นายศรีสุวรรณ จรรยา เผย 3 ข้อดี ที่คนไทยจะได้เห็น หากรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ยุบพรรคอนาคตใหม่ มั่นใจคนไทยจะสามัคคี และไม่มีการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง
จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่
เนื่องจากผู้ร้องเห็นว่าพรรคมีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยมีสัญลักษณ์พรรคคล้ายสมาคมอิลลูมินาติ (Illuminati)
ซึ่งอยู่เบื้องหลังการล้มล้างการปกครองระบอบกษัตริย์ของหลาย ๆ
ประเทศในยุโรป โดยศาลได้นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 21 มกราคม 2563 นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (18 มกราคม 2563) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา กล่าวถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า หากศาลมีคำวินิจฉัยให้มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ จะเกิดผลดีตามมา เช่น จะไม่มีการแบ่งแยกวัยในสังคมเหมือนปัจจุบัน เพราะจะไม่มีคนยุแยง ทำให้สังคมไทยมีความสามัคคีมากขึ้น และจะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่สถาบันพระมหากษัตริย์ จะถูกปกป้องโดยศาลและประชาชน ที่จะมิให้ผู้ใดนำมาเป็นเครื่องมือกล่าวหาในทางการเมืองอีกต่อไป
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (18 มกราคม 2563) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา กล่าวถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า หากศาลมีคำวินิจฉัยให้มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ จะเกิดผลดีตามมา เช่น จะไม่มีการแบ่งแยกวัยในสังคมเหมือนปัจจุบัน เพราะจะไม่มีคนยุแยง ทำให้สังคมไทยมีความสามัคคีมากขึ้น และจะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่สถาบันพระมหากษัตริย์ จะถูกปกป้องโดยศาลและประชาชน ที่จะมิให้ผู้ใดนำมาเป็นเครื่องมือกล่าวหาในทางการเมืองอีกต่อไป
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ ยกตัวอย่างผลต่อสังคมไทย หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ มี 3 ประการ ดังนี้...
1. การยุบพรรคอนาคตใหม่ จะทำลายความหวังและความฝันของคณะกรรมการบริหารพรรคนี้ทั้งหมด เพราะต้องถูกเว้นวรรคทางการเมืองไปหลายปี ส.ส. และนักการเมืองในพรรค จะมีโอกาสขึ้นมานำพรรคได้บ้าง และทำให้นักการเมืองระมัดระวังตนเองมากขึ้นไม่ให้ซ้ำรอยเดิม
2. เกิดความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในชาติ ไม่มีใครมายุแยงแบ่งแยกกันของช่วงวัย ช่วงอายุของคนในสังคม เกิดการผสมผสานระหว่างวัยมากขึ้น หรือที่เรียกว่า "Combination of ages" ที่จะลดความแตกแยกขัดแย้งกันลงมาได้
3. ที่สำคัญที่สุด นี่จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่สถาบันพระมหากษัตริย์ จะถูกปกป้องโดยศาลและประชาชน ที่จะมิให้ผู้ใดนำมาเป็นเครื่องมือกล่าวหาในทางการเมือง ทำให้กลุ่มคนจำนวนมากในสังคมที่เคารพรัก เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้คลายความกังวลลงอย่างมาก นี่คือผลดีที่บางคนไม่รู้ตัว หรืออาจรู้แต่ไม่สนใจก็ได้