นเรื่องสืบสวนสอบสวน ปูพรมหาตัวผู้ต้องสงสัย นิติวิทยาศาสตร์ไปช่วยในการยืนยันตัวผู้กระทำความผิด ถ้าพบปืนก็เอามายืนยันว่าเป็นปืนที่เขาใช้กระทำความผิดจริง ถ้าพบเสื้อผ้าก็เอามายืนยัน แต่ถ้าไม่มีก็ต้องหาอัตลักษณ์อื่น ๆ มายืนยัน ปัจจุบันคนคิดว่าชุดพวกนี้จะใช้สืบค้นไปถึงตัวคนร้ายได้หรือไม่ ผมว่าเป็นแนวทางสืบสวนสอบสวน ว่าชุดแบบนี้หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง ก็เป็นแนวทางการสืบสวนสอบสวนมากกว่า ตัวยืนยันเอาขึ้นศาลให้ศาลตัดสิน ตรงนั้นจะเหลืออะไรบ้างที่เอามายืนยันทางนิติวิทยาศาสตร์
ภาพจาก รายการ "เรื่องลับมาก (no censor)"
ข่าวบอกว่าน้องผู้หญิงโดนยิงซ้ำ อันนี้มันบอกสภาพจิตใจหรือประสงค์อะไร ?
มีผู้ชายคนหนึ่งเล่าเป็นฉาก ๆ เห็นจอดรถผิดที่ แต่งตัวแบบนั้น เขาบอกถ้าเขามาคนเดียวอาจติดตามอะไรต่าง ๆ ไป ในแง่ลักษณะคนที่เห็นการก่ออาชญากรรม ใครควรเข้าไป ไม่ควรเข้าไป สภาพจิตใจคนไปยุ่งเกี่ยวเป็นยังไง ?
รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ : เป็นคำถามที่ดีมากนะครับ เราเรียกว่าเป็นการถอดบทเรียนเป็นประสบการณ์สำหรับคนไทยด้วยกัน ถ้าเกิดเหตุกรณีนี้เราจะทำอย่างไร อันดับแรก ผู้ชายที่เห็นคนร้ายจอดรถแล้วเดินเข้ามา ต้องแจ้งตำรวจก่อนเลย เพราะธรรมชาติมนุษย์ มาห้างตอนห้างจะปิด ทำไมต้องจอดตรงทางเข้า-ออก ประการต่อมา ใส่หมวกไหมพรม ประการต่อมา ถืออาวุธปืน ไม่ปกติแล้ว ประการต่อมา ที่เราประสานกับ รปภ. ได้ แต่ไม่ถึงกับใจกล้าเอารถไปชน ไปขวาง มันก็สุ่มเสี่ยงเกิน
ภาพจาก รายการ "เรื่องลับมาก (no censor)"
มีผลกับการที่หาพยานไปช่วยสืบไหม ?
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : คดีนี้ผ่านมาหลายวัน ข้อมูลเป็นการต่อจิ๊กซอว์ทั้งสิ้น
จะจับคนร้ายได้ไหม ?
รศ. นพ.วีระศักดิ์ : ผมว่ายากแต่ไม่เกินความสามารถ เพราะระดมกำลังลงไปดูแลเรื่องสืบสวนสอบสวนทั้งหมด คดีนี้ก็เป็นกรณีศึกษา น่าจะไม่ง่าย แต่ต้องได้ ทุกคนก็สงสัยว่าแรงจูงใจคืออะไรกันแน่ อาจเป็นบางอย่างเป็นกรณีศึกษาที่เกิดขึ้น ทำให้เราวางแนวทางป้องกันที่อาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำในอนาคตได้
ภาพจาก รายการ "เรื่องลับมาก (no censor)"
ภาพจาก รายการ "เรื่องลับมาก (no censor)"
ภาพจาก รายการ "เรื่องลับมาก (no censor)"