อนุทิน แจงแล้ว หลังปรี๊ดแตก ไล่ฝรั่งออกนอกประเทศ เหตุไม่ให้ความร่วมมือ ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันไวรัสโคโรนาที่กำลังระบาด
ภาพจาก สำนักข่าว INN
จากกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ให้สัมภาษณ์ถึงนักท่องเที่ยวที่ปฏิเสธรับหน้ากากอนามัยไปใส่
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรป ถึงขั้นไล่ให้กลับประเทศ
จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์นั้น
อ่านข่าว : อนุทิน ปรี๊ด ! ต่างชาติไม่ยอมรับหน้ากากอนามัยไปใส่ บอกคนยุโรปนี่มันน่านัก
ล่าสุด (7 กุมภาพันธ์ 2563) นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ระบุว่า ตนขออภัยที่มีอาการหลุดใส่ชาวต่างชาติแถบยุโรปบางคน ที่แสดงอาการรังเกียจคนไทย ที่ใส่หน้ากากอนามัย และไม่ร่วมมือในการใส่หน้ากาก ในขณะที่กำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศไทย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อนุทิน ชาญวีรกูล
อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน เผยอีกว่า เราไม่สามารถรู้ได้ว่า
คนต่างชาติคนนั้นมาจากประเทศไหน ก่อนมาประเทศไทย
และมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน โดยการให้เกียรติ
และให้ความร่วมมือในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
คือสิ่งที่เราคาดหวัง ไม่ใช่การปัดมือ และมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม
ดังเช่นที่ตนและคณะกระทรวงสาธารณสุขได้รับในวันนี้
ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้กล่าวขอบคุณ และขออภัยชาวต่างชาติทุกคน ที่ให้ความร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
ภาพจาก สำนักข่าว INN
สำหรับข้อความทั้งหมดที่ นายอนุทิน โพสต์ชี้แจง มีดังนี้
"เราพยายามทำงานกันเต็มที่ และสุดความสามารถ ณ ขณะนี้ เราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าหลาย ๆ ประเทศ เพราะเราตื่นตัวก่อน และทำงานจริงจังตั้งแต่เริ่มต้น การที่เราควบคุมสถานการณ์ได้เป็นที่น่าพอใจ และได้รับคำชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เพราะคนไทยมีความตื่นตัว ให้ความร่วมมือ และเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเอง รวมทั้งให้ความร่วมมือที่จะหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ตามที่กระทรวงสาธารณสุขให้คำแนะนำเป็นอย่างดี
ประเด็นสำคัญที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษคือ สื่อมวลชน ที่นำเสนอข่าวด้วยดุลพินิจที่ดี ทำให้ประชาชนที่ติดตามข้อมูลข่าวสาร มีความเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นจริง ด้วยความถูกต้อง รวมทั้งประชาชนส่วนใหญ่ที่ช่วยกันหยุดการแพร่กระจายข่าวปลอม หรือ เฟกนิวส์ ที่ทำให้สถานการณ์สับสน และแย่กว่าความเป็นจริง
แม้เราจะทำได้ดีในช่วงที่ผ่านมา แต่เราต้องทำให้ดีขึ้น และต้องไม่ประมาท เพื่อความปลอดภัยของประชาชนคนไทย และทุกชีวิตที่อยู่ในประเทศไทย ความร่วมมือกันของทุก ๆ ฝ่าย โดยเฉพาะภาคประชาชน และการตั้งรับสถานการณ์อย่างมีสติ จะทำให้เราฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้ อย่างเข้มแข็ง
กระทรวงสาธารณสุข จะทำงานหนัก และทำงานมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน สำหรับคนที่กำลังเอาเปรียบ และค้ากำไรจากการกักตุน ขึ้นราคาหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ จนทำให้ประชาชนเดือดร้อน ถ้าท่านคิดว่าการมีความสุขบนความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อนร่วมชาติ เป็นเรื่องที่ควรทำ และไม่ละอายใจ ก็เชิญทำต่อไป ผมเก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว วันหนึ่ง เราคงได้คิดบัญชีกัน
ป.ล. ขออภัย ที่วันนี้ มีอาการ "หลุด" ใส่ชาวต่างชาติแถบยุโรปบางคน ที่แสดงอาการรังเกียจ คนไทยใส่มาสก์และไม่ร่วมมือในการใส่มาสก์ ในขณะที่พวกเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา ในประเทศไทย
เราไม่สามารถรู้ได้ว่า คนต่างชาติคนนั้นมาจากประเทศไหน ก่อนมาประเทศ ไทย และ มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน การให้เกียรติและให้ความร่วมมือการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค คือ สิ่งที่เราคาดหวัง ไม่ใช่การปัดมือ และมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม เช่นที่ผมและคณะกระทรวงสาธารณสุขได้รับวันนี้
ขอขอบคุณ และขออภัยชาวต่างชาติทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาดแล้ว"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อนุทิน ชาญวีรกูล
ภาพจาก สำนักข่าว INN
อ่านข่าว : อนุทิน ปรี๊ด ! ต่างชาติไม่ยอมรับหน้ากากอนามัยไปใส่ บอกคนยุโรปนี่มันน่านัก
ล่าสุด (7 กุมภาพันธ์ 2563) นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ระบุว่า ตนขออภัยที่มีอาการหลุดใส่ชาวต่างชาติแถบยุโรปบางคน ที่แสดงอาการรังเกียจคนไทย ที่ใส่หน้ากากอนามัย และไม่ร่วมมือในการใส่หน้ากาก ในขณะที่กำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศไทย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อนุทิน ชาญวีรกูล
ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้กล่าวขอบคุณ และขออภัยชาวต่างชาติทุกคน ที่ให้ความร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
ภาพจาก สำนักข่าว INN
"เราพยายามทำงานกันเต็มที่ และสุดความสามารถ ณ ขณะนี้ เราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าหลาย ๆ ประเทศ เพราะเราตื่นตัวก่อน และทำงานจริงจังตั้งแต่เริ่มต้น การที่เราควบคุมสถานการณ์ได้เป็นที่น่าพอใจ และได้รับคำชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เพราะคนไทยมีความตื่นตัว ให้ความร่วมมือ และเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเอง รวมทั้งให้ความร่วมมือที่จะหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ตามที่กระทรวงสาธารณสุขให้คำแนะนำเป็นอย่างดี
ประเด็นสำคัญที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษคือ สื่อมวลชน ที่นำเสนอข่าวด้วยดุลพินิจที่ดี ทำให้ประชาชนที่ติดตามข้อมูลข่าวสาร มีความเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นจริง ด้วยความถูกต้อง รวมทั้งประชาชนส่วนใหญ่ที่ช่วยกันหยุดการแพร่กระจายข่าวปลอม หรือ เฟกนิวส์ ที่ทำให้สถานการณ์สับสน และแย่กว่าความเป็นจริง
แม้เราจะทำได้ดีในช่วงที่ผ่านมา แต่เราต้องทำให้ดีขึ้น และต้องไม่ประมาท เพื่อความปลอดภัยของประชาชนคนไทย และทุกชีวิตที่อยู่ในประเทศไทย ความร่วมมือกันของทุก ๆ ฝ่าย โดยเฉพาะภาคประชาชน และการตั้งรับสถานการณ์อย่างมีสติ จะทำให้เราฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้ อย่างเข้มแข็ง
กระทรวงสาธารณสุข จะทำงานหนัก และทำงานมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน สำหรับคนที่กำลังเอาเปรียบ และค้ากำไรจากการกักตุน ขึ้นราคาหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ จนทำให้ประชาชนเดือดร้อน ถ้าท่านคิดว่าการมีความสุขบนความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อนร่วมชาติ เป็นเรื่องที่ควรทำ และไม่ละอายใจ ก็เชิญทำต่อไป ผมเก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว วันหนึ่ง เราคงได้คิดบัญชีกัน
ป.ล. ขออภัย ที่วันนี้ มีอาการ "หลุด" ใส่ชาวต่างชาติแถบยุโรปบางคน ที่แสดงอาการรังเกียจ คนไทยใส่มาสก์และไม่ร่วมมือในการใส่มาสก์ ในขณะที่พวกเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา ในประเทศไทย
เราไม่สามารถรู้ได้ว่า คนต่างชาติคนนั้นมาจากประเทศไหน ก่อนมาประเทศ ไทย และ มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน การให้เกียรติและให้ความร่วมมือการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค คือ สิ่งที่เราคาดหวัง ไม่ใช่การปัดมือ และมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม เช่นที่ผมและคณะกระทรวงสาธารณสุขได้รับวันนี้
ขอขอบคุณ และขออภัยชาวต่างชาติทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาดแล้ว"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อนุทิน ชาญวีรกูล