สาววัย 45 ปี ร้องสื่อ เจอตำรวจเก๊มาหลอกให้รัก แถมมาสู่ขอจริงจังต่อหน้าพ่อ-แม่ จนหลงมีเพศสัมพันธ์ด้วย พอเปิดตัวลงโซเชียลกลับโป๊ะแตก เจอสาวอื่นมาเตือนบอกชายคนนี้หลอกไปทั่ว พอทักไปถามเจ้าตัวกลับเจอส่งคลิปโป๊แถมขู่เอาเงิน
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ช่อง 3 รายงานว่า มีหญิงอายุ 45 ปี คนหนึ่งร้องเรียนกับทีมข่าวว่าถูกชายอ้างตัวเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท ทำงานเป็นรองผู้กำกับอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 แอดเฟซบุ๊กมาขอเป็นเพื่อน ก่อนจะพูดคุยกันจนเกิดความรักและมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง แต่สุดท้ายกลับถูกหลอกแถมโดนถ่ายคลิปแบล็กเมลขู่เอาเงิน
ผู้เสียหายรายนี้เล่าว่า เมื่อต้นเดือนกันยายน 2564 ตนได้รู้จักกับชายคนนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก มีการทักมาคุย อ้างตัวว่าเป็นตำรวจชื่อ จักรพันธ์ กัณฑราบ อายุ 49 ปี เป็นรองผู้กำกับอยู่ที่ภาค 4 จังหวัดขอนแก่น โดยมีการจีบกันเรื่อยมา ส่งรูปให้ดูทุกวันว่าไปทำงานบ้าง ออกไปข้างนอกบ้าง ซึ่งจะสวมเครื่องแบบตำรวจตลอดเวลา แม้เป็นเสื้อผ้าลำลองก็มีสัญลักษณ์ตำรวจ แต่ก็ไม่เคยถ่ายให้เห็นตอนอยู่ที่ทำงานโดยอ้างว่าเป็นความลับของทางราชการ
ผู้เสียหาย ยอมรับว่าชอบชายคนนี้เพราะพูดจาดี เคยเดินทางมาหาแม่ตนบอกว่า จะทำบ้านให้ใหม่ และใช้หนี้ให้ จึงตกลงคบหากัน กระทั่งวันที่ 2 ตุลาคม 2564 ชายคนนี้ก็มาหาที่บ้านมาขอหมั้นกับพ่อ-แม่ ตกลงจะหมั้นกันวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ซึ่งตอนที่ตนเห็นตัวจริงชายคนนี้ก็พบว่าตรงปก เป็นคนเดียวกับในรูปที่คุยกันทุกอย่าง แต่สังเกตว่าค่อนข้างเตี้ย สูงไม่ถึง 160 เซนติเมตร รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมเป็นตำรวจถึงตัวเตี้ย ซึ่งในวันนั้นก็มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน
ผู้เสียหาย เล่าอีกว่า วันรุ่งขึ้นชายคนนี้ก็เดินทางกลับ ตนจึงเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นรูปที่ถ่ายคู่กัน แต่เมื่อโพสต์ไปได้ไม่นาน ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งทักมาบอกว่าคนนี้เป็นตำรวจปลอม มีพฤติกรรมหลอกผู้หญิงไปทั่ว มีผู้เสียหายเกือบ 10 ราย และมีการตั้งกลุ่มคุยกันในเฟซบุ๊กอีกด้วย พร้อมบอกว่าชายคนนี้จริง ๆ แล้วชื่อว่า "ชัยทอง"
หลังจากนั้นผู้เสียหายจึงทักไปถามความจริงกับชายคนดังกล่าว แต่อีกฝ่ายกลับส่งคลิปอนาจารขณะมีเพศสัมพันธ์กันมาให้ พร้อมข่มขู่ว่าหากเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นจะเอาคลิปไปเผยแพร่ และยังพบอีกว่าผู้เสียหายทุกคนโดนขู่เรียกเงินเหมือนกันหมดตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสน
รายงานข่าวระบุว่ามีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านหม้อ จ.สระบุรี แล้ว แต่เรื่องยังไม่คืบหน้า ส่วนผู้เสียหายอีกหลายคนก็ไม่กล้าแจ้งความเพราะอาย แต่ผู้เสียหายที่ร้องเรียนกับทีมข่าวยืนยันว่าเธอต้องการออกมาเตือนภัย ไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อ
ด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่พบการแจ้งความที่ สภ.บ้านหม้อ แต่จะตรวจสอบเพิ่มเติมในท้องที่อื่น ๆ ผู้เสียหายสามารถไปแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะปกปิดข้อมูลส่วนตัวให้อยู่แล้ว และจะสืบหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป อาจมีความผิดเรื่องขู่กรรโชกทรัพย์ การนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมเพิวเตอร์ และนำเข้าภาพลามกอนาจาร และหากพบว่าเป็นตำรวจจริงก็จะมีโทษทางวินัยด้วย
พ.ต.อ. กฤษณะ ระบุอีกว่า ตนเข้าใจว่าบางคนที่ไม่กล้าแจ้งความเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นเหยื่อในเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ แต่ถ้าไม่แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงจะไม่ทราบว่าเกิดความผิดขึ้น เมื่อไม่ทราบแล้วจะไปเอาความผิดกับใครได้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ช่อง 3 รายงานว่า มีหญิงอายุ 45 ปี คนหนึ่งร้องเรียนกับทีมข่าวว่าถูกชายอ้างตัวเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท ทำงานเป็นรองผู้กำกับอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 แอดเฟซบุ๊กมาขอเป็นเพื่อน ก่อนจะพูดคุยกันจนเกิดความรักและมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง แต่สุดท้ายกลับถูกหลอกแถมโดนถ่ายคลิปแบล็กเมลขู่เอาเงิน
ผู้เสียหายรายนี้เล่าว่า เมื่อต้นเดือนกันยายน 2564 ตนได้รู้จักกับชายคนนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก มีการทักมาคุย อ้างตัวว่าเป็นตำรวจชื่อ จักรพันธ์ กัณฑราบ อายุ 49 ปี เป็นรองผู้กำกับอยู่ที่ภาค 4 จังหวัดขอนแก่น โดยมีการจีบกันเรื่อยมา ส่งรูปให้ดูทุกวันว่าไปทำงานบ้าง ออกไปข้างนอกบ้าง ซึ่งจะสวมเครื่องแบบตำรวจตลอดเวลา แม้เป็นเสื้อผ้าลำลองก็มีสัญลักษณ์ตำรวจ แต่ก็ไม่เคยถ่ายให้เห็นตอนอยู่ที่ทำงานโดยอ้างว่าเป็นความลับของทางราชการ
ผู้เสียหาย ยอมรับว่าชอบชายคนนี้เพราะพูดจาดี เคยเดินทางมาหาแม่ตนบอกว่า จะทำบ้านให้ใหม่ และใช้หนี้ให้ จึงตกลงคบหากัน กระทั่งวันที่ 2 ตุลาคม 2564 ชายคนนี้ก็มาหาที่บ้านมาขอหมั้นกับพ่อ-แม่ ตกลงจะหมั้นกันวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ซึ่งตอนที่ตนเห็นตัวจริงชายคนนี้ก็พบว่าตรงปก เป็นคนเดียวกับในรูปที่คุยกันทุกอย่าง แต่สังเกตว่าค่อนข้างเตี้ย สูงไม่ถึง 160 เซนติเมตร รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมเป็นตำรวจถึงตัวเตี้ย ซึ่งในวันนั้นก็มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน
ผู้เสียหาย เล่าอีกว่า วันรุ่งขึ้นชายคนนี้ก็เดินทางกลับ ตนจึงเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นรูปที่ถ่ายคู่กัน แต่เมื่อโพสต์ไปได้ไม่นาน ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งทักมาบอกว่าคนนี้เป็นตำรวจปลอม มีพฤติกรรมหลอกผู้หญิงไปทั่ว มีผู้เสียหายเกือบ 10 ราย และมีการตั้งกลุ่มคุยกันในเฟซบุ๊กอีกด้วย พร้อมบอกว่าชายคนนี้จริง ๆ แล้วชื่อว่า "ชัยทอง"
หลังจากนั้นผู้เสียหายจึงทักไปถามความจริงกับชายคนดังกล่าว แต่อีกฝ่ายกลับส่งคลิปอนาจารขณะมีเพศสัมพันธ์กันมาให้ พร้อมข่มขู่ว่าหากเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นจะเอาคลิปไปเผยแพร่ และยังพบอีกว่าผู้เสียหายทุกคนโดนขู่เรียกเงินเหมือนกันหมดตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสน
รายงานข่าวระบุว่ามีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านหม้อ จ.สระบุรี แล้ว แต่เรื่องยังไม่คืบหน้า ส่วนผู้เสียหายอีกหลายคนก็ไม่กล้าแจ้งความเพราะอาย แต่ผู้เสียหายที่ร้องเรียนกับทีมข่าวยืนยันว่าเธอต้องการออกมาเตือนภัย ไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อ
ด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่พบการแจ้งความที่ สภ.บ้านหม้อ แต่จะตรวจสอบเพิ่มเติมในท้องที่อื่น ๆ ผู้เสียหายสามารถไปแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะปกปิดข้อมูลส่วนตัวให้อยู่แล้ว และจะสืบหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป อาจมีความผิดเรื่องขู่กรรโชกทรัพย์ การนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมเพิวเตอร์ และนำเข้าภาพลามกอนาจาร และหากพบว่าเป็นตำรวจจริงก็จะมีโทษทางวินัยด้วย
พ.ต.อ. กฤษณะ ระบุอีกว่า ตนเข้าใจว่าบางคนที่ไม่กล้าแจ้งความเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นเหยื่อในเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ แต่ถ้าไม่แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงจะไม่ทราบว่าเกิดความผิดขึ้น เมื่อไม่ทราบแล้วจะไปเอาความผิดกับใครได้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3
