กลุ่มวัยรุ่นนับร้อยคน ขนพวกตะลุมบอนกันยับกลางงานคอนเสิร์ต ศาลหลักเมือง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ สาดกระสุนว่อนถูกคนสาหัส 1 ราย พ่อค้า-ประชาชน วิ่งหนีตายอลหม่าน
ภาพจาก ทวิตเตอร์ เจ๊ม้อยv+
โลกออนไลน์แชร์ว่อน คลิปกลุ่มวัยรุ่นนับ 100 คน ไล่ตะลุมบอนดุเดือด ก่อนสาดกระสุนใส่แบบไม่ยั้ง กลางงานศาลหลักเมือง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ภายหลังมีคนถูกยิงขา 1 ราย ขณะที่เจ้าของร้านขนมหม้อแกงดัง หวิดโดนลูกหลง
วันที่ 31 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ได้แชร์คลิปภาพเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก ยกพวกตีกันกลางงานศาลหลักเมือง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ โดยทั้งสองฝั่งต่างวิ่งตะลุมบอนเข้าชกต่อยกันอย่างชุลมุน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบเข้าระงับเหตุ ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทางผู้จัดงานจำเป็นต้องประกาศให้ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า ระมัดระวังเหตุการณ์เอาเองเนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมกลุ่มวัยรุ่นได้
วันที่ 31 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ได้แชร์คลิปภาพเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก ยกพวกตีกันกลางงานศาลหลักเมือง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ โดยทั้งสองฝั่งต่างวิ่งตะลุมบอนเข้าชกต่อยกันอย่างชุลมุน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบเข้าระงับเหตุ ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทางผู้จัดงานจำเป็นต้องประกาศให้ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า ระมัดระวังเหตุการณ์เอาเองเนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมกลุ่มวัยรุ่นได้
ภาพจาก One31
ความคืบหน้าล่าสุดของเรื่องนี้ เดลินิวส์ รายงานว่า นายณัชพล หล้าล้ำจำรัสกุล อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยว่า ตนกับเพื่อนหลายคนมาเที่ยวงานศาลหลักเมือง โดยระหว่างที่ดนตรีกำลังเล่นบนเวที กลุ่มวัยรุ่นต่างเต้นกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งมีวัยรุ่นสองกลุ่ม เกิดการชกต่อยกันเป็นวงเล็ก ๆ ก่อนจะลุกลามบานปลาย ซึ่งเป็นการต่อยกันแบบตะลุมบอน โดยไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ทันใดนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัด เจาะเข้าที่ขาขวาของเพื่อนตนจนล้มลง โชคยังดีมีหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปะคำ เข้ามาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลได้ทัน
ภาพจาก One31
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าค่อนข้างรุนแรง เพราะปกติวัยรุ่นจะแค่ตีกันภายในงาน ไม่เคยลุกลามไล่ฆ่ากันขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่ร้านถูกยิง จึงอยากถามหาความปลอดภัยจากภาครัฐและผู้จัดงาน ว่าทำไมถึงปล่อยให้มีเหตุการณ์เช่นนี้ได้ ที่ผ่านมาตนไปงานลักษณะนี้มาแล้วทั่วประเทศ ไม่เคยปล่อยให้มีเหตุรุนแรงเช่นนี้มาก่อน
ภาพจาก One31
ภาพจาก ทวิตเตอร์ เจ๊ม้อยv+
ภาพจาก ทวิตเตอร์ เจ๊ม้อยv+
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์