ผลสอบเบื้องต้น เภสัชกรหญิง ตายปริศนาหลังเอกซเรย์ หมอไม่รู้ว่าตั้งครรภ์ เหตุช่วงต้นเดือนยังมีประจำเดือนมาอยู่ รวมถึงมีประวัติปวดท้องหน่วงกับแสบเวลาปัสสาวะ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งสอบหาสาเหตุที่แท้จริง
จากกรณีที่หมอฟันรายหนึ่ง แถลงว่าภรรยาเภสัชกร ซึ่งปวดท้องน้อย ต้องเอกซเรย์ด้วยอุโมงค์ CT Scan ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซ้ำยังพบว่า ภรรยาตั้งท้อง 6 สัปดาห์ เสียทั้งแม่และลูก ทว่าทางโรงพยาบาลกลับไม่มีแม้แต่คำขอโทษ แค่ช่วยพวงหรีด 2 พวงเท่านั้น ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
อ่านข่าว : หมอฟัน แถลงภรรยาเภสัช ตายหลังเข้าอุโมงค์ CT Scan - รพ. ไม่มีแม้คำขอโทษ
ล่าสุดวันที่ 1 ตุลาคม 2563 สำนักข่าวไทย รายงานว่า นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม
สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวว่า
ตอนนี้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
โดยตรวจมาตรฐานของโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา ทางแพทย์ได้มีการขอประวัติผู้ป่วย เอกสารทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับพยาบาล เบื้องต้นพบว่า แพทย์พบผู้เสียชีวิต มีประวัติการปวดหน่วงท้อง และแสบเวลาปัสสาวะ มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อต้นเดือนกันยายน 2563 จึงเชื่อว่าไม่มีการตั้งครรภ์ รวมถึงไม่มีประวัติการแพ้ยา และอาหารใด ๆ จึงดำเนินการส่งตรวจ CT Scan
หลังจากนี้ กรม สบส. จะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการการตรวจสอบข้อเท็จจริง และแพทยสภาตรวจสอบมาตรฐานการรักษา เพื่อให้กระจ่างในสาเหตุการตาย และคลายข้อสงสัยฝ่ายญาติว่า มีการช่วยเหลือผู้ป่วยตามมาตรฐานหรือไม่ หากพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ก็จะดำเนินการด้านจริยธรรมกับแพทย์และผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
จากกรณีที่หมอฟันรายหนึ่ง แถลงว่าภรรยาเภสัชกร ซึ่งปวดท้องน้อย ต้องเอกซเรย์ด้วยอุโมงค์ CT Scan ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซ้ำยังพบว่า ภรรยาตั้งท้อง 6 สัปดาห์ เสียทั้งแม่และลูก ทว่าทางโรงพยาบาลกลับไม่มีแม้แต่คำขอโทษ แค่ช่วยพวงหรีด 2 พวงเท่านั้น ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
อ่านข่าว : หมอฟัน แถลงภรรยาเภสัช ตายหลังเข้าอุโมงค์ CT Scan - รพ. ไม่มีแม้คำขอโทษ
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา ทางแพทย์ได้มีการขอประวัติผู้ป่วย เอกสารทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับพยาบาล เบื้องต้นพบว่า แพทย์พบผู้เสียชีวิต มีประวัติการปวดหน่วงท้อง และแสบเวลาปัสสาวะ มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อต้นเดือนกันยายน 2563 จึงเชื่อว่าไม่มีการตั้งครรภ์ รวมถึงไม่มีประวัติการแพ้ยา และอาหารใด ๆ จึงดำเนินการส่งตรวจ CT Scan
หลังจากนี้ กรม สบส. จะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการการตรวจสอบข้อเท็จจริง และแพทยสภาตรวจสอบมาตรฐานการรักษา เพื่อให้กระจ่างในสาเหตุการตาย และคลายข้อสงสัยฝ่ายญาติว่า มีการช่วยเหลือผู้ป่วยตามมาตรฐานหรือไม่ หากพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ก็จะดำเนินการด้านจริยธรรมกับแพทย์และผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ