เจอตัวแล้ว เจ้าบ่าวหนีงานแต่ง เปิดใจสินสอดมีแค่ 2 หมื่น ขอให้เลื่อนงานไปแล้ว แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม เลยหนีงานแต่ง ยังรักเหมือนเดิม แต่ด้านเจ้าสาวขอปิดประตูหัวใจ ไม่อาจกลับไปรักได้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณี สาวพบรักกับหนุ่มในเฟซบุ๊ก รู้จักกันได้ 4 เดือน ก่อนตกลงปลงใจแต่งงานกัน สุดท้ายฝ่ายชายเบี้ยวขันหมาก สินสอด 1 แสน ทอง 10 บาท ซึ่งเจ้าสาวเสียเงินค่าจัดงานไปกว่า 7 หมื่นบาท ฝากชายบอกเพียงว่าขอโทษ และไม่มีคำอธิบายใด ๆ ทำฝ่ายหญิงช้ำใจอย่างมาก แถมอับอายอีกด้วย
อ่านข่าว : สาวสุดช้ำ พบรักในเฟซบุ๊ก 4 เดือน ตกลงปลงใจแต่งงาน เจอเบี้ยวขันหมาก สูญ 7 หมื่นฟรี
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
ล่าสุด (29 มิถุนายน 2563) สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายเอ็ม เจ้าบ่าว อายุ 32 ปี กำลังเดินทางกลับบ้านที่ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า สาเหตุที่หนีงานแต่งเพราะมีเงินสดอยู่เพียง 20,000 บาท ไม่เพียงพอค่าสินสอด อีกทั้งครอบครัวก็ยังไม่พร้อม ตนอยากให้เลื่อนจัดงานไปก่อน ฝ่ายหญิงไม่ยินยอม ซึ่งตนยอมรับความผิดทุกอย่าง ยังรักเหมือนเดิม และอยากขอโอกาสฝ่ายหญิงอีกสักครั้ง โดยขณะนี้กำลังพูดคุยกับครอบครัวว่าจะเข้าไปขอขมาบ้านฝ่ายหญิงในเร็ววันนี้ ยืนยันว่าไม่คิดจะหนี พร้อมฝากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สำหรับประวัติของเจ้าบ่าว เคยทำงานเป็นเชฟอยู่โรงแรมในตัวเมืองโคราช นาน 4 ปี หลังจากเจอพิษโควิด-19 จึงมาทำงานอยู่ที่โรงงานใน อ.สีคิ้ว ได้เพียง 2 เดือน ก่อนมาขอฝ่ายหญิงแต่งงานและหนีหายไป
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้านรายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความ จ.นครราชสีมา กล่าวว่า กรณีนี้ฝ่ายครอบครัวเจ้าสาวสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับฝ่ายเจ้าบ่าวได้ เพราะมีค่าเสียหายจากการจัดเตรียมงานแต่ง ทั้งจ้างโต๊ะจีน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หากฝ่ายเจ้าสาวติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย หรือไม่เข้าใจขั้นตอนการฟ้องร้องค่าเสียหาย สามารถปรึกษากับสภาทนายความ จ.นครราชสีมา พร้อมอำนวยความสะดวกโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าสาวยืนยันว่าแค่ชดใช้ค่าเสียหายเป็นตัวเงินไม่พอ ต้องมากราบขมาพ่อแม่ของเจ้าสาวด้วย หลังเกิดเหตุดังกล่าว รู้สึกหมดรัก และคงไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ส่วนการแจ้งความกับตำรวจก็เพื่อความปลอดภัย เพราะเกรงว่าฝ่ายเจ้าบ่าวจะเข้ามาข่มขู่หรือทำร้ายตนและครอบครัว