ป้าป่วยติดเตียงนอนเล้าไก่ 4 ปี ขายบ้านใช้หนี้แทนญาติ พลิกจากคนเงินเดือนสูง

          เปิดชีวิต 2 ลุงกับป้า นอนในเล้าไก่ 4 ปี หลังต้องขายบ้านใช้หนี้แทนพี่สาว ป้าวัย 59 ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไม่ได้อาบน้ำ 4 ปี แพมเพิร์สใช้แล้วกองเป็นพะเนิน ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ชีวิตพลิกผันจากทำงานเงินเดือนสูง ต้องมารับจ้างหาเช้ากินค่ำ แถมลูกชายคนเดียวมาด่วนตายจาก

          วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า มีสองสามีภรรยาอาศัยอยู่ในเล้าไก่ ในบ้านไม่มีเลขที่ กลางไร่มันสำปะหลัง บ้านอ่างหินเหนือ ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา โดยผู้อาศัยคือ นางแสงทิพย์ เพื่อนเกาะ อายุ 59 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง และนายปรีชา เพื่อนเกาะ อายุ 63 ปี สามี อาศัยอยู่ในเล้าไก่ของพี่ชาย โดยนางแสงทิพย์ไม่ได้ออกไปไหนมานานกว่า 4 ปีแล้ว

          โดยหน้าห้องที่อาศัยมีแพมเพิร์สผู้ใหญ่ใช้แล้วกองพะเนินทิ้งไว้นับพันชิ้น ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งทั่วบริเวณ ภายในห้องนอนมีฟูกเก่า ๆ ปูเป็นที่นอน มีขยะวางทิ้งไว้เกลื่อนห้อง โดยนางแสงทิพย์ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตามร่างกายมีร่องรอยถูกยุงและแมลงกัดเต็มตัว มือขยับได้บางส่วน เท้าขยับไม่ได้ ดวงตามองเห็นเลือนราง พูดไม่ชัด เส้นผมเกาะตัวแข็งเป็นก้อน เนื่องจากไม่ได้อาบน้ำ-สระผมมานานกว่า 4 ปีแล้ว

          ต่อมาเจ้าหน้าที่จากเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมจังหวัดนครราชสีมา และทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ได้ช่วยกันพยุงร่างของนางแสงทิพย์ขึ้นรถเข็นออกมาจากเล้าไก่ ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารช่วยกันเก็บแพมเพิร์สใช้แล้วจำนวนมากทิ้งในถุงดำ จำนวนกว่า 20 ถุง ลำเลียงขึ้นรถบรรทุกทหารนำไปทิ้ง พร้อมทั้งทำความสะอาดห้องนอนและบริเวณโดยรอบ

          ทั้งนี้ นางแสงทิพย์ เปิดเผยว่า ตนกับสามีอยู่ในเล้าไก่แห่งนี้มานานกว่า 4 ปีแล้ว เพราะไม่มีบ้าน อาศัยเพียงเงินช่วยเหลือเบี้ยผู้พิการ เดือนละ 800 บาท และเบี้ยผู้สูงอายุของสามี เดือนละ 600 บาท ใช้ซื้ออาหารประทังชีวิตไปวัน ๆ ตนไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่และไม่ได้อาบน้ำมาตลอด 4 ปี ใช้เพียงผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเป็นบางครั้งเท่านั้น

          ด้าน นายปรีชา ผู้เป็นสามี เปิดเผยว่า อดีตตนทำงานเป็นพนักงานขับรถ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 5 นครราชสีมา เงินเดือนประมาณ 28,530 บาท โดยเมื่อปี 2541 ภรรยาประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกัน แพทย์ผ่าตัดสมองและกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง จึงนำเงินที่หามาได้ใช้จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก เมื่อตนเกษียณงานแล้วก็ต้องขายบ้านที่มีอยู่ในราคา 350,000 บาท เพื่อนำเงินไปใช้หนี้แทนพี่สาว เพราะพี่สาวเอาโฉนดที่ดินไปค้ำประกันให้เพื่อน พอเขามาทวงก็เลยต้องขายบ้าน


          ต่อมาปี 2561 ลูกชายคนเดียวก็ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ทำให้เหลือกัน 2 คน ตนต้องหารับจ้างทั่วไปหาเงินมาเลี้ยงภรรยา พอขายบ้านไปแล้วก็ไม่มีที่อยู่อาศัย จึงมาขออาศัยอยู่ในเล้าไก่ของพี่ชาย และด้วยความที่ต้องออกไปรับจ้างหาเช้ากินค่ำ ทำให้ไม่มีเวลาดูแลทำความสะอาดที่อยู่อาศัย แพมเพิร์สที่ใส่แล้วก็ทิ้งไว้หน้าห้องจนเป็นกองใหญ่

          ในแต่ละวันตนต้องวิ่งทำงาน หาซื้อข้าวให้ภรรยากินไปวัน ๆ ตอนนี้รู้สึกดีใจและขอบคุณที่มีหน่วยงานมาช่วยเหลือและทำความสะอาดบ้านให้ อย่างไรก็ตาม ตนและภรรยาคงต้องอาศัยอยู่ที่นี่กันต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3