1. รู้เขารู้เรา ช้อปปิ้งร้อยครั้ง ได้ของถูกร้อยครั้ง
แม้แต่การช้อปออนไลน์ผ่านแอปฯ ต่าง ๆ ที่สะดวกสบายจนแทบจะอดใจไม่ไหว ก็ลองใช้วิธีเลือกของที่สนใจแต่อาจยังไม่จำเป็นมากนักใส่ทิ้งไว้ในตะกร้าสินค้าก่อน แล้วรอให้ถึงช่วงแคมเปญลดราคา เมื่อถูกลงจนพอใจค่อยกดสั่งซื้อ หรือเลือกที่มีโค้ดส่งฟรีก็จะช่วยให้เซฟเงินไปได้หลายบาททีเดียว
2. ใช้บัตรเครดิตให้คุ้ม
ความสุขของการใช้บัตรเครดิตไม่ใช่การนำไปรูดซื้อของที่อยากได้แบบไม่คิดชีวิต แต่หมายถึงการใช้สิทธิพิเศษของบัตรเครดิตให้เป็นประโยชน์ ให้ได้ของสิ่งนั้นมาอย่างคุ้มค่าที่สุด เช่น
- เลือกใช้ให้ถูกใบ เพราะบางบัตรจะมีส่วนลดพิเศษที่ผูกกับห้างร้านและบริการต่าง ๆ เอาไว้ ก่อนรูดก็ลองสอบถามจากพนักงาน และศึกษาให้ดีทุกครั้ง
- เลือกซื้อของด้วยการใช้พอยต์ที่มีอยู่แทนการใช้เงินสด
- รูดเพื่อเก็บแต้มสะสมแล้วนำไปแลกเป็นเครดิตเงินคืนเข้าบัญชี ส่วนลด
- เลือกผ่อน 0% เพื่อลดการจ่ายเงินสดก้อนโต
- เลือกบัตรที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี เพราะบางบัตรหากใช้ไม่ถึงเป้า เรียกเก็บขึ้นมาสักทีบอกเลยว่า อ่วม !
และที่สำคัญคือ ใช้เท่าที่สามารถจ่ายคืนได้ และตั้งเป้าจ่ายเต็มจำนวนให้ได้ในทุก ๆ เดือน เพื่อไม่ให้เกิดดอกเบี้ยโดยไม่จำเป็น
3. เปลี่ยนวิธีการเดินทางไปทำงาน
ค่าเดินทางถือเป็นค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่พนักงานออฟฟิศหลายคนต้องเจอ บางคนขึ้นหลายต่อ รวม ๆ แล้วเดือนนึงก็ไม่ใช่น้อย แม้แต่ขับรถยนต์เอง ค่าน้ำมันก็น่าจะหนักหนาอยู่ ยิ่งถ้าเจอปัญหารถติดด้วยไม่ต้องพูดถึง เรียกว่าเสียทั้งเงินและเวลา ดังนั้น ลองหันมาเปลี่ยนวิธีการที่จะช่วยให้ประหยัดมากขึ้นกันดีกว่า อย่างการปั่นจักรยานไปทำงาน หากระยะทางไม่ไกลนักก็น่าสน เพราะได้ออกกำลังกายไปในตัว หรือการลงทุนซื้อมอเตอร์ไซค์ฟีเจอร์ครบ ๆ คุ้ม ๆ ดี ๆ สักคัน ก็จะช่วยประหยัดน้ำมัน ลดค่าเดินทาง แถมถึงที่หมายได้เร็วขึ้น และยังสามารถนำไปต่อยอดหารายได้เสริมได้อีกด้วย เช่น เช้าขี่ไปทำงาน ตอนเย็นแวะทำในสิ่งที่ใช่ และเสาร์-อาทิตย์รับจ๊อบส่งของ-อาหารเดลิเวอรี่ได้ หากใครสนใจขอแนะนำเป็น Yamaha Grand Filano Hybrid คันนี้เลย เพราะนอกจากฟีเจอร์เยอะแล้ว ยังสามารถใส่ของได้จุใจ นี่แหละคือคำตอบของความคุ้มค่า ถ้าไม่มีเงินเหลือเก็บก็ให้มันรู้ไป สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Yamaha Grand Filano Hybrid
4. สร้างเงินจากงานอดิเรก-ทักษะเฉพาะตัว
ในยุคนี้การมีเงินเข้ามาจากหลาย ๆ แหล่งถือเป็นความคิดที่ดี ลองถามตัวเองในกระจกให้ดีว่า จริง ๆ แล้วเราชอบอะไร มีความสามารถพิเศษอะไรที่พอจะเปลี่ยนให้กลายเป็นงานที่สร้างรายได้เพิ่มได้ เช่น
- มีความสุขกับการกิน กินเมนูเดิมซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ก็ลองแกะสูตรทำขายดู อาจเริ่มจากการขายที่ตลาดนัดแถวบ้านก่อนได้
- ชอบถ่ายรูป อาจหาช่องทางรับถ่ายภาพอาหาร-สินค้าให้กับคนรู้จักที่มีธุรกิจ เพจเล็ก ๆ โดยเริ่มต้นในราคาเบา ๆ หรือนำภาพที่ถ่ายไปขายออนไลน์ได้
- มีทักษะด้านภาษา สามารถเปิดคอร์สสอนภาษารูปแบบต่าง ๆ ผ่านโปรแกรมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ต่าง ๆ
- รักการท่องเที่ยวและมีสกิลการถ่ายรูป ก็ผันตัวมาเป็นยูทูบเบอร์ บล็อกเกอร์ ทำ Vlog ที่มีคอนเทนต์น่าสนใจเพื่อสร้างเงินจากยอดวิว
5. เริ่มลงทุน
การเห็นเงินในบัญชีเติบโตเป็นความสุขที่ใคร ๆ ก็อยากมี ในวัยทำงานคงจะเคยได้ยินคำว่า “ควรปล่อยให้เงินทำงานแทนเรา” อยู่บ้าง มือใหม่ที่ไม่มีความรู้มากนัก อาจจะเริ่มลงทุนง่าย ๆ ความเสี่ยงไม่สูง มีดอกเบี้ย ได้ลุ้นถูกรางวัล อย่างการซื้อสลากออมสิน สลากออมทรัพย์ เริ่มศึกษากองทุนรวมต่าง ๆ ที่ได้ผลตอบแทนระยะยาว ลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งการลงทุนเหล่านี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ในมือถือ เมื่อมีความรู้มากพอแล้วก็ขยับไปสู่การลงทุนที่เสี่ยงขึ้น เปลี่ยนการลงทุนให้เป็นความสุขได้ในอนาคต
6. ขายของมือสอง
7. ทำอาหารกินเองสลับกับสั่งแอปพลิเคชัน
ค่าใช้จ่ายที่หมดไปกับการกินในแต่ละวัน รวมแล้วเดือนนึงมีมูลค่าสูงไม่ใช่เล่น ไหนจะค่าเครื่องดื่มหรือขนมจุบจิบที่ขาดไม่ได้ ลองหันมาใส่ใจการทำอาหารกินเองดูบ้างก็คงจะดีไม่น้อย อย่างการซื้อวัตถุดิบสำหรับ 1 สัปดาห์มาเตรียมไว้ แล้วทำใส่กล่องไปกินที่ออฟฟิศ ก็ช่วยประหยัดค่าอาหารแต่ละมื้อได้ หรือถ้ากลัวจะเบื่อและต้องการความหลากหลาย ก็ลองสลับกับการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่มักจะมีโปรโมชั่นรายวันได้ โดยเลือกร้านที่มีโปรฯ ดี ค่าส่งถูก หรือสั่งพร้อมกับเพื่อน ๆ เพื่อแชร์ค่าส่งให้ถูกลงไปอีก รวมถึงแอดไลน์ร้านอาหารต่าง ๆ เพื่อรอรับโปรโมชั่นในแต่ละวัน แล้วเลือกสั่งเมนูที่ดีและคุ้มค่ากับเราที่สุดนั่นเอง